แม้ว่า ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ จะได้รับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ในระดับชาติตั้งแต่ปี 2566 แต่ยังไม่ได้ขึ้นบัญชีในระดับนานาชาติ โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้ชุดไทยขึ้นทะเบียนในระดับนานาชาติ
ล่าสุด (8 กรกฎาคม 2568) ประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า UNESCO ได้ยืนยันว่ารายการ ‘ชุดไทย: ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติ’ จะถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมของ UNESCO
การประชุมดังกล่าวมีชื่อเต็มๆ ว่าการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) สมัยที่ 21 ในปี 2569
การเสนอชื่อต่อที่ประชุมฯ ระดับนานาชาติครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริม Soft Power และการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 และปัจจุบันประเทศไทย มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ขึ้นบัญชีระดับชาติแล้ว จำนวน 396 รายการ
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมระบุว่า การที่ประเทศไทยเสนอ ‘ชุดไทย’ ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO เพื่อให้ชุดไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ด้วยความภาคภูมิใจ ภายใต้หลักของความเข้าใจ ความสร้างสรรค์ และการอยู่ร่วมกันอย่างสง่างามของมวลมนุษยชาติ
“UNESCO ยืนยันเสมอว่า วัฒนธรรมคือสะพาน ไม่ใช่กำแพง การขึ้นทะเบียนชุดไทย จึงเป็นการแสดงความหวงแหนและภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็นของเรา และพร้อมส่งต่อให้เป็นสมบัติร่วมของมนุษยชาติ” ประสพย้ำ
ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรม ยังเชิญชวนประชาชนสนับสนุนให้ ‘ชุดไทย’ และ ‘มวยไทย’ ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของยูเนสโก ในปี 2569 และปี 2571 ตามลำดับ ให้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในระดับนานาชาติ
อ้างอิงจาก