ปีนี้ขอเปลี่ยนจากสงกรานต์ที่ต้องเปียกซ่กไปทั้งตัว มาเป็นวันหยุดที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำตา
ในวันที่ผู้คนเดินออกจากบ้านไปโดนสาดน้ำประชันแดด อีกทางหนึ่งที่ตัวจะเปียกปอนได้คือนั่งดูซีรีส์ชวนเศร้ายาวรวดเดียวจบ ปล่อยให้เนื้อเรื่องทำงานกับตัวและหัวใจ จนบ่อน้ำใต้ตาค่อยๆ เอ่อล้น ร้องไห้แข่งกับอุณหภูมิประเทศไทยเดือนเมษาฯ กันไปเลย
ไม่รู้จะเรียกว่าทรมานตัวเองอีกแบบหนึ่งได้รึเปล่า แต่ The MATTER ก็ขอมาแนะนำซีรีส์รสขม ที่คงหารสหวานได้ยากหน่อย เผื่อใครอยากใช้วันหยุดที่มีให้ตัวเองได้ระบายความเศร้า มีตั้งแต่ซีรีส์ระดับน้ำตาซึมเบาๆ ไปถึงซีรีส์ที่ดูแล้วทำเสื้อเปียกฉ่ำไปด้วยน้ำตา ตามมาด้วยผลลัพธ์คือตาบวมฉึ่ง
When Life Gives You Tangerines
ดูได้ที่ Netflix
ประเดิมด้วยเรื่องแรกที่จะมาทลายบ่อน้ำตากับ ‘When Life Gives You Tangerines’ หรือในชื่อไทย ‘ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน’ ซีรีส์สัญชาติเกาหลีที่ชาวเน็ตถามเป็นเสียงเดียวกันว่า ส้มจะหวานกี่โมง เพราะถ้าเรื่องทุกข์เปรียบดั่งรสขม เรื่องสุขเสมือนรสหวาน และชีวิตคือผลส้ม มีขม มีหวาน เปรี้ยวบ้างสลับกัน ทำไมชีวิตของตัวละครในเรื่องมันดูขมปี๋ แทบจะไม่มีรสหวานเจืออยู่เลย
ซีรีส์บอกเล่าชีวิตและความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเด็กจนแก่ของ ‘โอ แอซุน’ (รับบทโดย ไอยู) หญิงสาวใจเด็ดเดี่ยว และ ‘ยัง กวานชิก’ (รับบทโดย พัคโบกอม) ชายหนุ่มผู้มั่นคงในรัก ทั้งหมดถ่ายทอดล้อไปกับการหมุนเวียนของฤดูกาลและยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่าน แอซุนต้องฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน อดทนต่อสู้กับอคติที่โถมเข้าใส่ โชคยังดีที่เธอมีกวานชิกอยู่เคียงข้าง เป็นสามีที่คอยเอาใจใส่ภรรยาอยู่เสมอไม่ว่าเรื่องใด และเป็นพ่อที่ซัพพอร์ตลูกๆ ผู้เป็นแก้วตาดวงใจให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง
When Life Gives You Tangerines ขมปร่าไปด้วยบทชีวิตที่หนักหนาตลอด 16 ตอน จึงไม่แปลกเลยที่คนดูจะมีสภาพน้ำตาไหลเป็นก๊อก ความหวานเดียวที่ยังเป็นกำลังใจให้คนดูและแอซุนสู้ต่อ คงจะมีแต่กำลังใจจากกวานชิก (ชายหนุ่มจิตใจดีที่ในโลกความเป็นจริง คงหายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร) และความรักที่ทั้งแอซุนและกวานชิกมีให้แก่ครอบครัว
Adolescence
ดูได้ที่ Netflix
ขอมอบซีรีส์เรียกน้ำตาเรื่องนี้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ หรือคู่รักที่กำลังจะตัดสินใจมีลูก Adolescence เปิดฉากในเช้าธรรมดาวันหนึ่ง ด้วยการบุกจับ ‘เจมี มิลเลอร์’ (รับบทโดย โอเวน คูเปอร์ (Owen Cooper)) เด็กชายวัย 13 ปี เขาถูกกล่าวหาในคดีฆาตกรรมเด็กหญิงวัยเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสับสนให้ครอบครัวมิลเลอร์ โดยเฉพาะ ‘เอ็ดดี’ (รับบทโดย สตีเฟน เกรแฮม (Stephen Graham)) คนเป็นพ่อ และ ‘แมนดา’ (รับบทโดย คริสติน เทรมาร์โก (Christine Tremarco)) คนเป็นแม่ พวกเขาไม่เชื่อว่าลูกคือฆาตกร
ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่มีโอกาสเสียน้ำตาให้กับมินิซีรีส์ 4 ตอนจบเรื่องนี้ คงเป็นเพราะส่วนหนึ่งของตัวเรื่องพาไปสำรวจภาวะใจสลายของพ่อแม่เมื่อได้รับรู้ถึงความผิดที่ลูกกระทำ ภาวะที่ต้องจมอยู่กับการถามตัวเองซ้ำๆ ว่าเราเลี้ยงลูกผิดตรงไหน ยิ่งซีรีส์ถ่ายทำทุกตอนแบบ long take ยาวถึงเกือบหนึ่งชั่วโมงด้วยแล้ว ยิ่งอินไปกันใหญ่
GELBOYS สถานะกั๊กใจ
ดูได้ที่ iQIYI
วัยรุ่นเป็นวัยที่กระตือรือร้นทั้งการหาตัวตนและความรัก แน่ล่ะว่าในกระบวนการนั้นก็มักมาพร้อมกับความสุขปนเศร้าที่ขึ้นสุดลงสุดแบบนอนสต็อป ‘GELBOYS สถานะกั๊กใจ’ ก็เป็นซีรีส์ไทยที่ยุ่งขิงอยู่กับความสัมพันธ์ของวัยรุ่นสยามปี 2025 ในยุคที่เพศวิธีเปิดกว้างจนไม่ต้องมากังวลว่าใครจะเป็นแบบไหน จะกั๊กหรือรักใครก็ได้
แต่ว่าปัญหามันก็อยู่ที่การต้องจัดการความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงนี่แหละ เหมือนที่เพลงของซีรีส์ร้องว่า “เลิกกั๊กแล้วรักก่อนนะเตง” เมื่อ ‘เชียร’ (รับบทโดย ไป๊ป—มนธภูมิ สุมนวรางกูร) คิดจะจีบ ‘โฟร์มด’ (รับบทโดย นิว—ชยภัค ตันประยูร) แต่ก็ยังควง ‘บัว’ (รับบทโดย เลออน เซ็ค) อยู่ไม่ห่าง โฟร์มดที่เหมือนคนไร้สถานะจึงหันไปคบกับ ‘บ้าบิ่น’ (รับบทโดย พีเจ—มหิดล พิบูลสงคราม) กลายเป็นเรื่องวัยรุ่นวุ่นรักเคล้าน้ำตา กับการตามหาว่าสุดท้ายจะรัก หรือไม่กั๊กใคร
Asura
ดูได้ที่ Netflix
ฮิโรคาซุ โคเรเอดะ (Hirokazu Koreeda) ถนัดกับการวนเวียนเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับครอบครัว สิ่งที่น่าแปลกคือ โคเรเอดะสามารถหาแง่มุมสดใหม่มาถ่ายทอดได้เสมอ แม้แต่กับซีรีส์ Asura ที่เคยเป็นนิยายและเคยฉายทางทีวีมาก่อน
ปมของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อสี่พี่น้องหญิงล้วนแห่งบ้านทาเคซาวะ มาทราบเอาว่าพ่อของพวกเธอแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย คบหาอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ไม่พอยังมีลูกติดมาด้วย ตามมาด้วยการหาทางแก้ปัญหาให้ครอบครัวไม่แตกร้าว ในขณะเดียวกัน ซีรีส์ก็ค่อยๆ เผยเรื่องราวของพี่น้องแต่ละคน อันเป็นที่มาของปฏิกิริยาที่แสดงออกแตกต่างกันไปเมื่อล่วงรู้ความลับของพ่อ เช่น หนึ่งในพี่น้องที่สามีของเธอแอบไปมีผู้หญิงอื่น หรืออีกคนที่ดันไปเป็นชู้กับผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วเสียเอง
วิธีการเล่าของโคเรเอดะคงไม่ใช่สไตล์ที่จะบีบคั้นให้คนดูต้องร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวน ความแม่นยำของโคเรเอดะคือการให้คนดูได้ซึมซับความร้าวรานในแต่ละความสัมพันธ์ทีละเล็กละน้อย เปิดแผลของแต่ตัวละครด้วยความระมัดระวัง และเมื่อดูจบก็จะพบกับความรู้สึกติดค้างอยู่ในใจ ยากเกินอธิบาย
