เราพยายามให้คนเข้าถึงคำถามและคำตอบเหล่านั้นให้มากที่สุด ก็เลยเป็นที่มาว่าของภารกิจในอนาคตที่ว่า “มีคำตอบให้กับทุกคำถามของคนไทย”
20 ปี ถ้าเป็นอายุคนก็ถือว่าอยู่ในวัยสะรุ่นกำลังเฮ้ว เริ่มรู้จักตัวเอง ห้าวหาญประมาณหนึ่ง แต่ก็ยังต้องการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ รอบตัวเพื่อให้เข้าใจโลกมากขึ้น
20 ปี เป็นวัตถุหรือสิ่งของก็เริ่มคุ้นตา อาจมีความเก่าอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นพังไป ยิ่งถ้าเป็นตึกที่มีคนใช้งานเยอะและมีการเรโนเวท ก็ถือว่าไม่ใช่ตึกที่ล้าสมัยเท่าใดนัก เว็บไซต์พันทิปก็เช่นกัน
เราถือโอกาสครบรอบ 20 ปี ของเว็บไซต์พันทิป สัมภาษณ์ บอย-อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์พันทิป ว่าเขาคิดเห็นอย่างไรกับความเป็นไปจากอดีตจนถึงภายภาคหน้า และพูดคุยกับ ปรัชญา สิงห์โต หรือ ไอ้แอนนนนน ผู้เขียนหนังสือ ‘เน็ตเมื่อวานซืน’ หนังสือฉลองครบรอบ 20 ปี เว็บไซต์พันทิป ‘ไอ้แอนนนนน’ มีความสัมพันธ์อย่างไรกับ พันทิปดอทคอม
20 ปี ที่ผ่านมา เว็บไซต์พันทิปมีผลต่อการรับรู้ข่าวสารของชาวไทยอย่างไร
ผมมองว่ามันน่าจะเป็น Social Media แรกๆ ของคนไทยนะครับ จากเดิมคนไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในฐานะของผู้รับสื่อ ก็กลายเป็นว่าพันทิปเปิดพื้นที่ให้ทุกคนสามารถเข้ามาตั้งกระทู้ได้ ทุกคนสามารถเข้ามาเป็นสื่อได้ ใครไปเจอเหตุการณ์อะไรมาก็เขียนลงกระทู้ ก็เป็นเหมือนสื่อไปแล้ว คนอื่นเข้ามาก็จะได้รับทราบรับรู้เหตุการณ์ต่างๆ ด้วย ก็เลยมองว่ามันน่าจะเป็นเว็บยุคแรกๆ ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ทำตัวเป็นสื่อด้วยครับ
ช่วงไหนที่น่าจะใช้คำว่าเป็น ‘ยุคทอง’ ของพันทิปได้
ผมว่ามันเติบโตขึ้นตลอดนะ จะถามว่ายุคไหนเป็นยุคทองผมก็ยังตอบตัวเองชัดๆ ไม่ได้ แต่ก็คงเป็น 10 ปีแรกที่มีความเติบโตโดดเด่น อาจจะเพราะว่ามันไม่เคยมีเว็บไซต์สไตล์นี้มาก่อน ยังไม่มี Social Media ยังไม่ถึงยุค Hi5 ยังไม่มี Facebook, Twitter, Instagram ทำให้ 10 ปีแรก พันทิปกลายเป็น Community ที่ทรงพลังในแง่พื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถเข้ามาสร้างเนื้อหากัน
ดังนั้น 10 ปีแรกคงเป็นช่วงที่พันทิปมีอิทธิพลต่อสังคมไทยเยอะ พอช่วง 10 ปีหลังเราเริ่มมี Social Media ต่างชาติเข้ามา ทางเลือกของคนไทยเพิ่มมากขึ้น พันทิปจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองและปรับรูปแบบในการนำเสนอ
ในทางกลับกัน มีช่วงไหนที่เว็บพันทิปดรอปลงมาจนอยากจะถอนตัวหรือปิดตัวเองหรือเปล่า
