ต่อไปนี้การขอวีซ่าสหรัฐฯ คงจะยุ่งยากขึ้นอีกขั้นเสียแล้ว เมื่อกฎระเบียบใหม่ขอตรวจสอบข้อมูลตัวตนของเราบนโซเชียลมีเดียด้วย
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกกฎระเบียบใหม่ คนที่จะขอวีซ่า ต้องให้ตรวจสอบข้อมูลโซเชียลมีเดียตามที่ระบุไว้ (สามารถให้ข้อมูลเพิ่มได้กรณีที่โซเชียลมีเดียนั้นๆ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ) โดยขอชื่อบัญชีผู้ใช้ อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ ที่ใช้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานับจากที่ยื่นขอวีซ่า มีข้อยกเว้นให้สำหรับวีซ่าการทูตและวีซ่าราชการบางชนิดเท่านั้น คาดว่าจะส่งผลต่อคนกว่า 14.7 ล้านคนต่อปี
การให้ข้อมูลโซเชียลมีเดีย จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงข้อมูลรูป สถานที่ วันเกิด และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ที่อยู่บนโซเชียลมีเดียของบุคคลนั้นๆ
ที่ผ่านมา กฎระเบียบนี้จะใช้เฉพาะกับผู้ขอวีซ่าที่ต้องได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เช่น เคยเดินทางไปประเทศที่ควบคุมโดยกลุ่มก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่บอกว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบ หรือให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง จะได้รับโทษอย่างหนักทางการตรวจคนเข้าเมือง
ทางสหรัฐฯ ต้องการยืนยันตัวตน และหาตัวบุคคลหัวรุนแรง เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมอย่างเหตุกราดยิงที่ San Bernardino เมื่อปี 2015 ซึ่งในกรณีนั้นทาง FBI พยายามที่จะเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ก่อเหตุ จนทำได้สำเร็จ
จริงๆ แล้วกฎระเบียบนี้ถูกเสนอขึ้นมาครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2018 แต่ ณ ตอนนั้นกลุ่มสิทธิมนุษยชน American Civil Liberties Union บอกว่ามันไม่มีหลักฐานเลยว่าการตรวจสอบโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพ หรือยุติธรรม และยังจะทำให้ผู้คนไม่กล้าเปิดเผยตัวตนบนโลกออนไลน์
“เราทำงานกันอย่างต่อเนื่อง หาวิธีการพัฒนาระบบคัดกรอง เพื่อปกป้องพลเมืองสหรัฐฯ และในขณะเดียวกันก็สนับสนุนการเดินทางมาสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย” กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าว
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-48486672
https://www.engadget.com/2019/06/01/us-requires-social-media-info-for-visa-applications/
https://www.nytimes.com/2019/06/02/us/us-visa-application-social-media.html
#Brief #TheMATTER