การประท้วงในฮ่องกงยังคงดำเนินเรื่อยมา และยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในเร็ววัน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (18 พฤศจิกายน) ตำรวจปราบจลาจลฮ่องกงบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (Polytechnic University: PolyU) เพื่อทำลายฐานที่มั่นของผู้ชุมนุมประท้วง หลังจากมีการปะทะกันอย่างหนักหน่วงมาตลอดช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และล่าสุดสำนักข่าว The Straits Times ระบุว่า ตำรวจประกาศแล้วว่า อาจใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุม เพื่อควบคุมความสถานการณ์
ตลอดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจบุกกระชับพื้นที่ในมหาวิทยาลัยโพลีฯ ซึ่งอยู่ใกล้ย่านจิมซาจุ่ย ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวและช๊อปปิ้งชื่อดัง เพื่อบีบผู้ประท้วงกว่า 200 คน ให้ออกจากฐานที่มั่น ทำให้มีการปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง ทั้งระเบิดเพลิง อิฐ รวมถึงการยิงธนู ซึ่งมีตำรวจนายหนึ่งถูกธนูยิงแล้ว ความรุนแรงของการปะทะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นออกไป แต่ก็ยังเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน เติ้ง จินกวง อธิการบดีของมหาวิทยาลัยโพลีฯ ออกมาแถลงว่า มหาวิทยาลัยบรรลุข้อตกลงกับตำรวจที่จะเปิดทางให้ผู้ประท้วงออกมาอย่างสันติ และยังยืนยันว่า เขาพร้อมจะไปที่สถานีตำรวจพร้อมกับกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะโปร่งใสจริง
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ผู้คนหลายร้อยคนในส่วนอื่นๆ ของเมืองถูกจับกุม เพราะพวกเขาแสดงความสนับสนุนต่อผู้ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยโพลีฯ โดยแครี่ แลม เคยกล่าวว่า การสวมหน้ากากที่สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วง ถือว่าเป็นการกระทำผิด แต่ล่าสุด ศาลสูงสุดของฮ่องกงออกมาประกาศแล้วว่า การกระทำดังกล่าว ไม่ถือว่าเป็นขัดต่อรัฐธรรมนูญ
การประท้วงนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลต้องการร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรัฐบาลยินยอมถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปแล้ว แต่ผู้ประท้วงก็ยังยืนยันในข้อเรียกร้อง 5 ข้อเดิม
อ้างอิงจาก
พิสูจน์อักษร: วัศพล โอภาสวัฒนกุล
#Brief #TheMATTER