ถอนตัวคงไม่นะครับ คือดรอปไหม มันก็ไม่มีช่วงดรอป เพราะมันก็เติบโตไปเรื่อยๆ แต่ผู้ใช้อาจจะแบ่งเวลาไปใช้ Social มากขึ้นเท่านั้นเอง
เมื่อสัก 5 ปี ที่แล้ว ก่อนที่เราจะปรับเว็บครั้งใหญ่ ช่วงนั้นกระแส Facebook ค่อนข้างแรง แล้วเว็บพันทิปก็ดูเป็นเว็บไซต์ที่ไมได้ปรับปรุงอะไรแล้วมาสัก 10 ปี ละ เลยดูเหมือนดรอป แต่จริงๆ มันก็ได้ดรอปนะครับ ผู้ใช้มีการเติบโตตลอดเวลา แต่อาจจะเป็นที่ความรู้สึกของคนเอง
พอเรารีโนเวทเว็บใหม่ ดีไซน์ทุกอย่างใหม่ มีการทำให้พันทิปเข้าไปอยู่ในพื้นที่ Social Media อื่นๆ มากขึ้น ตรงนี้ก็น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้พันทิปกลับมาเป็นเวทีที่คนเห็นมากขึ้นกว่าสมัยก่อน จากเดิมตอนที่ยังไม่ได้ปรับอะไรมันก็อยู่ในที่ของมัน แต่พอปรับก็เลยได้เห็นในที่อื่นๆ ด้วย รวมถึงกระแสของสมารท์โฟนที่เข้ามามากขึ้น เนื้อหาของพันทิปก็ปรับให้อ่านบทสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น ทำให้ยอดผู้ใช้เติบโตขึ้นสูงมากในช่วง 5 ปี หลังจากปรับเว็บมาครับ
ที่บอกว่าผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยใช้ Social Media มากขึ้น พันทิปมีการปรับตัวอะไรที่ชัดเจนขึ้นบ้าง และหลังจากการปรับตัวแล้ว คิดว่าตอนนี้พันทิปอยู่ตรงจุดไหนโลกอินเทอร์เน็ตประเทศไทย
อันดับแรกเลยนะครับ เรามองว่าเราไม่ใช่เจ้าของอินเทอร์เน็ต “ทุกคนในประเทศไทยจะต้องเล่นพันทิปอย่างเดียว” เราไม่ได้มองอย่างนั้นเลย คนมีทางเลือกเยอะแยะ บางคนเล่นพันทิป เล่นเฟซบุ๊ก เล่นทวิตเตอร์ เล่นอินสตาแกรม เล่นยูทูป คือเว็บทุกเว็บเกิดมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ของตัวเอง พันทิปก็เป็นอีกเว็บหนึ่งที่มีจุดประสงค์ของตัวเองเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เราทำก็คือ Platform อื่นๆ เขามีผู้ใช้อยู่แล้ว เราจะเอาเนื้อหาของเราไปยัง Platform ต่างๆ ได้ยังไงมากกว่า
อย่าง Facebook คนไทยใช้กันเยอะมาก เราจะเข้าไปอยู่ใน Facebook ได้อย่างไร เราก็เลยหาวิธีที่ทำให้คน Feed กระทู้เข้า Facebook เยอะๆ แชร์เข้า Facebook เยอะๆ เราเปิดเพจบน Facebook เพื่อที่จะแชร์กระทู้ดีๆ ให้เข้าถึงคนมากขึ้น นี่ก็เป็นวิธีหนึ่ง หรือถ้าเป็น Platform อื่นอย่าง LINE เราก็มี Official Account ที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้แฟนคลับพันทิปติดตาม แล้วเราก็ Feed กระทู้น่าสนใจให้เขาได้อ่านกัน หรือ Google นี่ก็เป็นตัวสำคัญเลย เนื้อหาของพันทิปนั้นมีมหาศาล ถ้าเกิดว่าเราทำให้เนื้อหาทั้งหมดมันค้นหาได้ง่าย คนเข้าไปใน Google แล้วหาอะไรปุ๊ปเจอกระทู้พันทิปขึ้นมามีคำตอบให้เขาได้เนี่ย คนจะรู้สึกว่าพันทิปเป็นที่พึ่งพาให้กับเขาได้
