ช่วงที่ผ่านมา อุณหภูมิของโลกในหลายๆ พื้นที่ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไป จนตอนนี้กลายเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดตั้งแต่ที่โลกเคยมีการบันทึกไว้แล้ว
หน่วยงาน The National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) เผยข้อมูล ว่าเดือนกรกฎาคมปี 2019 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นเดือนกรกฎาคมที่ร้อนที่สุดตั้งแต่เคยมีมาแล้ว ยังเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดตั้งแต่เคยมีการบันทึกไว้ในปี 1880 อีกด้วย
อุณหภูมิของโลกในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สูงขึ้นกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในศตวรรษที่ 20 ซึ่งอยู่ที่ 15.8 องศาเซลเซียส ราว 0.95 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างอลาสกา แคนาดาตะวันตก และใจกลางของรัสเซีย อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียส
“หากเราลองเอาเดือนกรกฎาคมในช่วง 20, 40, หรือ 100 ปีที่ผ่านมา มาเรียงกันดู จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิกำลังไปในขาขึ้น สิ่งที่น่ากังวลก็คือมันกำลังเกิดขึ้นในระยะยาว ไม่ใช่แค่ในวันหรือเดือนนั้นๆ” กล่าวโดย Michael Allen นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ จากมหาวิทยาลัย Old Dominion
ผลกระทบไปตกอย่างรุนแรง ที่น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก โดยพบว่าปริมาณน้ำแข็งลดลงไปกว่าเฉลี่ย มากถึง 19.8 เปอร์เซ็นต์
NOAA บอกว่าสาเหตุหลักๆ มาจากที่เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปีอยู่แล้ว ประกอบกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ในเขตแปซิฟิก และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง
ในปี 2018 หน่วยงาน Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ที่ประกอบไปด้วยนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ได้ออกมาเตือนว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการที่จะหยุดไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นกว่าเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเราก็น่าจะได้เห็นผลกระทบกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นในปีนี้ น้ำแข็งละลาย หรือระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า อุณหภูมิของโลกมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่มนุษย์เรายังคงทำร้ายธรรมชาติ ด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
อ้างอิงจาก
https://www.livescience.com/july-hottest-month-ever-record-climate-change.html
https://time.com/5652972/july-2019-hottest-month/
#Brief #TheMATTER