“ฉันรู้สึกโล่งใจ มันเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน”
คำพูดของ โซริยา เทอร์ บีค (Zoraya ter Beek) ชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้ประสบกับอาการซึมเศร้าเรื้อรัง วิตกกังวล และความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ซึ่งเธอเพิ่งได้รับไฟเขียวในการถูกทำให้เสียชีวิต ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
เล่าก่อนว่า เทอร์ บีค เริ่มมีอาการเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้ เธอยังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก อย่างไรก็ตาม เธอคิดเสมอว่าสักวันหนึ่งเธอจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย “ฉันยังคงทําร้ายตัวเองและรู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว” เธอกล่าว
อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจเข้ารับการรักษาแบบจริงจัง ทั้งการบําบัดด้วยการพูดคุย การใช้ยา และการทำให้เกิดการชักด้วยไฟฟ้า (ECT) มากกว่า 30 ครั้ง เธอระบุว่า ระหว่างการบําบัดเธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนของตัวเองมากขึ้น ทว่ามันกลับไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย
“ช่วงเริ่มต้นของการรักษา ฉันมีความหวังว่าฉันจะดีขึ้น แต่ยิ่งการรักษาดําเนินไปนานเท่าไหร่ ฉันกลับเริ่มหมดหวัง” เทอร์ บีค เล่าถึงการรักษาตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา เมื่อเวลาผ่านไปถึงเดือนสิงหาคมปี 2020 เธอตัดสินใจไม่เข้ารับการรักษาใดๆ อีกต่อไป และสมัครการขอการุณยฆาตในปีเดียวกัน เทอร์ บีค ยอมรับว่า กระบวนการดังกล่าวทั้งยาวนานและซับซ้อน
“ฉันอยู่ในรายชื่อรอการประเมินเป็นเวลานาน เพราะมีแพทย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่เต็มใจช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางจิตใจ ฉันต้องได้รับการประเมินครั้งแล้วครั้งเล่า”
เทอร์ บีค กล่าวว่า แต่ตลอดสามปีครึ่งที่ผ่านมาเธอไม่เคยลังเลกับการตัดสินใจของตัวเองเลย แม้จะรู้สึกผิดกับแฟน ครอบครัว และเพื่อน โดยเธอย้ำว่า ทว่าเธอมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ถึงแม้ว่าผู้คนมากมายจะพูดกับเธอเสมอว่า “อย่าทํา ชีวิตของคุณมีค่าก็ตาม” ซึ่งในวันนั้นทีมแพทย์จะมาที่บ้านของเทอร์ บีค พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยการให้ยาระงับประสาทแก่เธอ และรอจนกว่าเธอจะอยู่ในอาการโคม่า จึงจะให้ยาที่หยุดการเต้นหัวใจ
“สําหรับฉันมันไม่ต่างกับการหลับไป และแฟนของฉันจะอยู่ตรงนั้นกับฉันด้วย แต่ฉันมีบอกกับเขาว่าไม่เป็นไรนะ ถ้าอยากออกจากห้องไป เพราะฉันเชื่อว่าเมื่อคุณรักใครสักคน คุณต้องปล่อยพวกเขาไป” เธอระบุปิดท้าย
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายของเนเธอร์แลนด์ ผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือด้วยการการุณยฆาต บุคคลนั้นต้องประสบกับ ‘ความทุกข์ทรมานที่ไม่สามารถทนได้’ โดยกฎหมายนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 2002
อ้างอิงจาก