Google คือที่ที่คนเข้าไปหาข้อมูล Facebook คือส่วนเชื่อมต่อคนทั้งโลกเข้าด้วยกัน ส่วนเป้าหมายของพันทิปคือทำทุกวิถีทางให้เราเป็นพื้นที่ที่เราสามารถตอบได้ทุกคำถามของคนไทย และคำตอบในพันทิปจะต้องเป็นคำตอบที่เชื่อถือได้ด้วย และเป็นจุดยืนว่าเราต้องพัฒนาตรงนี้ล่ะ ให้คนตั้งคำถามในพันทิปเยอะๆ แล้วมีคนที่ดี มีคุณภาพ มาตอบในกระทู้นั้นด้วย เราพยายามให้คนเข้าถึงคำถามและคำตอบเหล่านั้นให้มากที่สุด ก็เลยเป็นที่มาว่าของภารกิจในอนาคตที่ว่า “มีคำตอบให้กับทุกคำถามของคนไทย”
เราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมโซเชียลมันมีเนื้อหาดีๆ ในฐานะเราเป็นสื่อโซเชียลหนึ่ง เราก็มีเนื้อหาดีบ้างไม่ดีบ้างผสมกันอยู่ แต่เราพยายามจะหยิบเนื้อหาที่มันดีๆ ให้มันเข้าถึงคนให้มากที่สุดครับ
กระแสตอบรับของการขยับไปที่ Platform อื่นเป็นอย่างไรบ้าง
‘กระทู้เด็ดพันทิป’ ทางทีมงานพันทิปไม่ได้ทำนะครับ แต่เป็นแฟนๆ เขาทำกันเอง แต่อันที่เป็น Official ของเราก็มี อย่างทวิตเตอร์จะเป็น @pantip1996 ส่วน Facebook Page เรามีอยู่ 5 เพจครับ เป็นเพจ ‘Pantip.com’ เป็นเพจหลักเพจนึง แล้วก็จะมีเพจเฉพาะทางอีก 4 เพจ อย่าง ‘ก้นครัวไม่กลัวหิว’ เป็นเพจอาหารการกิน ‘บลูแพลนเน็ตเบ็ดเสร็จเรื่องเที่ยว’ เน้นกระทู้ท่องเที่ยว ‘พันทิปนานุกรม’ ฟีดกระทู้สาระ กระทู้วิทยาศาตร์ กระทู้ประวัติศาสตร์ และอีกอันหนึงคือ ‘Inspired by ชายคา’ จะฟีดกระทู้เรื่องบ้าน
สิ่งที่เราทำก็คือพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน Social Media ต่างๆ เท่าที่ผ่านมาก็ค่อนข้างได้ผลได้ดีนะ จากเดิมใน Social Media ต่างๆ คนมองว่าพันทิปเป็นแหล่งรวมดราม่ามาถกเถียงทะเลาะกัน คือดราม่ามันเป็นเรื่องที่มีปกติของมันอยู่แล้ว แต่ว่ามันมีกระทู้ดีๆ อีกมากที่ไม่ใช่กระทู้ดราม่าเลย เป็นความรู้ดีๆ ที่คนมาแชร์กันเยอะมาก แต่กระทู้ดีๆ เหมือนคนไม่ค่อยเอาไปแชร์ พอคนไม่เอาไปแชร์ถ้างั้นเราเปิดเพจของเรา เปิดทวิตเตอร์ของเรา แชร์กระทู้พวกนี้ออกไปด้วยตัวเองดีกว่า พอแชร์ออกไปปุ๊ปก็ทำให้คนรู้สึกว่าพันทิปมันมีกระทู้ดีๆ อยู่อีกเยอะเลยนี่หว่า เวลาเขามีคำถามอะไร จากที่ไม่เคยเล่นพันทิป ถ้ามาเล่น พันทิปก็อาจจะมีคำตอบให้เขาได้
เราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมโซเชียลมันมีเนื้อหาดีๆ ในฐานะเราเป็นสื่อโซเชียลอันนึง เราก็มีเนื้อหาดีบ้างไม่ดีบ้างผสมกันอยู่ แต่เราพยายามจะหยิบเนื้อหาที่มันดีๆ ให้มันเข้าถึงคนให้มากที่สุดครับ
ผู้ใช้งานพันทิปบางส่วนมีความเห็นว่า การดูแลข้อความภายในเว็บไซต์พันทิประแวดระวังจนเกินไป ในแง่ที่ควบคุมเนื้อหาบางประการ ทั้งการสมัครเข้าใช้ หรือการไล่ลบไล่บล็อกกระทู้อย่างรวดเร็ว จนเคยมีคนค่อนขอดผู้ใช้งานบางคนที่ทำเรื่องหมิ่นเหม่ในแง่ว่า ‘มาเฟียพันทิป’ มาด้วย แท้จริงแล้วพันทิปมีนโยบายในการควบคุมเนื้อหาต่างๆ อย่างไรบ้างครับ
เรื่องสมัครสมาชิกยาก มันมีที่มาของมัน สมัยก่อนมันยังไม่มี Social Media อื่นแบบ Facebook เวลาที่มีเนื้อหาอะไรอยู่บนพันทิป ถ้ามันเป็นเนื้อหาที่กระทบต่อสังคมในเชิงลบเยอะๆ สังคมก็จะมองกลับมายังพันทิปว่า เฮ้ย ทำไมพันทิปปล่อยปละละเลยจัง ทำไมไม่ควบคุมไม่ดูแลอะไรเลย เราก็จะโดนเพ่งเล็งมาก พอเราโดนเพ่งเล็งมาก เราก็เลยเซ็ตระบบสมัครสมาชิกกับบัตรประชาชนขึ้นมา ซึ่งระบบสมาชิกแบบบัตรประชาชนนี้ก็จะโดนคนรุ่นหลังมองว่ายากจัง ไม่เหมือน Facebook ที่สมัครง่ายๆ แต่พันทิปต้องยืนยันบัตรประชาชน ต้องมีโน่นนี่นั่นให้ทีมงานยืนยันตัวตน เลยทำให้คนมองว่าพันทิปสมัยก่อนสมัครยาก แล้วมันก็เลยเป็นภาพจำจนมาถึงปัจจุบัน
ในช่วงหลังนี่เราก็มีการปรับให้มันง่ายขึ้นละ เราก็ไม่ได้จำกัดแค่บัตรประชาชนอย่างเดียวแล้ว เรามี Log In จาก Facebook ก็ได้ ถ้าคุณมี Facebook อยู่แล้ว ถ้าอยากตอบกระทู้พันทิปก็คลิก Log In ผ่าน Facebook ได้ ไม่ต้องยื่นบัตรประชาชนอะไรเลยก็ตอบกระทู้ได้แล้ว
ส่วนการตรวจสอบเนื้อหากระทู้ต่างๆ เรามีกติการะบุไว้ชัดเจนแต่แรกเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา แล้วกติกาก็จะสอดคล้องกับตัวรูปกฎหมายอยู่แล้ว อย่างเช่นคุณโพสต์รูปอนาจารไม่ได้ คุณโพสต์เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ หรือ หมิ่นสถาบันไม่ได้ อันนี้คือส่วนที่อยู่ในขีดของกฎหมายนะครับ แต่มันก็จะมีขีดที่สูงกว่านั้นคือการเป็นอยู่ในพันทิปอย่างสงบสุข เช่นถ้าเกิดว่า คุณใช้ข้อความชวนทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง ทีมงานก็จะตรวจข้อความแบบนี้ด้วย ซึ่งมันอาจจะทำให้ Community ไม่มีความสงบสุขก็จะต้องถูกกรองออก หรือว่าเคสที่ขายของผิดที่ผิดทาง กระทู้เขาคุยกันอยู่แล้วใครก็ไม่รู้มาฝากร้านเหมือนกับใน Instagram ซึ่งมันอาจจะทำให้บรรยากาศเสีย ทีมงานก็จะต้องลบข้อความพวกนี้ออกไป
