พรรคก้าวไกล ลาออกจาก กมธ.แลนด์บริดจ์ หลังในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในการพิจารณารายงาน สส.พรรคก้าวไกลได้ทักท้วงถึงความไม่สมบูรณ์ของรายงาน รวมถึงความเป็นไปได้ของโครงการ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
วันนี้ (12 มกราคม) หลังการประชุม กมธ.แลนด์บริดจ์ พรรคก้าวไกลประกาศลาออกจาก กมธ. ที่อยู่ในสัดส่วนของพรรค
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า ในการประชุมมีการซักถามที่ค้างอยู่จากวันที่ 22 ธันวาคม 2566 กับทางสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบศึกษาโครงการ แต่ยังมีข้อถกเถียงในหลายประเด็นเพื่อหาข้อสรุปถึงความเป็นไปได้ และความคุ้มค่าของโครงการนี้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ศิริกัญญากล่าวว่าทางผู้ชี้แจง ตอบเพียงคำถามเดียวคือเรื่อง ‘สินค้าเทกอง’ แล้วทาง ประธาน กมธ.ก็สั่งปิดประชุม โดยที่ทางหน่วยงานยัง ‘ไม่ได้ตอบคำถามจนสิ้นสงสัย’
อีกทั้งในวันนี้ ศิริกัญญายังระบุว่าเป็น การประชุมเพื่อพิจารณาตัวรายงาน ซึ่งหมายความว่าเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งๆ ที่คำตอบหลายข้อยังไม่ครบถ้วน แต่ประธานกลับไม่เชิญ สนข. แล้วพยายามลงมติเพื่อรับรองตัวรายงาน
รวมไปถึง ศิริกัญญายังระบุว่าไม่มีการส่งข้อมูลมาให้พิจารณา ไม่มีการขอขยายอายุของ กมธ. ชุดนี้ออกไปเพื่อให้มีการพิจารณาอย่างต่อเนื่องอีกเช่นกัน
ด้าน จุลพงศ์ อยู่เกษ สส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า พรรคก้าวไกล ได้ทักท้วงถึงความไม่สมบูรณ์ของรายงานและความจำเป็นที่ กมธ. ต้องได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติมจาก สนข. เช่น
– คำถามเรื่องท่อส่งน้ำมันที่ไม่มีความชัดเจน
– การเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาสภาพแวดล้อมซึ่งอาจขัดกับมติ ครม.ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้
– เรื่องความน่าเชื่อถือในการประเมินความต้องการของบริษัทเดินเรือที่จะมาใช้โครงการแลนด์บริดจ์ที่เขามองว่าเกินจริง
– การประเมินความแออัดของการเดินเรือในช่องแคบมะละกาและท่าเรือสิงคโปร์ที่ยังคงมีข้อสงสัย
– ตัวเลขทางการเงินที่สมเหตุผลในการคำนวณผลตอบแทนทางการเงินและทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
นอกจากนี้ จุลพงศ์ยังระบุด้วยว่า บทสรุปของรายงานการศึกษาโครงการที่ สนข. เคยทำนั้น ขัดแย้งกับบทสรุปของรายงานการศึกษาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการศึกษา ซึ่งบทสรุปของ สศช.ปรากฏผลว่า “โครงการแลนด์บริดจ์ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน”
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.พรรคก้าวไกลกล่าวว่า เจตนารมณ์หลักของ กมธ. คือหาคำตอบว่าจริงๆ แล้ว โครงการแลนด์บริดจ์ จะมีกำไรหรือขาดทุน จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยได้หรือไม่ แต่ผ่านมา 90 วันก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมรายงานของ สศช. จึงแตกต่างจากรายงานของ สนข. อีกทั้งข้อมูลหลายอย่างที่อยู่ในรายงานที่มีการลงมติเห็นชอบ ก็ยังใช้ข้อมูลของ สนข. เกือบทั้งหมด โดยไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงตัดข้อมูลของ สศช. ทิ้ง
ในฐานะ กมธ. ศุภณัฐมองว่าไม่ควรเลือกหยิบหรือไม่หยิบข้อมูลไหนมาใช้ แต่การเลือกหยิบข้อมูลของ สนข. มาใช้อย่างเดียว เป็นการนำข้อมูลด้านเดียวจากหน่วยงานราชการไปนำเสนอให้ต่างชาติมาลงทุน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้
ทั้งนี้ กมธ.โครงการแลนด์บริดจ์ที่ลาออกมี 5 คน เป็น สส.พรรคก้าวไกล 4 คนและเป็นอาจารย์จากภายนอกอีกหนึ่งคน
อ้างอิงจาก