16.00 น. วันนี้ (31 มกราคม) พรรคก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรก ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การเสนอแก้ไขกฎหมาย ม.112 โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ถือเป็นการใช้เสรีภาพในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
การแถลงข่าวที่รัฐสภา มี ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวชี้แจงเป็นภาษาไทย และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเป็นภาษาอังกฤษ
“หลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ แม้ว่าศาลจะวินิจฉัยว่า การกระทำของ พรรคก้าวไกลถือว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครอง แต่พรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้งว่า เราไม่ได้มีเจตนาเพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติแต่อย่างใด” ชัยธวัชระบุ
หัวหน้าพรรคก้าวไกลชี้แจงด้วยว่า พรรคก้าวไกลมีความกังวลต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาว ดังนี้
- “อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต”
- “อาจกระทบต่อความเข้าใจและการให้ความหมายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์อันเป็นประมุข หลักการสำคัญของระบอบการเมืองไม่มีความชัดเจนแน่นอน สิ่งที่เคยกระทำได้ในอดีต ทั้งในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือในระบอบประชาธิปไตย อาจกลายเป็นการล้มล้างการปกครองได้ในปัจจุบัน และอนาคต”
- “การตีความว่าอะไรคือการล้มล้างการปกครอง อาจจะเกิดปัญหา ที่พวกเราเข้าใจหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอนไม่ตรงกัน มีความคลุมเครือ ทั้งในแง่การตีความข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเจตนา”
- “อาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่อดุลยภาพระหว่างประชาธิปไตยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในระบอบการเมืองไทยในอนาคต”
- “อาจจะทำให้สังคมไทยสูญเสียโอกาสในการใช้ระบบรัฐสภา ในระบอบประชาธิปไตย ในการหาข้อยุติ ความขัดแย้งหรือ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันในสังคม ในอนาคต”
- “อาจส่งผลกระทบให้ประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ กลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เสียเอง”
ชัยธวัชกล่าวต่อมาว่า “พรรคก้าวไกลขอขอบคุณทุกกำลังใจจากประชาชนที่ส่งมาให้พวกเราตลอดหลังจากที่มีการอ่านคำวินิจฉัย
“แต่อย่างใดก็ตาม คำวินิจฉัยในวันนี้ จะไม่ได้กระทบเฉพาะพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะกระทบต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ และสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นเรื่องของพวกเราทุกคน ไม่ใช่ของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของอนาคตของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”