เป็นข่าวใหญ่ที่หลายคนติดตาม กับข่าวการก่อเหตุกราดยิงของทหาร ในจังหวัดโคราช ที่ตอนนี้สถานการณ์ยังคงรุนแรง และมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตหลาย 10 รายแล้ว เหตุการณ์ตอนนี้ไปถึงไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร The MATTER สรุปมาให้ในเบื้องต้นก่อนนะ
1) เหตุการณ์นี้ เริ่มต้นจาก ช่วงประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง มีนายทหารในจังหวัดนครราชสีมา ได้บุกเข้าไปยิง พันเอกอนันต์ ภูโรจน์กระแสร์ วัย 48 ปี ผู้บังคับบัญชาของผู้เกิดเหตุที่บ้าน และยิง อนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 63 ปี แม่ยายของผู้บังคับบัญชาด้วย จนเสียชีวิตทั้งคู่
2) หลังจากก่อเหตุแล้ว ผู้ก่อเหตุได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อ ‘Jakrapanth Thomma’ โพสต์ข้อความว่า ‘ยังไงก็หนีความตายไม่พ้นทุกคน’ และ ‘ร่ำรวยจากการโกง การเอาเปรียบคนอื่น มันคิดว่า จะเอาเงินไปใช้ในนรกได้รึไง’ รวมถึงยังตั้งถึงการก่อเหตุไว้ด้วยว่า ‘ยิง 3 ศพ เพื่อล้างแค้น นอกนั้นป้องกันตัว’
3) ผู้ก่อเหตุยังได้ขับรถเข้าไปในคลังอาวุธในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ แย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ และยิงพลทหารบาดเจ็บอีก 1 นาย และเสียชีวิตอีก 1 นาย รวมถึงได้ขโมยอาวุธ ซึ่งคือเอาอาวุธ HK 3 กระบอก, ปืน M60 3 กระบอก, ปืน M60 อีก 3 สาย พร้อมกระสุน 40 นัด และขโมยรถฮัมวี่ราชการของหน่วยฯ ขับหนีออกมา
4) เมื่อออกมาจากค่ายทหารแล้ว มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธกราดยิงชาวบ้าน ที่สัญจรไปมา และตำรวจที่จะเข้าระงับการก่อเหตุ และเข้าไปก่อเหตุกราดยิงในวัดป่าศรัทธารวม ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนี จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บมากกว่า 10 ราย (รายละเอียดทั้งหมดยังไม่แน่ชัด) ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
5) ผู้ก่อเหตุยังได้ขับรถหลบหนีไปในชั้นใต้ดิน และมีรายงานว่า เขาได้ขึ้นไปถึงชั้น 4 ของห้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถมองทะลุกระจกเล็งปืนได้ พร้อมจับตัวประกันไว้ 16 คน โดยขณะนี้กองกำลังร่วมของตำรวจและทหารกำลังควบคุมสถานการณ์อยู่ และทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้กันประชาชนห้ามไม่ให้เข้าหรือออกจากศูนย์การค้าฯ อย่างเด็ดขาด
6) จากการสัมภาษณ์ของ BBC Thai พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้รายละเอียดว่า จากข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเป็นทหารชื่อ ‘จ.ส.อ. จักรพันธ์ ถมมา’ สังกัดกองพันกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ทั้งยังระบุว่า ตอนนี้ทหารและตำรวจกำลังดำเนินการร่วมกัน เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธสงครามในครอบครอง และยืนยันว่าคนร้ายมีเพียงแค่คนเดียว
7) ในขณะที่ก่อเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุก็ได้อัพเดทสเตตัสเฟซบุ๊กอีกเรื่อยๆ ทั้งโพสต์ภาพ และวิดีโอขณะก่อเหตุ ภาพถือปืน และภาพไฟไหม้ในห้างดัง ก่อนจะโพสต์สเตตัสสุดท้ายว่า ‘เหนื่อยเหลือเกิน’ และปิดเฟซบุ๊กไปในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งหลังจากนั้น ก็มีผู้พยายามปลอมแปลงเฟซบุ๊กเป็นผู้ก่อเหตุอีกหลายบัญชี
8) สาเหตุเบื้องต้น ทางตำรวจสันนิษฐานว่า เกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุไปทวงเงินค่านายหน้าค่าซื้อขายที่ดิน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ครอบครัวของผู้บังคับบัญชาทำธุรกิจอยู่ และไม่สามารถตกลงกันได้อย่างลงตัว (ย้ำว่าแค่ข้อสันนิษฐานนะ เพราะยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม)
9) ด้านผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ได้สั่งให้ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีทหารกราดยิงแล้ว ในขณะที่ รมต.สาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ขณะนี้ สถานการณ์ความสูญเสียมีมากขึ้น จึงได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในพื้นที่ พร้อมให้การสนับสนุน และอาจจะต้องช่วยกันบริจาคโลหิต ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
10) ทางฝั่งของกรมสุขภาพจิตเอง ก็ได้ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อ ไม่นำเสนอหรือส่งต่อภาพความรุนแรง รวมทั้งภาพของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ขอให้ช่วยกันส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์และช่วยกันเตือนภัยมากกว่าภาพที่รุนแรง
11) ในตอนนี้ (21.00 น.) ยังไม่มีรายงานว่า สามารถจับคนร้ายได้ แต่ทางกองปราบฯ ได้ส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ‘หนุมาน’ 12 นาย ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มุ่งตรงโคราช เพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุแล้ว
ถ้ามีเหตุการณ์เพิ่มเติมอย่างไร ทาง The MATTER จะรายงานต่อไป
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/thai/thailand-51426918
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1767013
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3544086
https://mgronline.com/crime/detail/9630000013133
#กราดยิงโคราช #recap #TheMATTER