วิตามินรวม (Multivitamin) เป็นอาหารเสริมที่หลายคนกินเป็นประจำ เพื่อช่วยป้องกันโรค และช่วยให้ชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้น แต่งานวิจัยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (The National Cancer Institute) ในสหรัฐฯ พบว่าการกินอาหารเสริมวิตามินรวมทุกวัน ไม่ได้ช่วยให้เรามีชีวิตยืนยาวแต่อย่างใด และอาจเพิ่มความเสี่ยง และอาจเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้! แต่ทั้งนี้ ยังสามารถใช้ได้กับคนที่ไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอต่อวันได้
งานวิจัยดังกล่าวศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการกินวิตามินรวม กับการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรัง อย่างโรคหัวใจและมะเร็ง โดยวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เข้าร่วมการวิจัยถึง 390,124 คน ซึ่งเป็นคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 74 ปี มีสุขภาพดี และไม่มีประวัติโรคเรื้อรังที่สำคัญ เพื่อหาคำตอบว่าการกินวิตามินรวมทุกวันสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้หรือไม่
ผู้วิจัยได้ติดตามเก็บข้อมูลของผู้เข้าร่วมการวิจัยถึง 20 ปี โดยให้รายงาน ‘ความถี่ในการกินวิตามินรวม’ ด้วยตัวเอง จากนั้นแบ่งข้อมูลออกเป็นสามกลุ่ม คือผู้ที่ไม่กินวิตามินรวม กินบางครั้ง และกินทุกวัน จากนั้นจึงติดตามประวัติสุขภาพของผู้เข้าร่วม
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้วิจัยยังได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการเป็นโรคเรื้อรังของผู้เข้าร่วมวิจัย เช่น ประวัติการกิน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ การออกกำลังกาย ชาติพันธุ์ ดัชนีมวลกาย รวมถึงประวัติโรคเรื้อรังในครอบครัว
แล้วการวิจัยมีผลการศึกษาว่าอย่างไร?
ผลการวิจัย ‘ไม่พบ’ หลักฐานว่าการกินวิตามินรวมทุกวัน จะช่วยให้ ‘อายุยืนยาวขึ้น’ ในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี อีกทั้งพบว่าผู้ที่กินวิตามินรวมทุกวัน มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้กินถึง 4%
อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้มีข้อจำกัดที่มองข้ามไม่ได้ คือ เป็น ‘การศึกษาเชิงสังเกต’ (observational study) ที่ไม่สามารถระบุเหตุและผลได้ อีกทั้งอาจมีปัจจัยอื่นที่ไม่ได้นำมาพิจารณา อย่างการใช้บริการสุขภาพ หรือการรักษาพยาบาล ที่มีผลกระทบต่อการเป็นโรคเรื้อรัง
นอกจากนี้ สื่อข่าวสารทางการแพทย์ (Medical News Today) รายงานว่าการค้นพบครั้งนี้ไม่สามารถสรุปให้ครอบคลุมประชากรในวงกว้างได้ เนื่องจากการวิจัยดังกล่าวอาจขาดความหลากหลาย และไม่ครอบคลุมสถานะทางสุขภาพ
อีกทั้งยังระบุว่าการกินวิตามินรวมยังคงเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ทางสุขภาพที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประโยชน์ในการเสริมสร้างการรับรู้ในผู้สูงอายุ
“แม้ว่าวิตามินรวมอาจไม่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันโรคได้ แต่ก็สามารถใช้ได้กับคนที่ไม่ได้รับสารอาหาร ที่เพียงพอตามปริมาณที่แนะนำต่อวัน” อเล็กซานดรา ฟิลิงเกรี (Alexandra Filingeri) นักโภชนาการ และแพทย์ด้านโภชนาการทางคลินิกกล่าวกับ Medical News Today
ประเด็นเกี่ยวกับประโยชน์ของวิตามินรวมยังคงถูกศึกษาต่อไป งานวิจัยนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวในวงการอาหารเสริมที่ทำให้สังคมตั้งคำถามและพูดถึงประโยชน์ของการบริโภคอาหารเสริมมากขึ้น และจากนี้ไปตัวผู้บริโภคเองอาจต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ว่าวิตามินรวมหรืออาหารเสริมชนิดอื่นๆ มีประโยชน์ต่อตัวเองหรือเปล่า?
อ้างอิงจาก