หุ่นยนต์ทำงานเดลิเวอรี่ส่งของ ทำงานช่วยตำรวจคอยสอดส่องความผิดปกติ หรือแม้แต่ช่วยงานคุณหมอก็กลายเป็นที่นิมยมในสังคม ซึ่งในประเทศจีนเอง พ่อแม่และในครอบครัวก็นำหุ่นยนต์มาเป็นพี่เลี้ยง และผู้ปกครองของเด็กๆ มากขึ้นด้วย
เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และ AI พี่เลี้ยง กลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากในครอบครัวชาวจีน โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ เริ่มมุ่งเน้นโฆษณาเจาะตลาดผู้ปกครองมากขึ้น ให้เข้าใจการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในครอบครัว ทั้งในเว็บไซต์ e-commerce ‘Tmall’ ของจีน ยังพบว่ามีผลิตภัณฑ์ ‘หุ่นยนต์เพื่อการศึกษา’ มากถึง 65 หน้า และพ่อแม่ก็ใช้หุ่นยนต์เหล่านี้ทั้งการศึกษาและเลี้ยงดูลูกๆ ไปด้วย
ทั้งบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งยังได้พัฒนาหุ่นยนต์เพื่อใช้ในโรงพยาบาล สำหรับเด็กออทิสติกด้วย ที่มีทั้งความอดทน พูดคุยในหัวข้อต่างๆ กับเด็กๆ และให้พวกเขาได้เรียนรู้ด้วย ซึ่งจากข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยี Turing Robotics รายใหญ่ในจีน ระบุว่าในปีนี้มีสินค้าหุ่นยนต์การศึกษาสำหรับเด็กกว่า 30 ล้านชิ้นที่จำหน่ายในจีน และคาดว่าปีหน้าจะจำหน่ายได้มากกว่า 100 ล้านชิ้น
Seven Kong เด็กชายวัย 3 ขวบ มักเล่นกับหุ่นยนต์สีเขียวที่ชื่อว่า BeanQ ตลอดเวลาที่อยู่บ้าน ที่ไม่ว่าพูดคุยอะไร มันจะตอบกลับมาเป็นประโยค หรือคำง่ายๆ ทั้งจะแสดงสีหน้าออกมาเป็นอารมณ์ด้วยอีโมจิ ผ่านหน้าจอที่เป็นเหมือนใบหน้า ซึ่ง Liu Qian แม่ของ Seven เล่าว่า เมื่อพวกเรายุ่งมากๆ BeanQ คอยอยู่กับ Seven และสร้างความสนุกให้เขา ทั้งมันยังมีระบบ ‘ดูแลระยะไกล’ ที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กอัตโนมัติ จับภาพเด็ก และอัพโหลดออนไลน์ให้ผู้ปกครองเห็น
มีการคาดการณ์ว่า ภายใน 3-5 ปี อุตสาหกรรมของเล่น จะกลายเป็นของเล่นดิจิทัลทั้งหมด เพราะเด็กๆ เบื่อของเล่นได้ง่าย แต่ AI กลายเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถึงอย่างนั้น ก็มีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของเด็ก ที่บางคนกังวลว่าพ่อแม่อาจจะใส่ข้อมูลภาพ หรือตำแหน่งของเด็กผ่านช่องทางออนไลน์ ที่อาจเป็นอันตรายกับเด็กๆ ได้
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2018/09/28/health/china-ai-early-education/index.html
#Brief #TheMATTER