วันนี้ (7 ธันวาคม) ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาให้ ไบรท์—ชินวัตร จันทร์กระจ่าง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีปราศรัยเรียกร้องปล่อยตัวนักโทษการเมืองหน้าศาล ให้ลงโทษจำคุก แต่เห็นว่าไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และอยู่ในวิสัยที่จะกลับตัวเป็นคนดีได้ จึงให้รอลงอาญา 2 ปี
สำหรับคดีนี้ ชินวัตรถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) และการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีปราศรัยเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ บุ้ง-ใบปอ ที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565
ในคดีนี้มี อานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ โดยกล่าวหาว่าชินวัตรกล่าวปราศรัยถึงการโอนย้ายทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไปเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ในช่วงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, การโอนย้ายกองกำลังทหารไปเป็นกองกำลังส่วนพระองค์, เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองทุกคดี และไม่ให้ดำเนินคดีมาตรา 112 กับประชาชน
จากนั้น ชินวัตรก็ตัดสินใจให้การรับสารภาพ และยังโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม) ว่า “เป็นคดีแรกที่ผมทำการสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ที่ผ่านมาผมเคยหลงผิดบัดนี้ดวงตาผมได้เห็นธรรมแล้ว ขอพระบารมีพระองค์ท่านทรงปกปักรักษาให้กระผมได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณแผ่นดินในการทำหน้าที่เป็นผู้นำชุมชน เพื่อความผาสุขของพี่น้องในชุมชน ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน อามีนน น้อมรับคำตัดสินของศาลไม่ว่าจะออกมารูปแบบใดก็ตาม”
ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุปว่า ในคดีนี้จำเลยมีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาจำคุก 3 ปี ปรับ 200 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน และ ปรับ 100 บาท
ศาลยังเห็นว่าชินวัตรไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน อีกทั้งในคำประกอบคำให้การรับสารภาพยังระบุว่าตนกลับใจแล้ว “อยู่ในวิสัยที่จะกลับตัวเป็นคนดีได้ รวมถึงจำเลยยังได้เข้าร่วมกิจกรรมบริการทางสังคมต่างๆ หากคุมประพฤติจะเป็นผลดีกับจำเลยมากกว่า”
“โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี คุมประพฤติจำเลย 2 ปี และให้จำเลยไปรายงานต่อพนักงานคุมประพฤติปีละ 3 ครั้ง บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง ให้จำเลยงดเว้นกิจกรรมที่มีลักษณะเดียวกับการกระทำผิดนี้อีก ในส่วนเรื่องอัยการขอนับโทษต่อ ศาลยกคำร้อง เนื่องจากจำเลยยังไม่เคยถูกพิพากษาในคดีใดมาก่อน” ศูนย์ทนายฯ รายงาน
อ้างอิงจาก