หลายๆ คนใช้อายุ 30 ปีเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ว่ากันว่าเมื่อชีวิตเราแตะเลขสามกันเมื่อไหร่ เราก็อาจจะเห็นโลก รวมตัวเราเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมต้องเป็นเลข 30 กันด้วยนะ?
วิลเลียม เจมส์ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาในยุคสมัยใหม่คนแรกๆ ที่สนใจศึกษาเรื่องการลงหลักปักฐานของชีวิต เคยอธิบายเอาไว้ว่า “โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อพวกเรามีอายุ 30 คาแรคเตอร์ของเราจะถูกหล่อหลอมจนแข็งแกร่ง และจะไม่กลับไปอ่อนยวบลงไปอีกเลย”
แนวคิดของเจมส์เหมือนเป็นฐานรากของความเข้าใจวัย 30 ต่อการศึกษาในเวลาต่อๆ มา หลายปีมานี้ก็มีการศึกษาและทฤษฏีหลายอย่างที่ต่อยอดแนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจ
เช่น แนวคิดที่อธิบายว่า หลังจากวัย 30 ปีแล้ว บุคลิกภาพของเรามันก็ยากจะเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจัยภายในร่างกายของเราอย่างยีน มันเริ่มจะหยุดนิ่งแล้ว ทำให้บุคลิกภาพเรามันเริ่มจะ ‘นิ่ง’ และไม่เปลี่ยนตามไป
นอกจากเรื่องการเติบโต และบุคลิกภาพแล้ว ช่วงหลังมานี้ก็มีการพยายามศึกษาไปถึงเรื่อง ‘รสนิยม’ ด้วยเหมือนกัน
หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจคือ มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการฟังเพลงบน Spotify ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2015 ซึ่งพบว่าหลังจากอายุ 30 ปีไปแล้ว ผู้คนจำนวนมากจะไม่พยายามหาเพลงแนวใหม่ๆ มาฟังอีกแล้ว โดยจะยึดกับแนวเพลงเดิมที่ตัวเองคุ้นชินมากกว่า ต่างจากวัยก่อนหน้านี้ที่มีแนวโน้มจะทดลองฟังเพลงที่ค่อนข้างหลากหลาย
จึงดูเหมือนว่า เมื่อเราถึงวัย 30 ปี นอกจากชีวิตจะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ยังมีแนวโน้มที่เราจะโฟกัสในสิ่งที่เราสนใจมากๆ จริงๆ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้มากกว่าเดิม
นี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่เรามักเห็นบทความ หรือข้อเสนอแนะจากเว็บไซต์ นิตยสารต่างๆ ทำนองว่า ก่อน 30 ปีเราควรจะได้ทดลองทำอะไรเยอะๆ เพื่อให้ชีวิตได้ลองผิดลองถูก ตัดตัวเลือกไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับช้อยส์ที่เราได้เลือกไว้แล้ว เมื่ออายุมาถึงเลขสาม
อ้างอิงจาก
https://www.apa.org/monitor/julaug03/personality
https://www.thecut.com/2014/11/how-much-can-you-really-change-after-30.html
https://www.businessinsider.com/why-we-stop-discovering-new-music-around-age-30-2018-6
#Brief #TheMATTER