จริงๆ มันก็มีเคสที่บรรยากาศของแต่ละห้องแตกต่างกันไปด้วย อย่าง ห้องศุภชลาศัย เขาจะคุยกันเรื่องกีฬา คุยเรื่องฟุตบอล เขาก็จะใช้ภาษาค่อนข้างรุนแรงหน่อย คือเวลาเชียร์บอลเขาก็จะมีการบลัฟกัน แขวะกัน เสียดสีกัน ซึ่งภาษาที่พวกเขาใช้ก็จะถือว่าเป็นธรรมชาติของห้องนี้อยู่แล้ว ทีมงานก็จะปล่อยคำพูดในห้องนี้บ้าง แต่ถ้าเป็นห้องอื่นๆ อย่างห้องชานเรือน ที่คุยกันเรื่องแม่และเด็ก เรื่องครอบครัว เรื่องการเลี้ยงลูก Community ห้องนี้จะมีความน่ารัก เขาจะคุยกันด้วยภาษาสวยงาม เรียบร้อยมาก แล้วถ้าใครหยาบคายในห้องนี้ก็จะไม่แฮปปี้ อย่างกรณีนี้ (มีการหยาบคาย) ทีมงานก็จะเข้าไปจัดการกับข้อความที่มันแหลมขึ้นมา
ก็คือทีมงานจะดูอยู่สองประเด็นหลัก หนึ่งคือข้อกฎหมาย กับ สองคือบรรยากาศห้องโดยรวม ถ้ามันไม่โอเคต่อแต่ละห้องก็จะต้องมีการจัดการครับ
พูดถึงเรื่อง อมยิ้ม หรือ สมาชิกของพันทิปแล้ว ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา ประทับใจอมยิ้มใดคนป็นพิเศษ
(หัวเราะ) โอ้โห เยอะแยะเลยครับ ผมว่าสมาชิกที่ทำให้เกิดความประทับใจมันก็มีหลายแบบนะ อย่างเช่นคนที่มาแชร์ความรู้ได้ดีมาก หรือ เขามาตั้งกระทู้แล้วมาสร้างแรงบันดาลใจให้คนอ่าน หรือไปทำบุญมาแล้วแบ่งปันกันต่อ พวกนี้ผมประทับใจทั้งหมดเลย ผมไม่อยากระบุว่าเป็นใครคนใดคนหนึ่งครับ
คือคนที่สร้างเนื้อหาดีๆ เนี่ย ผมนับถือที่เขามาสละเวลามาโพสต์กระทู้แล้วกระทู้เขาเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านนี่ผมนับถือคนเหล่านี้มากเลยครับ
ปรัชญา สิงห์โต หรือ ไอ้แอนนนนน ผู้เขียนเน็ตเมื่อวานซืน หนังสือฉลอง 20 ปี
นักเขียน นักวาดการ์ตูนอารมณ์ดี ที่มักเขียนผลงานเชิงตลกโปกฮากับเรื่องราวในสังคม ก็มีความผูกพันกับพันทิปอยู่ไม่น้อย เขาจึงได้รับหน้าที่เขียนหนังสือ ‘เน็ตเมื่อวานซืน’ ที่ไม่เพียงแค่จดบันทึกประวัติศาสตร์โลกอินเทอร์เน็ตในไทย แต่ยังเป็นหนังสือที่ออกเพื่อฉลองวันเกิดพันทิปในวัย 20 ปี อีกด้วย
ในหนังสือ ‘เน็ตเมื่อวานซืน’ นี่เป็นประสบการณ์ตรงของตัวเองทั้งหมดเลยหรือเปล่าครับทั้งเรื่องที่ดักแก่ และดักไม่แก่ด้วย
จริงๆ งานเขียนทุกงานมันก็น่าจะมีตัวตนของนักเขียนปะปนอยู่ด้วยแหละ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราสมมติตัวละครขึ้นมา 3 วัย ก็คือ มีคนที่อายุ 40 ,30 และ 20 ซึ่งก็จะเจอประสบการณ์ของโลกออนไลน์ต่างกันไป คืออินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ถ้านับย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วเนี่ย คนที่อายุ 40 จะได้อยู่มาตั้งแต่สมัยที่มันยังออฟไลน์อยู่ ส่วน 30 เนี่ยจะเป็นรอยต่อระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์ ส่วน 20 เนี่ยก็จะเกิดมาพร้อมกับยุคดิจิทัลอยู่แล้ว ไม่รู้จักโลกออฟไลน์เลย แต่ละคนก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
