วันนี้ (6 ธันวาคม) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและ iLaw รายงานตรงกันว่าศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษา ‘จิรวัฒน์’ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีแชร์โพสต์ในเฟซบุ๊ก 3 ข้อความ คือเรื่องการผูกขาดวัคซีนของสยามไบโอไซเอนซ์, ตั๋วช้าง และคำปราศรัยของ มายด์— ภัสราวลี จำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันชั้นอุทธรณ์
คดีของจิรวัฒน์ มีเหตุจากการที่เขาถูกกล่าวหาว่าแชร์โพสต์ทั้ง 3 โพสต์ได้แก่
- เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 แชร์โพสต์จาก ‘KTUK-คนไทยยูเค’ ที่กล่าวถึงช่วงการระบาด COVID-19 ซึ่งไทยไม่เข้าร่วมโครงการจัดหาวัคซีน COVAX ทำให้ตกขบวน เพราะรอการผลิตวัคซีนจาก บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ซึ่งมีรัชกาลที่ 10 ถือหุ้นอยู่ โดยใช้คำเรียกว่า “ต้องรอฟ้าประทาน?” ทำให้ได้วัคซีนล่าช้าและ “คนที่ซวยที่สุดคือประชาชนไทย”
- เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 แชร์โพสต์ที่กล่าวถึง ‘ตั๋วช้าง’ ซึ่งมีภาพหนังสือราชการเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจสี่หน้า ที่มีลายพระนามของพระราชินีสุทิดา
- เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 แชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กชื่อ KTUK-คนไทยยูเค ที่ถอดคำปราศรัยของภัสราวลี เกี่ยวกับบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์กับการเมืองไทย ทั้งในโพสต์ที่แชร์นั้น ยังมีการเรียกร้องให้ปฏิรูปพระมหากษัตริย์ โดยให้พระองค์ใช้พระราชอำนาจให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ
ต่อมาศาลตัดสินว่าการแชร์โพสต์ทั้งสาม เป็นความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) (5) โดยระบุว่า
- ประเด็นการวิจารณ์บริษัทเรื่องการจัดหาวัคซีน เป็นการใช้ข้อความที่ไม่ถูกต้องและไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่การตำหนิติเตียนหรือวิจารณ์รัฐบาล
- ประเด็นการแชร์โพสต์ตั๋วช้างพร้อมด้วยภาพหนังสือราชการที่มีลายพระนาม หมายถึงพระมหากษัตริย์และพระราชินี มีส่วนรู้เห็นกับการแต่งตั้งโยกย้ายช้าราชการตำรวจ แต่ในความจริงแล้ว การโยกย้ายตามกฎหมายนั้น ไม่ใช่อำนาจของพระมหากษัตริย์และพระราชินี จึงเป็นกรณีของการใส่ความ ไม่ใช่การตั้งคำถาม เป็นการใส่ความพระมหากษัตริย์ต่อบุคคลที่สามในประการที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
- สำหรับกรณีที่แชร์คำปราศรัยของภัสราวลีนั้น เป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจได้ว่าพระมหากษัตริย์แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ครอบงำกองทัพ แทรกแซงการเมือง เป็นการใส่ความ ไม่ใช่การตั้งคำถามซึ่งแสดงความเคารพ จึงเป็นการใส่ความในลักษณะที่อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 9 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา
ทั้งนี้ จิรวัฒน์ยอมรับว่าเป็นผู้แชร์โพสต์ดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น หรือกล่าวข้อความใดเพิ่มเติมจากเนื้อหาที่แชร์มา และเขายังยืนยันว่าเนื้อหาดังกล่าว เป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้
อย่างไรก็ดี ศูนย์ทนายฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า คดีดังกล่าวมี ภัทรวรรณ ขำมา เป็นผู้กล่าวหา โดยจิรวัฒน์ระบุว่า เขาเคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับผู้กล่าวหาก่อนหน้านี้ “จึงน่าสังเกตว่า คดีนี้อาจเป็นคดีความที่เกิดจากการกลั่นแกล้ง เนื่องจากความไม่พอใจส่วนตัว แต่ใช้ข้อกล่าวหามาตรา 112 เป็นเครื่องมือ”
อ้างอิงจาก