เมื่อนักการเมืองไม่สนใจคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ และรัฐบาลก็ไม่มีท่าทีจริงจังเพียงพอ กับการแก้ปัญหาโลกร้อน Greta Thunberg เด็กนักเรียนวัย 15 ปี จึงหอบกระเป๋า หยิบหนังสือ มานั่งประท้วงอย่างเงียบๆ ที่หน้ารัฐสภาในกรุงสต็อกโฮล์ม
Thunberg นั่งประท้วงอย่างนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบครบ 30 วันที่เธอตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใหญ่หันมาสนใจปัญหาภาวะโลกร้อน (climate change) อย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูกันอีกต่อไป
“ฉันอยากให้นักการเมืองจัดความสำคัญให้กับคำถามเรื่องสภาพอากาศ โฟกัสกับมันและมองว่ามันเป็นวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ” Thunberg บอกกับสำนักข่าว The Guardian
ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง (9 กันยายนที่ผ่านมา) Thunberg มานั่งประท้วงแบบนี้ทุกวัน ซึ่งแน่นอนว่ามันผิดกฎของสวีเดีนเพราะถือว่าโดดเรียน ขณะที่นักการเมืองหลายคนที่มาพูดคุยกับเธอ ก็ให้คำแนะนำว่าเธอควรกลับไปเรียนจะดีกว่านะ เพื่ออนาคตของตัวเธอเอง
แต่สำหรับ Thunberg แล้ว สิ่งที่บรรดานักการเมืองทำคือละเลยอนาคตของคนรุ่นใหม่ การไม่สนใจคำเตือนจากนักวิชาการและสังคมต่อเรื่องภาวะโลกร้อน มันก็คือการทำลายอนาคตของเด็กๆ อย่างพวกเธอเหมือนกัน อย่างไรก็ดี เธอก็รับฟังคำวิจารณ์ แต่ก็ยังไม่ละทิ้งการเคลื่อนไหว โดยเปลี่ยนจากการมานั่งประท้วงทุกวัน มาเป็นนั่งประท้วงทุกวันศุกร์แทน
Thunberg เล่าให้กับ The New Yorker ฟังว่า เธอสนใจปัญหาภาวะโลกร้อนผ่านหนังสือที่เธออ่านที่บ้าน และเอาใจจดจ่ออยู่กับประเด็นนี้มาแล้วประมาณ 6 ปี จากข้อมูลต่างๆ ที่เธอรวบรวมมา มันทำให้เชื่อได้ว่า ถึงแม้รัฐบาลสวีเดนจะพยายามผลักดันนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายอย่าง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ
แม้การเคลื่อนไหวของเด็กวัยมัธยมคนนี้ จะไม่ได้เกิดขึ้นในขนาดใหญ่เหมือนการประท้วงบนท้องถนน แต่สิ่งที่เธอทำก็สร้างการรับรู้ในสังคมได้ไม่น้อย เธอเล่าว่า ที่ผ่านมามีนักการเมืองระดับรัฐมนตรี รวมถึงนักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลที่มาสนทนา เธออยากให้สิ่งที่ได้พูดคุยกันนั้น ถูกนำไปเปลี่ยนเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER