สิ่งหนึ่งที่วนกลับมาพร้อมกับการเกณฑ์ทหารประจำปี หนีไม่พ้นข้อถกเถียงเกี่ยวกับ ‘การยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ซึ่งที่ผ่านมาก็หลายฝ่ายพยายามปรับปรุงระบบเกณฑ์ทหารไทย
หากย้อนกลับไปดูนโยบายหาเสียง ในช่วงการเลือกตั้งปี 2566 จะพบว่าก็มีหลายพรรคที่สัญญาว่าจะปรับปรุงระบบเกณฑ์ทหาร เช่นพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงว่า จะยกเลิกการเกณฑ์ทหารจากการบังคับ ให้เป็นโดยสมัครใจ พร้อมกับปรับปรุงการสมัครเกณฑ์ทหารออนไลน์ ให้ทำง่ายและครอบคลุม โดยไม่กำหนดเป้าหมายการรับ
ส่วนอดีตพรรคก้าวไกล เคยหาเสียงในประเด็นนี้เหมือนกัน โดยเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจทั้งหมด โดยไม่กระทบต่อภารกิจในการรักษาความมั่นคง ผ่านการลดยอดพลทหาร ที่ไม่จำเป็นต่อภารกิจความมั่นคง (เช่น ยอดผี พลทหารรับใช้ งานที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง)
เมื่อการเลือกตั้งครั้งนั้นสิ้นสุดลงและ เศรษฐา ทวีสิน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กระแสยกเลิกเกณฑ์ทหารก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยวันที่ 3 กันยายน 2566 สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมในขณะนั้น ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ หลังจากร่วมหารือกับนายกฯ และผู้นำเหล่าทัพ ระหว่างมื้อกลางวัน ว่า
“สิ่งที่จะเห็นผลเป็นรูปธรรมในทันที เช่นการเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ ในเดือนเมษายน 2567 จะเห็นอัตราเกณฑ์ทหารที่ลดลงจากเดิมอย่างแน่นอน และจะค่อยๆ หมดไปจนเหลือเพียงการเข้ากองทัพแบบสมัครใจ”
นอกจากนี้ ก็ยังมีการเสนอกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหารในสภาฯ ให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ ยกตัวอย่าง อดีตพรรคก้าวไกลที่ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหารฉบับใหม่ ซึ่งเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็น ‘ระบบสมัครใจ’ พร้อมยกเลิก พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ที่บังคับใช้มานานกว่า 70 ปี จนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวก็ถูกรัฐบาลในยุคนายกฯ เศรษฐา ปัดตกไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันระบบการเกณฑ์ทหาร ยังคงไม่เป็นไปอย่างสมัครใจ แต่ก็ยังมีความพยายามลดจำนวนทหารเกณฑ์ พร้อมดึงดูดผู้สมัครใจผ่านสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของกองทัพ โดยกระทรวงกลาโหม ได้เปิดเผยสถิติ ‘ความสมัครใจ’ ในการรับราชการทหาร ระหว่างปี 2564 ถึง 2567 ว่าเพิ่มขึ้นทุกปี
- ปี 2564 มีผู้สมัคร 28,572 คน
- ปี 2565 มีผู้สมัคร 29,997 คน
- ปี 2566 มีผู้สมัคร 35,617 คน
- ปี 2567 มีผู้สมัคร 38,160 คน
- ปี 2568 ไทยพีบีเอสรายงานว่า มีโควตารับสมัครกว่า 41,790 คน
แล้วต่อจากนี้ ความพยายามเพื่อยกเลิกเกณฑ์ทหารจะเป็นอย่างไร? อาจต้องดูจากวิสัยทัศน์ของ รมว.กลาโหมคนปัจจุบัน โดยล่าสุดวันที่ 25 มีนาคม 2568 ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า
“ท่านบอกจะมาเป็นรัฐบาล และจะปรับปรุงกองทัพ ลดเลิกการเกณฑ์ทหาร มันไม่ง่ายอย่างที่ท่านคิดนะเพราะอยู่ๆ ท่านยกเลิกไป และเกิดมีอะไรเกิดขึ้นในประเทศ ท่านจะจัดการอย่างไร”
ภูมิธรรมกล่าวว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวเหมือนกัน การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในกองทัพก็ต้องใช้เวลา” โดยระบุว่า ตัวเองได้พูดคุยกับกองทัพแล้ว ซึ่งทางนั้น “ก็บอกว่าไม่ได้คาดหวังว่าผมเข้ามาแล้ว จะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่มีหลายคนเรียกร้อง แต่อย่างน้อยต้องมีการเปลี่ยนแปลง”
“เข้ามาแล้วจะยกเลิกเกณฑ์ทหารเลย 100 เปอร์เซ็นต์ เข้ามาแล้วจะพัฒนากองทัพให้มีนายพลลดไป มันทำแบบนั้นไม่ได้” รมว.กลาโหมระบุ
อ้างอิงจาก