คำอ้างว่าที่ “ยืมทรัพย์สินของเพื่อนมาใช้” เลยไม่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. ไม่ได้มีแต่กรณีนาฬิกาหรูเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้มีคนใช้คำอ้างนี้มาคนหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือ ป.ป.ช.ไม่เชื่อ และศาลเองก็ไม่เชื่อ พิพากษาให้จำคุก ..คนๆ นั้นก็คือ ‘สุพจน์ ทรัพย์ล้อม’ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม
และในวันนี้ก็มีคดีล่าสุด เกี่ยวกับตัวสุพจน์และข้ออ้าง “ยืมเพื่อน”
หากใครยังจำกันได้ 6-7 ปีก่อน สุพจน์เคยถูกโจรขึ้นบ้านและปล้นทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง แต่ที่เป็นปัญหาก็คือทรัพย์สินที่ถูกทิ้งไว้บางส่วน กว่า 20 ล้านบาท ไม่ได้แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่เจ้าตัวต้องยื่นต่อ ป.ป.ช.
อธิบายข้อกฎหมายไว้ก่อนว่า บุคคลที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ไม่ได้มีแค่นักการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้าราชการระดับสูงและบอร์ดรัฐวิสาหกิจ โดยจะต้องยื่น 3 ครั้ง คือ (1) เข้ารับตำแหน่ง (2) ออกจากตำแหน่ง (3) อยู่ในตำแหน่งเดิมครบ 3 ปี และ 5 ปี
ป.ป.ช.ใช้เวลาไม่ถึงปี ก็ชี้มูลความผิดว่าสุพจน์แจ้งบัญชีเท็จ เป็นเงินสด 17.6 ล้านบาท และรถยนต์โฟล์กวาเก้น 3 ล้านบาท และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ตัดสินให้จำคุกเขาเป็นเวลา 10 เดือน (ไม่แจ้งบัญชี 5 ครั้งๆ ละ 2 เดือน) โดยคำชี้แจงที่น่าสนใจของสุพจน์ ก็คือกรณีรถยนต์โฟล์กวาเก้น ที่อ้างว่าไม่ใช่ของตัวเอง แต่ยืมเพื่อนมาใช้งาน แต่ศาลไม่ได้เชื่อแค่หลักฐานความเป็นเจ้าของเท่านั้น ยังดูไปถึงเบื้องหลังการ ‘ให้ยืม’ ทรัพย์สินนั้นๆ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้ยืม-ผู้ยืม พฤติกรรมการใช้งาน จอดอยู่ในบ้านใคร ใครซ่อม ใครเติมน้ำมัน ฯลฯ เพื่อดูว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง
(The MATTER เคยเขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ย้อนไปอ่านกันได้ https://bit.ly/2ClzdJr)
ต่อมาสุพจน์ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลฎีกาฯ ก็นัดอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ในวันนี้ ก่อนจะยืนตามคำพิพากษาเดิม ซึ่งในเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ของศาล ได้ระบุข้อความว่า การที่กฎหมายกำหนดให้ผู้มีอำนาจต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ก็เพื่อ..
“ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์มิชอบ แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฎว่าผู้คัดค้านไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินทั้ง 2 รายการ (คือเงินสดและรถยนต์) ทั้งที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ควรต้องเป็นตัวอย่างที่ดี แต่กระทำผิดเสียเองจึงนับว่าพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง”
ให้จำคุกสุพจน์เป็นเวลา 10 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทำให้เจ้าตัวถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำโดยทันที พร้อมกับห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เป็นเวลา 5 ปี
.
อ้างอิงจาก
https://www.thaipost.net/main/detail/20195
https://www.isranews.org/isranews/70379-isranews444-70379.html?fbclid=IwAR1M4wGFeYzY8METv1o4_u2Yn9i2-VXL-d_BX__5xTDcyF1Y31aZu6FnBDg
https://www.nacc.go.th/ewt_news.php?nid=780&filename=index
ที่มาภาพประกอบ
#Brief #TheMATTER