ตอนนี้ในโลกออนไลน์มีการพูดถึง #saveนิรนาม กันอยู่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ ‘นิรนาม_’ ซึ่งระบุว่า ตำรวจเข้าค้นห้องพักของตน และพาตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา โดยไม่มีการออกหมายจับ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยว่า นิรนาม_ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ฯ เหตุทวิตภาพและข้อความเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10 และกำลังถูกฝากขังที่ศาลพัทยา และไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว
ในคำร้องของฝากขังของพนักงานสอบสวนได้ระบุข้อกล่าวหาในคดีนี้ตามมาตรา 14 (3) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2560 “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา”
นอกจากนี้ในคำร้องขอฝากขังระบุด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ และพบบัญชีทวิตเตอร์ ‘นิรนาม_’ มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ บริษัททรูจำนวน 2 ครั้ง ในช่วงเดือนมกราคมปี 2563 และจากการตรวจสอบกับบริษัททรู พบว่า IP ดังกล่าวเป็นของหมายเลขโทรศัพท์ซึ่งผู้ต้องหาลงทะเบียนเปิดใช้
พนักงานสอบสวน เผยว่า การสอบคดียังไม่เสร็จ ยังต้องมีการสอบพยานอีก 6 ปาก และรอผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา จึงขอศาลฝากขังผู้ต้องหา 12 วัน และยังไม่ให้มีการประกันตัว อ้างเป็นคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง หากให้ประกันตัว ผู้ต้องหาน่าจะหลบหนีต่อมา ศาลได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา และไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา นิรนาม_ จึงถูกควบคุมตัว
หลังมีการเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ในโลกออนไลน์ ก็มีหลายคนแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ อย่างในทวิตเตอร์ก็เกิด #saveนิรนาม ขึ้นมา พร้อมกับแฮชแท็กแบนผู้ให้บริการมือถือค่ายหนึ่ง ที่เชื่อว่าส่งข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของ นิรนาม_ ให้กับตำรวจ
อ้างอิงจาก
https://www.tlhr2014.com/?p=16073
https://www.bbc.com/thai/thailand-51577352
พิสูจน์อักษร: จิรัชญา ชัยชุมขุน
#Brief #TheMATTER