“การเลิกจ้างเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แต่เป็นความจำเป็นหลังจากที่เรามีจำนวนช่องที่น้อยลง” คือส่วนหนึ่งของคำชี้แจงจาก อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท บีอีซี เวิลด์ ต่อการเปลี่ยนแปลงในช่อง 3
ประเด็นคือ หลังจากที่บีอีซีมีความชัดเจนแล้วว่า ได้ขอคืนความถี่เพื่อใช้ออกอากาศทีวีช่อง 3 Family และช่อง 3 SD สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น คือการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรของช่อง 3 เอง โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้คือการเลิกจ้างพนักงานในล็อตใหม่
ในเอกสารที่ผู้บริหารช่อง 3 ส่งถึงพนักงานทุกคน ได้ระบุว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วงเวลานี้ธุรกิจทีวีไม่ได้เติบโตและรุ่งเรืองเหมือนที่เคย และยังได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยี (Digital Disruption) ทำให้บีอีซีมีความจำเป็นจ้องคืนใบอนุญาต
“การคืนในอนุญาตของทั้ง 2 ช่องเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดของคณะกรรมการและผู้บริหาร เพราะการคืนใบอนุญาตจะส่งผลกระทบมากมายต่อผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อเพื่อนพนักงาน” อริยะ กล่าวผ่าน ‘สารจากกรรมการผู้อำนวยการ’
ทั้งนี้ แหล่งข่าวภายในช่อง 3 ได้ประเมินว่า ภายในองค์กรได้มีการพูดถึงการเลิกจ้างพนักงานในครั้งใหม่นี้ และหลายคนคาดว่า น่าจะมีผลกระทบต่อการเลิกจ้างพนักงานจำนวนกว่า 200 คน และส่วนใหญ่น่าจะเป็นฝ่ายข่าว
ทั้งนี้ จากคำยืนยันของผู้บริหารช่อง 3 คือการดูแลพนักงานที่จะออกจากบริษัทอย่างดีที่สุด “โดยได้จัดให้มีค่าชดเชยสำหรับพนักงานในกรณีที่ต้องถูกเลิกจ้างให้มากที่สุดเท่าที่จะจัดสรรได้”
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารช่อง 3 เคยชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องคืนช่อง 2 ช่องไปว่า เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยหันไปรับชมคอนเทนต์ต่างๆ บนโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงเม็ดเงินโฆษณาที่ไม่ได้เติบโตขึ้น
หลังจากนี้ เราคงต้องจับตากันว่า การปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งนี้ของช่อง 3 จะเดินหน้าไปในทางไหนต่อ และไปต่อกับกระแส Digital Disruption อย่างไรบ้าง
อ้างอิงจาก
https://brandinside.asia/ch3-quit-bc-family-sd-sep/
https://www.matichon.co.th/economy/news_1572967
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000120296
#Brief #TheMATTER