มีงานวิจัยชิ้นใหม่ที่น่าสนใจ เพราะทำให้เพียงการตรวจเลือดธรรมดา สามารถใช้ทำนายโอกาสที่คนๆ หนึ่งจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ล่วงหน้า สูงสุดถึง 16 ปีเลยทีเดียว
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine ระบุว่า การตรวจวัดปริมาณโปรตีน Neurofilament ในเลือด สามารถใช้ทำนายโอกาสที่คนๆ นั้นจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะการเพิ่มขึ้นของโปรตีนถือเป็นสัญญาณเริ่มแรกของโรคดังกล่าว
ศาสตราจารย์ Matthias Jucker ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาจากเยอรมนี หนึ่งในคณะผู้วิจัย ระบุว่า ยิ่งเราตรวจพบโปรตีน Neurofilament ในเลือดมากเท่าไร ก็ยิ่งแปลว่าเซลล์ประสาทในสมองถูกทำลายมากขึ้นเท่านั้น
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคอัลไซเมอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะคนมักเป็นโรคอัลไซเมอร์กว่าอาการต่างๆ จะออกถึง 10-20 ปีเต็มๆ ดังนั้นหากมีวิธีการที่สามารถตรวจพบแนวโน้มการเป็นโรคดังกล่าวได้เร็ว ก็น่าจะช่วยให้พัฒนาวิธีรักษาอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
งานวิจัยของศาสตราจารย์ยุกเกอร์และคณะ ได้มาจากการตรวจสอบโปรตีนในเลือดของกลุ่มตัวอย่าง 405 คน ที่ลงทะเบียนไว้กับโครงการทดลองเพื่อหาวิธีรักษาโรคอัลไซเมอร์ แล้วพบว่าระดับของโปรตีน Neurofilament ในเลือดมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการรับรู้และการหดตัวของสมอง (ซึ่งอาจบ่งชี้แนวโน้มการเป็นโรคอัลไซเมอร์) อย่างไรก็ตาม มีคำเตือนว่า การเพิ่มขึ้นของโปรตีนดังกล่าวอาจมีปัจจัยมาจากการสาเหตุอื่นด้วย เช่น ได้รับอุบัติเหตุทางสมอง จึงควรจะต้องระมัดระวัง
นักวิจัยหลายๆ คนให้ความเห็นกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นถึงผลการวิจัยนี้ แม้บางคนจะชี้ว่างานวิจัยยังมีจุดอ่อนอยู่บ้าง เช่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ยังมีน้อยเกินไป แต่หลายคนก็พูดถึงมันในแง่บวกว่า น่าจะนำใปใช้เพื่อพัฒนาวิธีการตรวจหาโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ล่วงหน้า ก่อนที่อาการต่างๆ จะออกได้ในอนาคต
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2019/01/22/health/alzheimers-detected-blood-test-study-intl
https://www.nature.com/articles/s41591-018-0304-3.epdf
#Brief #TheMATTER