มาร์โค รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าเตรียมดำเนินการเพิกถอนวีซ่านักศึกษาจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาในสาขาวิชาที่มีความสำคัญในมุมมองของสหรัฐฯ
การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งภาคการศึกษาของสหรัฐฯ เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นอกจากการเพิกถอนวีซ่าแล้ว รูบิโอยังระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะปรับปรุงเกณฑ์การพิจารณาวีซ่าสำหรับชาวจีนและชาวฮ่องกงให้มีมาตรการที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งเรื่องการค้า และจากความกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการสอดแนมและการถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านช่องทางสถาบันการศึกษา
โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศของจีนเคยให้คำมั่นว่าจะ “ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของนักศึกษาในต่างประเทศอย่างเข้มงวด” หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์พยายามจะระงับการรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งนักศึกษาจำนวนไม่น้อยก็เป็นชาวจีน
ปัจจุบัน ในสหรัฐฯ มีนักศึกษาจีนหลายแสนคน ดังนั้น ถ้านโยบายนี้ถูกนำไปใช้ในวงกว้าง อาจส่งผลกระทบต่อแหล่งรายได้หลักของโรงเรียนในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังอาจกระทบต่อ การบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถ สำหรับบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อีกด้วย
แม้ว่าจำนวนนักศึกษาจีนในสหรัฐฯ จะลดลงจากจำนวนสูงสุดที่ประมาณ 370,000 คนในปี 2019 เหลือประมาณ 277,000 คนในปี 2024 จากความตึงเครียดทางการเมืองและการระบาดของ COVID-19 แต่การจะเพิกถอนวีซ่าเพิ่ม และความไม่แน่นอนต่างๆ ก็อาจทำให้ตัวเลขลดลงอีก และอาจทำให้นักศึกษาจีนจำนวนหนึ่งเลือกที่จะไปศึกษาต่อในยุโรป หรือกลับไปประกอบอาชีพที่จีนแทน
รัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าจีนอาจใช้สภาพแวดล้อมการวิจัยที่เปิดกว้างและได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางในสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการควบคุมการส่งออกและกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติอื่นๆ ความกังวลนี้ได้นำไปสู่การเพิ่มการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อสถาบันการศึกษาและโครงการวิจัยต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจีน
อย่างไรก็ตาม มีการแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายนี้ โดย ยาฉิว หวัง (Yaqiu Wang) นักวิจัยด้านสิทธิมนุษยชนชาวจีนที่ทำงานในสหรัฐฯ กล่าวว่า แม้ปักกิ่งจะใช้ประโยชน์จากความเปิดกว้างทางวิชาการของสหรัฐฯ ในการสอดแนมและขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจริง แต่นโยบายนี้ก็น่ากังวล
หวัง กล่าวว่า “การเพิกถอนในวงกว้างและการห้ามโดยรวมจะไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและความเป็นอยู่ของนักศึกษาจีนที่กำลังศึกษาและทำงานในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อการทำลายสถานะของอเมริกาในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์มาอย่างยาวนานอีกด้วย”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พฤษภามคม 2025 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ระงับการนัดหมายใหม่สำหรับผู้สมัครวีซ่านักศึกษาและผู้เยี่ยมชมแลกเปลี่ยนต่างชาติทั้งหมดแล้ว และรัฐบาลทรัมป์ยังได้ขยายการตรวจสอบไปยังโซเชียลมีเดียของนักศึกษาต่างชาติ และพยายามเร่งรัดการเนรเทศและเพิกถอนวีซ่านักศึกษา ตามวาระการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด
อ้างอิงจาก