บริการเฉพาะสำหรับเยาวชน LGBTQ+ ของสายด่วน 988 Suicide & Crisis Lifeline ซึ่งเป็นสายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติของสหรัฐอเมริกา จะยุติการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป
ตามแถลงการณ์จากสำนักงานบริหารบริการด้านการใช้สารเสพติดและสุขภาพจิต (SAMHSA) ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ (HHS) ระบุ ซึ่งมีที่มาจากการตัดสินใจเรื่องแผนงบประมาณในปีงบประมาณ 2026 ของรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ตัดงบสนับสนุนบริการสำหรับเยาวชน LGBTQ+ ในสายด่วน 988 ออกไป
รัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า บริการนี้ “มีอุดมการณ์ทางเพศที่รุนแรง” พร้อมเสริมว่า ผู้ที่ติดต่อสายด่วน 988 ทุกคนก็ยังคงเข้าถึงที่ปรึกษาด้านวิกฤตได้ เพียงแค่จะไม่มีบริการเฉพาะทางสำหรับ LGBTQ+ อีกต่อไป
สายด่วน 988 Lifeline เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2022 เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตได้ง่ายขึ้น และได้มีการเพิ่ม เครือข่ายย่อยสำหรับบุคคล LGBTQ+ ซึ่งผู้โทรสามารถเลือก กด 3 เพื่อเชื่อมต่อกับที่ปรึกษาที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษสำหรับประเด็นนี้โดยเฉพาะ
จากข้อมูลล่าสุดของ SAMHSA ตั้งแต่ปี 2022 มีผู้ติดต่อ 988 Lifeline มากกว่า 14.5 ล้านคน โดยเกือบ 1.3 ล้านคนเลือกใช้บริการเฉพาะทางสำหรับ LGBTQ+
เจย์มส์ แบล็ค (Jaymes Black) ซีอีโอของ The Trevor Project ซึ่งเป็นองค์กรป้องกันการฆ่าตัวตายสำหรับเยาวชน LGBTQ+ กล่าวว่า “การป้องกันการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องของคน ไม่ใช่การเมือง” และแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการยกเลิกโครงการที่เคยช่วยชีวิตเยาวชน LGBTQ+ หลักล้านคน
จากกฎหมายที่ผ่านในปี 2020 อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มี 988 Lifeline สำหรับ LGBTQ+ นั้น ระบุว่าเยาวชน LGBTQ+ มีแนวโน้มที่จะคิดฆ่าตัวตายมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นมากกว่า 4 เท่า โดย 1 ใน 5 ของเยาวชน LGBTQ+ และมากกว่า 1 ใน 3 ของเยาวชนข้ามเพศรายงานว่าเคยพยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งในขณะนั้น ทรัมป์ซึ่งเป็นประธานาธิบดีในสมัยแรก ก็สนับสนุนและลงนามในกฎหมายนี้ด้วย
สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครตบางคนได้ออกมาคัดค้านการยุติบริการเฉพาะทางสำหรับเยาวชน LGBTQ+ ของ 988 รวมถึง แทมมี่ บอลด์วิน (Tammy Baldwin) วุฒิสมาชิก จากรัฐวิสคอนซิน ซึ่งบอลด์วินกล่าวว่า “รัฐบาลทรัมป์กำลังทำให้เราถอยหลังไปหนึ่งก้าว และบอกเด็ก ๆ LGBTQ+ ว่าพวกเขาไม่มีความสำคัญและไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือเมื่อพวกเขาอยู่ในภาวะวิกฤต”
การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Month) ซึ่งตรงกับเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งไม่ได้มีเพียงนโยบายนี้เท่านั้นที่สะท้อนการจำกัดสิทธิของ LGBTQ+
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ยังสั่งให้ถอดถอนทหารข้ามเพศออกจากกองทัพสหรัฐฯ และออกคำสั่งบริหารที่สหรัฐฯ จะยอมรับเพียงสองเพศเท่านั้น ได้แก่ เพศชายและเพศหญิง นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังประกาศว่าจะไม่อนุญาตให้ผู้สมัครเลือก X เป็นเพศของตนในหนังสือเดินทางสหรัฐฯ อีกต่อไป แต่บุคคลข้ามเพศจะต้องเลือก ชาย หรือ หญิง ให้ตรงกับเพศที่กำหนดเมื่อแรกเกิด
อ้างอิงจาก