ส่วนผมเนี่ย ก็อายุประมาณ 35 ละกัน ก็คือจะอยู่ระหว่างคนที่ 1 กับคนที่ 2 ฉะนั้นเวลารำลึกประสบการณ์ส่วนตัวมาเนี่ย ก็จะเอาไปสอดแทรกไว้ในเรื่องเล่าของตัวละครเหล่านี้ครับ
แปลว่าก็ต้องเล่น Pantip อะเนอะ
เล่นครับ เป็นสมาชิกลำดับที่ 7 หมื่นมั้งครับ ประมาณ 7 หมื่นเศษๆ ก็ชื่อ ไอ้แอนนนนน น.หนู ห้าตัว นี่แหละครับ ก็เคยเล่นมาหลายปี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโหมดอ่านอย่างเดียว ก็น่าจะเหมือนคนไทยทั่วประเทศนะครับ ที่ปากก็บอกว่าไม่ได้เล่น Pantip หรอก แต่จริงๆมันก็ต้องมีชีวิตที่ไปข้องเกี่ยวจนได้ ไปแอบอ่าน ไปแอบส่องอะไรอย่างนี้ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ เคยตั้งกระทู้แค่ครั้งเดียวในรอบประมาณสิบปีครับ
มีวีรกรรมอะไรที่เคยไปทำใน pantip แล้วรู้สึกอ๊ายอายบ้างไหมครับ
เนื่องจากไม่ค่อยได้ทำอะไร ก็น่าจะเป็น ไปเจอพวกกระทู้ใต้สะดือต่างๆ แล้วก็เอามาแชร์งี้ครับ
แต่ไม่ได้มีไปคอมเม้นต์อะไรที่เพิ่มความเสื่อมเสียให้ตัวเองอะไรเลยหรือครับ
ไม่มีครับ ส่วนใหญ่ก็จะเอากระทู้นั้นมานินทาข้างนอกอีกทีนึง ซึ่งอันนี้ก็เป็นลักษณะที่พิเศษของพันทิปนะครับ ที่มันไม่จบในกระทู้ มันกระจายต่อไปที่โซเชียลอื่นๆ ด้วย บางทีก็ไปด่าเจ้าของกระทู้ แต่ไปด่าข้างนอกนะ (หัวเราะ)
แล้วก็มีคนแคปเจอร์ไปลงในกระทู้ต่อ…
เอ้อ ใช่ๆ (หัวเราะ) มันจะเป็นลูปอย่างนี้ แล้วก็จะมีหลายครั้งที่… ทวีตโดนแคปไปลง โพสต์ในเฟซบุ๊กโดนแคปไปลงในพันทิปอีกที
มาที่เรื่องหนังสือกันบ้าง ไม่ทราบว่าหนังสือโดนเอาไปใช้แทนขาโต๊ะมากขนาดไหนแล้วครับ
(หัวเราะยาวมากๆ) ถ้าเห็นในทวิตเตอร์ ก็มีคนพยายามหาวิธีทรมานนักเขียนด้วยวิธีต่างๆ ตอนนี้ก็น่าจะทำได้ทุกอย่างแล้ว ยกเว้นอ่าน แต่เอาจริงๆ มันก็มีคนที่อ่านแล้วแสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหา ว่าตัวเองก็โดนดักแก่ไปเต็มๆ เยอะเหมือนกัน ก็โอเค น่าประทับใจ
กลายเป็นว่า ข้ามเส้นของการใช้รองของหรือแทนขาโต๊ะไปแล้ว
ใช่ครับ มีการเอาไปทำอย่างอื่นมากมาย ตั้งแต่เอาไปปิดฝามาม่า หลังๆ นี่มีแม้กระทั่งเอาไปเผาแล้วมาบ่นว่าเยื่อกระดาษไม่ค่อยดีเลย มันส่งกลิ่น อะไรอย่างนี้ ก็คิดว่า มันคงเผาจริงป่ะวะ (หัวเราะ) ก็โอเค ก็ถือว่า เขามีการพัฒนามุขที่โหดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็โอเค ถือว่าเสียงตอบรับออกมาดีมาก