นับค่าใช้จ่าย การเดินทางแต่ละวันก็ทำเอาเสียเงินไม่ใช่น้อย ไหนจะต้องต่อรถเมล์ ไปขึ้นรถไฟฟ้า เรียกรถกันหลายต่อ แต่จะดีแค่ไหน ถ้ารัฐมีสวัสดิการ ให้เราได้เดินทาง และใช้ขนส่งสาธารณะฟรีทั้งประเทศ!
ซึ่งประเทศในยุโรปอย่าง ‘ลักเซมเบิร์ก’ เตรียมประกาศยกเลิกค่าโดยสารรถไฟ รถราง และรถประจำทาง โดยในปี 2020 จะมีการยกเลิกตั๋วโดยสารทั้งหมด ยกเลิกการเก็บค่าโดยสาร และการซื้อตั๋ว ซึ่งสวัสดิการนี้ เกิดขึ้นหลังจาก Xavier Bettel นายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง จะเข้าสาบานตน ในวันที่ 2 มกราคม ซึ่งนโยบายนี้ ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลผสมชุดใหม่ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
ลักเซมเบิร์ก ซิตี้ เมืองหลวงของประเทศนี้ ประสบปัญหาการจราจรที่ติดขัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งแม้จะมีประชากรอาศัยอยู่แค่ประมาณ 110,000 คน แต่กลับมีประชากรกว่า 400,000 คนที่เดินทางไปมาเพื่อทำงานในแต่ละวัน ซึ่งจากการสำรวจในปี 2016 พบว่าคนขับรถในเมืองหลวงใช้เวลาเฉลี่ยถึง 33 ชั่วโมงในรถ จากการจราจรติดขัด ทั้งนอกจากเมืองหลวงเอง ประเทศลักเซมเบิร์กเอง ยังมีประชากรจากฝรั่งเศส เยอรมนี และเบลเยียมที่ข้ามพรมแดนมาทำงานทุกๆ วันด้วย
ลักเซมเบิร์กได้มีการพัฒนาสวัสดิการของระบบขนส่งตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยในช่วงฤดูร้อน รัฐบาลได้ประกาศให้เด็ก และเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถบริการขนส่งสาธารณะฟรี และนักเรียนมัธยมสามารถใช้บริการระหว่างระยะทางบ้านและสถานศึกษาฟรี ทั้งผู้โดยสารยังจ่ายค่าโดยสารเพียงแค่ 2 ยูโร (ประมาณ 75 บาท) กับการเดินทาง 2 ชั่วโมง ในประเทศที่มีพื้นที่ประมาณ 999 ตารางกิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมการเดินทางเกือบทั้งประเทศแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น นโยบายนี้ยังไม่ได้รับพิจารณาอย่างเต็มที่ โดยยังมีประเด็นเรื่องรถไฟ ที่มีที่นั่งชั้นพิเศษ ว่าจะมีการจัดการอย่างไร
ลักเซมเบิร์ก ไม่ใช่ประเทศแรกที่มีการให้สวัสดิการแบบนี้กับประชาชน แต่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศเอสโตเนียก็มีการใช้นโยบายนี้กับทั้งประเทศแล้ว ซึ่งการให้ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะฟรี กำลังถูกผลักดันจากหลายประเทศในยุโรป เช่น เวลส์เองก็ใช้นโยบายรถบัสฟรีในวันช่วงวันหยุด หรือในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสก็กำลังอยู่ระหว่างศึกษานโยบายนี้กันอย่างจริงจัง เช่นกัน
https://www.facebook.com/thematterco/photos/p.2046581765557215/2046581765557215/?type=1&theater
#Brief #Transportation #TheMATTER