ตอนนี้หลายคนกำลังพูดถึงคลิปน้องหมาบุลลี่ชื่อว่า ‘นมเย็น’ ถูกเจ้าของทำร้ายร่างกาย เพื่อลงโทษที่น้องซุกซนรื้อข้าวของ จน #กะเทยตีหมา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ และทางมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ (WDT) ได้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของน้องหมาแล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้เราอยากพาทุกคนเข้าใจว่าทำไมจึงต้องมีกฎหมายเพื่อปกป้องน้องหมาจากการถูกทารุณกรรม
ก่อนอื่นเราอยากพูดถึงที่มาของ พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ หรือ ชื่อเต็มว่า พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นกฎหมายที่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงทุกตัวไม่ว่าจะมีเจ้าของหรือไม่มี รวมไปถึงสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติ (ชนิดที่มีการระบุไว้ตามประกาศของรัฐมนตรี)
กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หลายคนเห็นว่า ก่อนหน้านี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสัตว์นี้มีปัญหาหลายอย่าง เช่น นิยามการทารุณกรรมสัตว์ไม่ชัดเจน รวมไปถึงการทำร้ายสัตว์ในตอนนั้นถือเป็นลหุโทษตามกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นโทษที่เบาเกินไป และไม่สามารถป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ได้ หลายฝ่ายจึงผลักดันให้มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เฉพาะขึ้นมา จน พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ถูกบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2557
พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ได้นิยามการกระทำที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์ ได้แก่ การทำให้สัตว์ทรมานทั้งทางกายและจิตใจ ทำให้เจ็บปวด เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตาย, การใช้สัตว์พิการ เจ็บป่วย ชรา หรือ ตั้งท้อง เพื่อแสวงหาประโยชน์, การใช้สัตว์ประกอบกามกิจ และการใช้สัตว์ทำงานหนักเกินไป หรือ ใช้สัตว์เจ็บป่วย ชรา หรืออายุน้อย ทำงานอันไม่สมควร
แต่ก็ได้ยกเว้นการกระทำบางอย่างไว้ ได้แก่
-การฆ่าสัตว์เป็นอาหาร
-การฆ่าสัตว์ตามกฎหมายควบคุมการฆ่าและจำหน่ายเนื้อสัตว์
-การฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์
-การฆ่าสัตว์ในกรณีที่แพทย์เห็นว่ามันป่วยพิการหรือบาดเจ็บและไม่สามารถรักษามันให้พ้นจากความทรมานได้
-การฆ่าตามพิธีกรรม หรือ ความเชื่อทางศาสนา
-การฆ่าโดยความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของคน ทรัพยสิน และสัตว์อื่น
-การกระทำต่อร่างกายสัตว์ที่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์
-การตัด หู หาง ขน เขา หรืองา โดยมีเหตุอันสมควรและไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์หรือการดำรงชีวิตของสัตว์
-การจัดให้มีการต่อสู้ของสัตว์ตามประเพณีท้องถิ่น
-การกระทำอื่นใดที่มีกฎหมายกำหนดให้สามารถกระทำได้เป็นการเฉพาะ
-การกระทำอื่นใดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ในกฎหมายได้ระบุถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายนี้ว่า “เนื่องจากสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกและเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งแวดล้อม จึงควรได้รับการคุ้มครองมิให้ถูกกระทำการทารุณกรรม และเจ้าของสัตว์ซึ่งนำสัตว์มาเลี้ยงจะต้องจัดสวัสดิภาพให้เหมาะสมตามประเภทและชนิดของสัตว์ ทั้งในระหว่างการเลี้ยงดู การขนส่ง การนำสัตว์ไปใช้งาน หรือใช้ในการแสดง ดังนั้น เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อให้สัตว์ได้รับการคุ้มครองตามธรรมชาติของสัตว์อย่างเหมาะสม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้”
อย่างไรก็ตามมาตรา 20 ของกฎหมายฉบับนี้บอกว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร” ซึ่งเป็นการเว้นโทษให้บางกรณี เช่น กรณีสัตว์เข้ามาทำร้ายและต้องป้องกันตัว และก็ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่ากรณีทำร้ายน้องหมาเพื่อการสั่งสอน ถือว่ามีเหตุอันสมควรตามมาตรานี้หรือไม่
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/WDT.foundation/videos/2975803225832384
http://en.dld.go.th/images/Legislation/hirestheng.pdf
https://library2.parliament.go.th/ejournal/content_af/2559/mar2559-6.pdf
#Brief #TheMATTER