แม้จะข้ามพ้นปีใหม่มาแล้ว แต่ความรุนแรงของไฟป่าออสเตรเลียยังคงโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ.2019 จนล่าสุด ทางการออสเตรเลียต้องระดมกำลังทหารกว่า 3,000 คน เข้าสมทบกับนักดับเพลิงเพื่อช่วยควบคุมไฟป่า ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส ภาวะภัยแล้ง และกระแสลมพัดอย่างรุนแรง
โดยปกติ ช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคมของทุกปี เป็น ‘ฤดูไฟป่า’ ของออสเตรเลียอยู่แล้ว แต่ความผิดปกติของไฟป่าครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน ปี ค.ศ.2019 และกินพื้นที่ถึง 60,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าไฟป่าแอมะซอนเมื่อเดือนสิงหาคมปี ค.ศ.2019 ที่กินพื้นที่เกือบ 25,000 ตารางกิโลเมตร และไฟป่าแคลิฟอร์เนียครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.2018 ที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8,000 ตารางกิโลเมตร
นอกจากนี้ มีบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกไฟคลอกไปแล้วมากกว่า 1,500 หลัง ทั้งยังคาดการณ์กันอีกว่า ตัวเลขจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ และมีแนวโน้มว่าไฟป่าที่ปะทุอยู่หลายจุดนั้นจะรุนแรงขึ้นด้วย
นับตั้งแต่เดือนกันยายน ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้อยู่ที่ 24 คน และสูญหายอีก 6 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 17 คน อยู่ในรัฐ New South Wales ซึ่งเป็นรัฐที่เผชิญกับไฟป่าหนักที่สุด จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 สัปดาห์
อีกทั้ง ผู้คนมากกว่า 100,000 คน ต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย และรัฐ New South Wales ยังประกาศให้ประชาชนในพื้นที่นี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว ไม่เคลื่อนย้ายอพยพออกจากพื้นที่ เพราะอันตรายและล่าช้าเกินไปที่จะหนีออกจากเมือง อีกทั้งกองทัพยังต้องเร่งอพยพนักท่องเที่ยวและประชาชนกว่า 1,000 คนที่ติดค้างอยู่ในเมือง Mallacoota บริเวณชายฝั่งรัฐ Victoria ซึ่งถูกไฟป่าล้อมรอบอีกด้วย
ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า มีสัตว์ป่ากว่า 480 ล้านตัวในออสเตรเลียเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ในจำนวนนี้ มีโคอาล่าตายไปถึง 8,000 ตัว ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ของประชากรโคอาล่าทั้งหมดในรัฐ New South Wales
ศาสตราจารย์คริส ดิคแมน (Chris Dickman) ผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ (University of Sydney) กล่าวว่า สัตว์ขนาดใหญ่อย่างจิงโจ้ นกอีมู และเหล่านกทั้งหลายสามารถหนีจากไฟป่าได้ ส่วนสัตว์ที่มีการเคลื่อนที่น้อยกว่าและขนาดเล็กกว่า ซึ่งใช้ชีวิตในป่าเพียงลำพัง มีแนวโน้มจะถูกไฟคลอกตายทันทีมากกว่า แต่สัตว์ที่หนีจากไฟป่าไปได้ ก็มักจะตายในเวลาต่อมา เพราะขาดอาหารและแหล่งพักพิง
ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย ระบุว่า ปี ค.ศ.2019 เป็นปีที่ออสเตรเลียเผชิญกับอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ออสเตรเลียก็เคยเผชิญกับไฟป่าครั้งรุนแรงที่ชื่อว่า ‘Black Saturday’ มาแล้วเมื่อปี ค.ศ.2009 ในรัฐ Victoria ซึ่งไฟป่าในครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 173 คน
[*หมายเหตุ: อัพเดตข้อมูล ณ เวลา 15.15 น. วันที่ 5 มกราคม ปี ค.ศ.2020]
อ้างอิงจาก
https://www.insider.com/australia-fires-burned-twice-land-area-as-2019-amazon-fires-2020-1
https://www.abc.net.au/news/2020-01-03/navy-starts-bushfires-evacuations–in-mallacoota/11838424
https://www.nma.gov.au/defining-moments/resources/black-saturday-bushfires
#Brief #TheMATTER