โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นิ่ง เรามีเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ ที่ทำให้วิถีชีวิตและพฤติกรรมของเราเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ เช่นการดูซีรีส์ที่สมัยก่อนเราเรียกกันติดปากว่าเป็นละครโทรทัศน์ แต่เดี๋ยวนี้ด้วยพลังของ Netflix และ Youtube เรื่อยมาจนถึง LINE TV การดูละครเลยเริ่มย้ายจากโทรทัศน์มาสู่จอที่เล็กลง พกพาสะดวกขึ้น และสามารถดูตามต้องการได้โดยไม่ต้องรอตารางการออกอากาศ
ความเปลี่ยนแปลงจากโทรทัศน์สู่โทรศัพท์นี้ไม่ได้เป็นแค่พฤติกรรมการบริโภคสื่อของเราเปลี่ยนไป แต่ฝ่ายผู้สร้างเองก็มีการปรับตัว ปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีคิดในการสร้างสรรค์ผลงานไปตาม ‘แพลตฟอร์ม’ ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
นั่นสินะ เดี๋ยวนี้ด้วยความที่สมาร์ทโฟนของเราทำอะไรได้สารพัด หยิบดูก็ง่าย นั่งหรือนอนดูก็ได้สบายๆ เราใช้โทรศัพท์ทำทุกอย่างจนกระทั่งเราแทบไม่ได้เปิดเจ้าโทรทัศน์เพื่อนเก่าของเราเท่าไหร่ ComScore บริษัทวิเคราะห์สื่อของสหรัฐบอกว่าในเดือนมิถุนา 2017 อเมริกันชนใช้เวลาดูเน็ตฟลิกซ์ผ่านมือถือรวมกัน 7 พัน 5 ร้อยล้านนาที เพิ่มขึ้นกว่า 73% จากปี 2014
การย้ายจากจอใหญ่มาสู่จอเล็กไม่ได้เป็นปรากฏการณ์แค่ในอเมริกาเท่านั้น แต่เป็นกระแสที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ผู้คนกำลังหันมาเสพสื่อบันเทิงผ่านโทรศัพท์มือถือ Zenith บริษัทวิเคราะห์สื่ออีกเจ้าบอกว่าปีนี้ชาวโลกเราจะใช้เวลา 47.7 นาทีต่อวันในการดูวิดิโอบนจอมือถือและแท็บเล็ต เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว (2016 – เฉลี่ยดูผ่านมือถือที่ 39.6 นาทีต่อวัน) ซึ่งสำหรับจอแบบเก่า (fixed devices) เช่น ในปีนี้โทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์กลับมีค่าเฉลี่ยการดูแค่ 19 นาทีต่อวัน… ก็อย่างที่บอกว่า ส่วนใหญ่เรามองจอแต่เล็ก ไม่ค่อยได้ใช้จอใหญ่เท่าไหร่แล้ว
ถ้ามองในเชิงของศิลปะการสร้าง แน่ล่ะการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มจากจอใหญ่สู่จอเล็ก จากต้องรอสองทุ่มมาเป็นดูเมื่อไหร่ก็ได้ ดูต่อเนื่องก็ได้ ทำให้ฝ่ายผู้ผลิตเองก็ต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การสร้างไปตามแพลตฟอร์มใหม่ๆ ด้วย จะมาทำเหมือนเดิมตลอดไม่ได้อีกต่อไป
ซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์เองพอไม่ได้ถูกจำกัดโดยตารางออกอากาศแล้ว ทีนี้ความยาวสั้นของแต่ละตอนก็จะเป็นเท่าไหร่ก็ได้ตามแต่ความเหมาะสมของเนื้อเรื่องในตอนนั้นๆ และด้วยความที่คนดูจะดูตอนไหนก็ได้ การตัดจบตอนเลยไม่จำเป็นต้อง ‘ค้างเติ่ง’ เพราะคนดูสามารถดูต่อกันได้ทันทีไม่ต้องหลอกล่อมาก แถมด้วยการดูผ่านระบบดิจิทัล ฝ่ายผู้ผลิตเองก็จะได้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ชมจำนวนมาก เช่นคนดูชอบดูอะไร ดูเวลาไหน ตอนไหนที่ชอบดู แม้แต่ตอนไหนที่ผู้ชมกดกรอกลับไปดูบ่อยๆ บ้าง
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาเนอะ นึกถึงตอนที่ละครก้าวจากหน้ากระดาษของหนังสือนิยายมาสู่บทละครวิทยุ จากวิทยุมาสู่จอโทรทัศน์ และจากตอนนี้จากโทรทัศน์มาสู่จอที่พกพาเคลื่อนที่ได้ แต่ละแพลตฟอร์มก็มีข้อจำกัดและลักษณะเฉพาะของตัวเอง
ตรงนี้เองก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์และทัศนคติในการปรับตัวของผู้สร้างสรรค์แล้วแหละ ว่าจะเข้าใจเครื่องมือและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไร
อ้างอิงข้อมูลจาก