“กินข้าวคนเดียวแปลกมั้ย?”
นั่นสิ ทำไมเราต้องเขิน มาหาแนวทาง มาตั้งคำถามว่าการไปกินข้าวคนเดียวมันประหลาดมั้ย เพราะใครๆ ก็ต้องกินเพื่ออยู่ เพื่อความสุขของตัวเอง แต่สุดท้ายดูเหมือนว่าการออกไปกินข้าวนอกบ้าน นอกจากความสุขของเราแล้ว เรายังแคร์สายตาคนรอบข้างที่มองเรา ผู้ที่กำลังนั่งกินข้าวคนเดียว
ตอบก่อนว่า “ไม่แปลก”
ก่อนที่สังคมจะโดดเดี่ยวเท่าทุกวันนี้ การกินข้าวคนเดียวอาจเป็นเรื่องน่ากลัว การกินข้าวในที่สาธารณะคนเดียวอาจทำให้คนอื่นตีความว่า อีตานี่มันไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบ เป็นพวกขี้แพ้ไม่มีใครเอา (อุ่ย อะไรจะขนาดนั้น) แต่ในสังคมเมืองที่เราอยู่คนเดียวกันมากขึ้น การกินข้าวคนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดหรือน่ากลัวอีกต่อไป อีกอย่าง ชาวบ้านอาจจะไม่ได้สนใจเราขนาดนั้น
The Hartman Group บริษัทที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มของสหรัฐออกรายงานล่าสุด (ประจำปี 2017) บอกว่าการกินข้าวคนเดียวถือเป็นพฤติกรรมการบริโภคหลักของชาวอเมริกันปัจจุบัน รายงานระบุว่าเกือบครึ่งของอเมริกันปัจจุบันรับประทานอาหารและนั่งดื่มคนเดียว (46%) วัฒนธรรมการกินดื่มที่มีลักษณะตัวคนเดียวมากขึ้นสอดคล้องกับตัวเลขข้อมูลที่ผ่านมา งานสำรวจในปี 2003 กลุ่มตัวอย่างอเมริกันชนมี 32% ที่กินข้าวคนเดียว ในปี 2015 ตัวเลขการรับประทานอาหารคนเดียวเพิ่มขึ้นเป็น 35%
ทางด้านผู้บริการก็เล็งเห็นว่า วัฒนธรรมการกินดื่มและสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป เว็บไซต์ OpenTable ผู้ให้บริการจองโต๊ะอาหารบอกไว้ในปี 2015 ว่า ในช่วงปี 2013-2015 อัตราการจองโต๊ะร้านอาหารสำหรับหนึ่งท่านมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 62% การรับประทานอาหารคนเดียวจึงเริ่มเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ และร้านอาหารทั้งหลายก็เริ่มเล็งเห็นถึงกระแสการกินข้าวคนเดียวมากขึ้น มีการปรับตัว ออกแบบสินค้า และการบริการ เพื่อให้ความสะดวกทั้งกายและใจกับลูกค้าที่มาคนเดียวมากขึ้น
ในทางจิตวิทยาเองก็อธิบายสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจว่า Spotlight Effect เป็นความรู้สึกที่เหมือนว่าเราจะเป็นที่สนใจ เราถูกมอง รู้สึกมากไปกว่าที่เกิดขึ้นจริงๆ เพราะในความเป็นจริงแล้ว เรา-การไปที่ไหนรวมถึงการนั่งกินข้าวคนเดียว ไม่ได้มีใครมาให้ความสนใจเราเท่าที่เราคิด คนที่สนใจว่าเรากำลังนั่งกินข้าวคนเดียว มีแต่ตัวเราคนเดียวเป็นหลัก
เราอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เราอยู่ได้ด้วยตัวเองมากขึ้น ร้านอาหารทั้งหลายก็เริ่มปรับตัวต้อนรับเหล่าคนลำพังทั้งหลาย การกินข้าวก็กินเพื่ออิ่ม เพื่อความอร่อย และเพื่อความสุขของตัวเราเองเป็นสำคัญ การที่เราจะทำอะไรโดยมีพื้นฐานจากความกลัว กลัวว่าจะถูกตัดสิน กลัวว่าจะถูกครหาว่า เฮ้ ไอ้นี่ไม่มีคนคบนี่นา ในโลกทุกวันนี้ การใช้ชีวิตตามสายตาชาวบ้าน ก็ดูจะไม่น่าจะมีความสุขเท่าไหร่
อ้างอิงข้อมูลจาก