Toxic Town
ดูได้ที่ Netflix
Toxic Town ดัดแปลงจากเหตุการณ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้นจริงในเมืองนอร์แทมป์ตันเชอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อหลายครอบครัวในเมืองแห่งนี้พบว่า ลูกๆ ของพวกเขาเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางร่างกาย พอสืบสาวจึงได้รู้ถึงสาเหตุภายหลังว่าเป็นผลจากการที่พ่อแม่ของเด็กๆ ได้รับสารพิษเป็นเวลานาน ขณะทำงานอยู่ที่ไซต์ก่อสร้าง ซึ่งอดีตเคยเป็นโรงงานเหล็ก แน่นอน พ่อแม่ทุกคนไม่เคยรู้ถึงการมีอยู่ของสารพิษมาก่อน
ซีรีส์พูดถึงเหล่าแม่ๆ ที่ต้องทนเห็นลูกเติบโตด้วยสรีระพิกลพิการ ทั้งเจ็บปวด เสียใจ บางคนถึงขั้นโทษตัวเองว่าคือต้นเหตุที่ทำให้ลูกเกิดมาแบบนี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยสูบบุหรี่หรือกินเหล้าระหว่างตั้งครรถ์เลย Toxic Town คือเรื่องราวขมปนความโกรธของแม่ๆ ที่ต่อสู้กับการทุจริตติดสินบน เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
The Last of Us
ดูได้ที่ Max
โลกหลังหายนะช่างสิ้นหวัง The Last of Us คือซีรีส์ดัดแปลงจากเกมดัง เล่าถึงการเดินทางของ ‘โจเอล’ (รับบทโดย เปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal)) ชายผู้สูญเสียลูกสาวไปในวันซอมบี้ระบาด กับ ‘เอลลี’ (รับบทโดย เบลลา แรมซีย์ (Bella Ramsey)) เด็กสาวที่โจเอลต้องนำพาไปส่งให้ถึงที่หมายในฐานะพัสดุ
ในซีซั่นแรก ทั้งคู่ผ่านสถานการณ์ตึงเครียด เหตุสะเทือนขวัญ และประสบการณ์เฉียดตายมาด้วยกันตลอดการเดินทาง ความสัมพันธ์ระหว่างโจเอลและแอลลี่พัฒนามาถึงขั้นที่คล้ายกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ไปแล้ว ในปี 2025 นี้ The Last of Us จะกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเรื่องราวที่เข้มข้มขึ้นและอาจจะสะเทือนใจกว่าเดิม ใครร้องไห้ไปในซีซั่นก่อน อยากบอกว่า ซีซั่นใหม่คงต้องเตรียมใจไว้เยอะๆ เลย
Severance
ดูได้ที่ Apple TV+
ปิดท้ายด้วยซีรีส์ที่เหมาะกับช่วงเวลาซึมๆ ก่อนวันหยุดสงกรานต์จะหมดลง เหมาะกับคนที่รู้ตัวว่า หมดเวลาสนุกแล้ว พรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงานเสียแล้ว Severance คือซีรีส์ดีไซน์เก๋ ว่าด้วยพนักงานแผนกคัดกรองข้อมูลมหาภาคของ Lumon Industries ที่เข้าร่วมโครงการแยกโลก ชิปที่ฝังอยู่ในหัวจะทำให้พวกเขามีตัวตนที่ทำงานแยกขาดจากตัวตนนอกงานอย่างสิ้นเชิง แต่ละตัวตนจะไม่ความทรงจำของกันและกันเลย แม้จะเป็นคนคนเดียวกันก็ตาม
Severance ฉายให้เห็นความสุดโต่งของการแยกงานออกจากชีวิต และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อความไม่เป็นธรรมในที่ทำงานไม่ได้รับการมองเห็น เช่น ต้องทำงานวนลูปซ้ำๆ ทำงานไร้เป้าหมาย ให้สวัสดิการน้อย ช่างเป็นซีรีส์ที่ทิ้งท้ายวันหยุดที่แทงใจเหลือเกิน ว่าแล้วน้ำตามันก็ไหล เพราะไม่อยากกลับไปทำงานนี่แหละ
