พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดแถลงนโยบายเป็นครั้งแรก หลังจากเลื่อนมาถึง 2 ครั้ง จนโฆษกบนเวทียังกล่าวแซวตัวเองว่า “ไม่ใช่พรรคพลังประชาเลื่อนแล้วนะ” อย่างไรก็ตาม การแถลงนโยบายครั้งนี้ยังเป็นเพียง ‘แนวนโยบาย’ เท่านั้น และจะแถลงรายละเอียดของแต่ละนโยบายอีกครั้ง ในโอกาสถัดไป
แต่ถึงจะเป็นเพียงแนวนโยบายก็พอทำให้เห็นทิศทางของข้อเสนอที่ พปชร.จะชูให้ประชาชนได้พิจารณาในการเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค.นี้ The MATTER จะขอยกบางส่วนมานำเสนอ
งานแถลงนโยบายของ พปชร. เริ่มต้นด้วยการเปิดคลิปแนะนำจุดยืนของพรรคเป็นเวลาราว 4-5 นาที โดยในคลิปจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองและรัฐบาลในอดีต เช่น
“ดีแต่พูด แต่ไม่เคยคิดลงมือทำ”
“คนจนโดนปล้น โดนหักหลัง แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ”
“ทะเลาะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เผาเมือง เผาแผ่นดินเกิด”
“ขัดแย้ง แตกแยก คิดถึงแต่ผลประโยชน์พวกพ้อง”
ฯลฯ
พร้อมกับบอกว่า แต่ พปชร.จะเข้ามาทำให้สังคมสงบสุข มีสเถียรภาพ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามแนวทางของประชารัฐ
สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะรองหัวหน้า พปชร. เป็นผู้นำแถลงแนวนโยบายของพรรค ที่แบ่งเป็น 3 พันธกิจ คือ สวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ โดยแต่จะพันธกิจจะมีชุดนโยบาย 7 นโยบาย รวมทั้งสิ้น 21 นโยบาย และรายละเอียดอีกเล็กน้อย
ซึ่งนโยบายที่เราเห็นว่าน่าสนใจมีดังนี้
1.) ต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เพื่อสร้างหลักประกันทางสังคมให้กับผู้มีรายได้น้อย ที่มีเป็นจำนวนมาก
2.) สร้างสวัสดิการคนเมือง เพราะต่อไปคนจะเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น ทำให้คนเมืองที่เป็นผู้มีรายได้น้อยต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าเล่าเรียนบุตร ฯลฯ
3.) โครงการบ้านล้านหลัง สานต่อสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันทำเอาไว้
4.) ให้มีหมอถึงบ้าน..มีพยาบาลถึงเรือน ให้ประชาชนทุกคนมีหมอประจำตัว ชนิด 1:1 เวลาเจ็บป่วยจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายไปโรงพยาบาล
5.) สวัสดิการเด็กเล็ก ตั้งแต่แรกคลอด – 6 ขวบ
6.) พัฒนา 30 เมืองน่าอยู่ใกล้บ้าน ใช้โมเดล EEC เพื่อกระจายความเจริญไปทุกๆ ภาค ให้เป็นอีสาน 4.0 ล้านนา 4.0 ด้านขวาน 4.0
7.) สร้าง Bangkok 5.0 ผุด 9 ย่านนวัตกรรม พัฒนาย่อนการค้า คืนคลองสวยน้ำใส สร้างเครือข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์ ผ่านเทคโนโลยี 5G
ช่วงท้าย อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้า พปชร. กล่าวตอบคำถามสำคัญๆ อาทิ เรื่องการลาออกของ 4 รัฐมนตรีจะชัดเจนก่อนวันรับสมัคร ส.ส. ระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ.นี้ เช่นเดียวกับชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบันหรือไม่
ส่วนการเปิดเผยรายชื่อผู้บริจาคเงินให้กับพรรคผ่าน ‘กิจกรรมระดมทุน’ ด้วยโต๊ะจีน ที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2561 ซึ่งปัจจุบันเปิดมาเพียง 90 ล้านบาท จากทั้งหมด 622 ล้านบาท ได้รับแจ้งจากสมาชิก พปชร.บางคนว่า จะทยอยเปิดรายชื่อผู้บริจาคต่อไปเรื่อยๆ เพราะตามกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดอยู่แล้ว เพียงแต่หลายคนนำเช็คมาให้หลังงานโต๊ะจีน ทำให้ต้องนำไปลงในบัญชี ‘เงินบริจาค’ แทน
#election #เลือกตั้ง #TheMATTER