เป็นอีกครั้งที่โลกของเราพบ ‘วัตถุลึกลับ’ บนท้องฟ้า แต่ครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตากว่าปกติ เนื่องจากวัตถุดังกล่าวแข็งแรงจนแม้แต่ขีปนาวุธ Hellfire ยังทำลายไม่ได้
เมื่อวานนี้ (10 กันยายน 2568) ระหว่างการประชุมของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา ได้ตรวจสอบวิดีโอที่สร้างความตกตะลึงให้กับสมาชิกสภาฯ หลายคน
เอริค เบอร์ลิสัน (Eric Burlison) ตัวแทนจากพรรคริพับลิกัน ได้เปิดเผยวิดีโอที่ถูกบันทึกโดยโดรน MQ-9 Reaper แสดงวัตถุทรงกลมลึกลับบินได้บนท้องฟ้า หรือ UFO (Unidentified Flying Object) ลอยอยู่บริเวณนอกชายฝั่งประเทศเยเมน เมื่อ 30 ตุลาคม 2024
ในคลิปดังกล่าว จะเห็นว่า แม้แต่ขีปนาวุธ Hellfire ของเครื่องบินรบ ก็ไม่สามารถทำลายได้ ซ้ำยังทำให้ขีปนาวุธกระเด้งออกจากวิถียิงหลังชนกับวัตถุลึกลับ (วงกลมสีขาว) ขณะที่วัตถุดังกล่าวยังลอยตามวิถีของตนเองต่อไป (วงกลมสีแดง)
โดย ลุยส์ เอลิซอนโด (Lue Elizondo) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสของเพนตากอนกล่าวว่า ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นจรวด Hellfire พุ่งเข้าชนเป้าหมายและกระเด้งออกไป
รายงานล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีการพบเห็นปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถระบุได้ (UAP) มากกว่า 750 ครั้งระหว่างเดือนพฤษภาคม 2023 ถึงมิถุนายน 2024 สมาชิกสภาก็ได้มีการเสนอให้พูดคุยถึงความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลและการสืบสวนเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหล่านี้
เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงประเด็น ‘เทคโนโลยีทางทหาร’ ซึ่งวัตถุเหล่านี้สะท้อนถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าของสหรัฐฯ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุจากนอกโลกหรือวัตถุจากต่างประเทศ ก็ล้วนส่งผลต่อความมั่นคงของชาติทั้งสิ้น
ทั้งนี้ สํานักงานแก้ไขความผิดปกติทุกโดเมนของเพนตากอน (AARO) ยังคงตรวจสอบรายงาน UAP ต่อไป แม้ยังไม่พบหลักฐานของเทคโนโลยีขั้นสูงจากนอกโลกหรือต่างประเทศก็ตาม
พร้อมมีการตั้งข้อสังเกตว่าหรือวิดีโอที่แสดงในสภาคองเกรสครั้งนี้ จะคล้ายกับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ในอดีต เช่น วิดีโอ ‘Go Fast’ ในปี 2015 ซึ่งต่อมาถูกระบุว่าเป็นภาพลวงตาที่เกี่ยวข้องกับบอลลูนพยากรณ์อากาศ (Weather Balloon)
หมายเหตุ: UAP ย่อมาจาก Unidentified Aerial Phenomena หรือปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งหลายครั้งถูกนำมาใช้แทนคำว่า UFO (Unidentified Flying Object) หรือวัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้ โดยมีการปรับให้ครอบคลุมปรากฏการณ์ที่หลากหลายกว่า ซึ่งทั้งสองคำไม่ได้หมายความว่าวัตถุลึกลับนี้เป็นสิ่งที่มาจากนอกโลกแต่เสมอไป