6 เมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกค่าโดยสารขนส่งสาธารณะเป็นเวลา 1 วัน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เดินทางออกไปใช้สิทธิใช้เสียง ลงคะแนนเลือกตั้งมิดเทอม ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ทางการเมือง ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
โดยเมืองที่ไม่เก็บค่าบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้าและรถบัส ได้แก่ ดัลลัส ลอสแอนเจลิส ฮูสตัน เท็กซัส แทมป้า และฟลอริดา “การขาดแคลนขนส่งสาธารณะ ไม่ควรเป็นปัจจัยที่ขัดขวางให้ผู้มีสิทธิออกเสียงได้เข้าถึงคูหาเลือกตั้ง” อีริก การ์เซ็ตติ นายกเทศมนตรี เมืองลอสแอนเจลิส กล่าว
การ์เซ็ตติ ยอมรับว่า นโยบายนี้จะส่งผลต่อการเงินของรัฐอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็มั่นใจว่า “มันจะคุ้มค่าสำหรับประชาธิปไตย”
ด้านโฆษกของบริษัทรถไฟฟ้า Metro ในลอสแอนเจลิส ยืนยันว่า บริษัทยินดีที่จะไม่เก็บค่าบริการในวันเลือกตั้งมิดเทอม เพื่อสนับสนุนให้คนได้ออกไปใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่ โดยประเมินว่า การหยุดเก็บค่าโดยสารจะทำให้สูญเสียเงินไปราวๆ 600,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 19 ล้านบาท
ไม่เพียงแค่รถบัสและรถไฟ เพราะ Uber และ Lyft ก็ประกาศลดค่าบริการลงเป็นพิเศษในวันเลือกตั้งมิดเทอมด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า แข่งกันลดราคากันอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ดีในเมืองอื่นๆ เช่น ฮูสตัน ดัลลัส และแทมป้า ผู้โดยสารขนส่งสาธารณะจำเป็นต้องแสดงหลักฐาน หรือยืนยันเจตนากับเจ้าหน้าที่ว่าจะเดินทางไปเลือกตั้งจริงๆ ก่อนที่จะได้รับยกเว้นค่าโดยสาร
ย้อนไปเมื่อปี 2016 เคยมีงานวิจัยจาก Massachusetts Institute of Technology ที่ไปสำรวจพบว่า 14 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มคนที่ไม่ได้ออกไปเลือกตั้งมองว่า ‘การเดินทาง’ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาไปอยากออกไปโหวตเหมือนกับคนอื่นๆ
อ้างอิงจาก
https://la.curbed.com/2018/10/25/18023336/los-angeles-election-day-free-rides-metro-transportation
https://dataverse.harvard.edu/dataset.xhtml?persistentId=doi:10.7910/DVN/Y38VIQ
#Brief #TheMATTER