ทุกๆ ปี World Economic Forum (WEF) จะขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งจากแวดวงธุรกิจ ภาครัฐ นักวิชาการ องค์กรไม่แสวงหากำไร หรือสถาบันระดับนานาชาติ มาร่วมกันคาดการณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับโลก
สำหรับปี 2018 นี้ ความเสี่ยงจากสภาพอากาศและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดูจะมาแรงที่สุด
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญราว 760 ความเห็นที่รวบรวมเมื่อปลายปี 2017 ถูกวิเคราะห์และตีพิมพ์ใน The Global Risks Report 2018 โดยความเสี่ยงที่สร้างความกังวลสูงสุดสำหรับปีนี้คือปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม (ซึ่งจริงๆ ก็ติด Top 5 มาหลายปีแล้ว)
‘โลกร้อน’ เป็นประเด็นที่เราพูดกันอย่างเป็นห่วงอยู่บ่อยๆ
ปีที่ผ่าน เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสภาพอากาศ จนทำให้เกิดภัยธรรมชาติที่ผิดปกติอย่าง พายุ Harvey, Irma และ Maria รวมถึงข่าวพายุและน้ำท่วมหลายๆ ภูมิภาค ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนทั่วโลก
ส่วนปี 2017 นี่ก็เป็นปีที่ร้อนเป็นอันดับสองของประวัติศาสตร์ (2016 ครองแชมป์อยู่) ยุโรปเผชิญกับคลื่นความร้อนที่โหดร้ายในช่วงซัมเมอร์ ชิลีมีไฟป่าเกิดขึ้นมากและยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอากาศที่ผิดปกตินี้ก็ส่งผลต่อเนื่องไปถึงเรื่องของอาหารด้วย ข้อมูล FAO บอกว่า 75% ของอาหารที่เรากินกันทั้งโลก มาจากพืชเพียง 12 สปีชีส์และสัตว์เพียง 5 สปีชีส์ สภาพอากาศมีแนวโน้มอย่างมากที่จะทำลายวงจรของสปีชีส์เหล่านี้ ยังไม่นับรวมถึงปรากฎการณ์ Ecological Armageddon หรือความล่มสลายเชิงระบบนิเวศ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแมลงที่มีความสำคัญต่อระบบมีจำนวนลดลงอย่างชัดเจน
ไหนจะเรื่องของมลพิษ ข้อมูลจาก WHO บอกว่าปัญหาเรื่องมลพิษอากาศ เป็น 1 ใน 10 ของสาเหตุการตายของคนทั่วโลก และตอนนี้ 90% ของประชากรโลก อยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงกว่าเกณฑ์ แล้วไม่ใช่แค่ในอากาศเท่านั้นนะ มลพิษในดินและน้ำ ก็เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญเหมือนกัน (อย่างเช่น การเจือปนของสารจากพลาสติกในน้ำและอาหารทะเล)
ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นอีกเรื่องที่สร้างปัญหาให้กับบุคคล สังคม และโลกได้
รายงานของ Accenture บอกว่าการรั่วไหลของข้อมูลทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มัลแวร์เรียกค่าไถ่เพิ่มจำนวนขึ้นหลายล้านตัว ทำให้หลายธุรกิจต้องมาใช้เงินเพื่อป้องกันภัยเหล่านี้ มีการสำรวจบริษัทใหญ่ๆ 254 บริษัทใน 7 ประเทศ พบว่าใช้เงินราว 500 กว่าล้านบาทในการซื้อมาตรการป้องกันความปลอดภัย และคาดการณ์ว่าต่อไปในอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า งบประมาณด้านนี้ รวมๆ ทั่วโลกแล้วอาจพุ่งไปสูงถึง 250 ล้านล้านบาท
แม้ว่าในรายงานปีนี้ จะดูเหมือนมีข่าวดีว่าความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจทั่วโลกนั้นลดลง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็สะกิดเตือนว่าอย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะยังมีประเด็นเรื่องความเท่าเทียมในด้านรายได้และในด้านความเสมอภาคทางเพศ ที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมือง (Geopolitical Risk) จากนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ รวมถึงท่าทีและแนวโน้มในการเลือกข้างของผู้นำใหม่หลายคนที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในปีที่ผ่านมา
และที่น่าเป็นกังวลก็คือ มีความเห็นเพียง 7% เท่านั้นที่คาดการณ์ว่าความเสี่ยงต่างๆ จะลดลงได้ ขณะที่อีก 59% มองว่าความหายนะทั้งหลายจะทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ http://www3.weforum.org/docs/WEF_GRR18_Report.pdf