วันนี้ (23 พฤษภาคม 2024) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (United States Department of Justice หรือ DOJ) ร่วมกับอีก 30 รัฐ ยื่นฟ้อง ‘ไลฟ์ เนชั่น เอ็นเทอร์เทนเมนท์’ (Live Nation Entertainment) หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ดูแลคอนเสิร์ต ดิเอราส์ทัวร์ (The Eras Tour) ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ในข้อหา ‘ผูกขาดธุรกิจ’
คดีนี้นับเป็นหนึ่งในคดีที่ต่อต้านการผูกขาดที่ถูกจับตามองทั่วโลก โดย กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า Live Nation พร้อมด้วยบริษัทลูกอย่าง ทิกเก็ตมาสเตอร์ (Ticketmaster) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายตั๋วสำหรับการแสดงดนตรีสด กีฬา และละครเวที รายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดและผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งขัดขวางการแข่งขันในตลาดมามากว่า 15 ปี
การฟ้องร้องครั้งนี้ถือเป็นความพยายามที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมในโครงสร้างอุตสาหกรรมคอนเสิร์ต และฟื้นฟูการแข่งขันในตลาด พร้อมสนับสนุนทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับแฟนคลับ แฟนเพลงในราคาที่ต่ำกว่าเดิม และเปิดกว้างพื้นที่ให้ศิลปินทำการแสดงแขนงอื่นๆ อีกด้วย
การฟ้องร้องครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมีที่มาจากการร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดการคอนเสิร์ต The Eras Tour ของ Taylor Swift เมื่อช่วงปีที่แล้ว โดยแฟนๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประสบปัญหามากมาย ทั้งการบริการลูกค้ายอดแย่ จัดการคอนเสิร์ตไม่ดี หรือระบบการจองตั๋วอันวุ่นวายที่ทำให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเยอะไปหมด ทั้งนี้หลายฝ่ายมองว่าต้นตอของปัญหา คือการผูกขาดธุรกิจที่ทำให้ไม่มีการแข่งขันในตลาด
“ถึงเวลาแล้วที่แฟนๆ และศิลปินจะต้องหยุดรับกรรมจากการผูกขาดของ Live Nation” เมอร์ริก การ์แลนด์ (Merrick Garland) อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าว
ปัจจุบัน Live Nation มีศิลปินกว่า 400 คน อยู่ในความดูแล อีกทั้งเป็นผู้ควบคุมการจัดหน่ายและจัดการสถานที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ทั่วประเทศ รวมๆ แล้วมากกว่า 80%
สาเหตุที่มีสัดส่วนในอุตสาหกรรมคอนเสิร์ตมากถึงขนาดนี้ก็เพราะ ในปี 2010 เกิดการควบรวมระหว่าง Live Nation และ Ticketmaster แต่ ณ ขณะนั้นกลับไม่มีการกีดกันการควบรวมนี้ ทำให้ในปัจจุบันกิจการทั้งสองกลายเป็นผู้ดูแลการจัดการคอนเสิร์ตแทบจะครบวงจร
ล่าสุด Live Nation กล่าวว่าจะปกป้องตัวเองจาก ‘ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล’ พร้อมกับเสริมว่า การเรียก Ticketmaster ว่าเป็นธุรกิจผูกขาดอาจเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แต่ถึงอย่างไร คดีนี้ก็จะแพ้ในศาล เนื่องจากไม่ได้ทำความเข้าใจเศรษฐศาสตร์พื้นฐานของธุรกิจคอนเสิร์ตมาดีพอ”
แม้ว่าการพิจารณาคดีอาจใช้เวลาต่อไปอีกหลายปี แต่หากการฟ้องร้องเพื่อต่อต้านการผูกขาดนี้ประสบความสำเร็จ อุตสาหกรรมคอนเสิร์ตก็ย่อมเกิดความหวังในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจเกิดกฎเกณฑ์ที่ปกป้องเหล่าศิลปินและสถานที่จัดคอนเสิร์ต และที่สำคัญแฟนคลับจะได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมในที่สุด
อ้างอิงจาก