พวงทอง ภวัครพันธุ์ รองศาสตราจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการเสวนา ‘ปัญหาและผลกระทบจากการถูกดำเนินคดีการเมือง’ ในกิจกรรม ‘ส่งรักให้ถึงสภา’ ที่ลานประชาชนของรัฐสภา วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2567)
กิจกรรมดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลา 14.00-20.00 น. ก่อนที่จะส่งมอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ให้กับประธานรัฐสภาและหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค สิ้นสุดแคมเปญ 14 วันของเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน
“ทำไม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน มันถึงไม่ผ่านสักที รวมถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคก้าวไกลด้วย เพราะว่ามันมีเรื่อง ม.112 อยู่” พวงทองกล่าวในฐานะส่วนหนึ่งของการเสวนา
“ม.112 ในทัศนะของพวกเรา เราเชื่อว่ามันไม่ใช่อาชญากรรมที่ร้ายแรงอะไร เพราะมันไม่ทำให้เกิดความสูญเสีย หรือว่าไปทำร้ายร่างกายใครเลย แต่ในทัศนะของรัฐ ของผู้มีอำนาจ ของกลุ่มฝ่ายขวา มันกลับเป็นคดีที่ร้ายแรงที่สุด
“สำหรับพวกเขา มันเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่ประนีประนอมไม่ได้ เพราะความแตกต่างทางความคิดที่อีกฝ่ายเสนอออกไป มันไปทำลายฐานความชอบธรรมของตัวระบอบของพวกเขา มันไปสั่นคลอนความมั่นคงของพวกเขาในระยะยาว นี่คือสิ่งที่พวกเขากลัว และเขายอมรับไม่ได้”
“พวกเขารู้ว่า ม.112 ไม่ฆ่าใคร เขารู้แน่ๆ เขารู้ว่ามันเป็นอาชญากรรมทางความคิด เขารู้ว่ามันเป็นคดีทางการเมืองแน่นอน แต่เขาไม่สามารถยอมรับได้ เพราะถ้าเขายอมรับ เท่ากับว่าเขาต้องยอมให้ฝ่ายประชาธิปไตยมีพื้นที่ในการแสดงออก แต่ยิ่งคุณแสดงความคิดเท่าไหร่ มันยิ่งไปทำลายความชอบธรรมของพวกเขามากยิ่งขึ้น และนี่ต่างหากคืออันตรายทางความคิด และรัฐไทยยอมรับไม่ได้
“ฉะนั้น สิ่งที่เขาทำ เขาใช้วิธีการปราบปราม จับกุมคุมขัง ไล่ล่าแม้กระทั่งคนที่หนีออกนอกประเทศไปแล้ว แล้วก็ปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับให้มีการนิรโทษกรรม ถ้าอยากจะเป็นอิสระ ขอโทษสิ ยอมรับสิ ว่าสิ่งที่คุณทำนั้นมันผิด ซึ่งอันนี้ไม่ใช่การประนีประนอม นี่คือการบอกให้คุณแพ้ บอกให้คุณยอมรับผิด” พวงทองระบุ