ผมเป็นโรคเอวเคล็ดว่าแปลกแล้ว เจออาการร้องไห้เป็นเส้นบะหมี่ถึงกับตะลึงในความแปลกของสารพัดโรคที่ละครออนไลน์ของเราสรรค์สร้างขึ้น เป็นความสนุกใหม่ว่าโรคทั้งหลายของวงการครีเอเตอร์ไทยจะไปสุดที่ตรงไหน
ทว่า เรื่องโรคประหลาด ถ้าเรามองย้อนกลับไป ในพื้นที่จินตนาการคือหนังและวรรณกรรมของมนุษย์ หลายครั้งก็มักมีการสร้างโรคบางอย่าง มีทั้งเรื่องที่มีแกนเป็นโรคแปลกประหลาดต่างๆ หรืออาจมีโรคเป็นส่วนประกอบที่สำคัญหนึ่ง หลายครั้งโรคในจินตนาการของมนุษย์เราก็ถูกใช้อย่างมีความหมายในตัวเรื่อง หรืออาจเป็นเครื่องสะท้อนถึงความวิตกกังวลบางอย่างของสังคม
เมื่อโรคประหลาดในจินตนาการมีมาอย่างยาวนาน The MATTER จึงชวนทุกท่านไปสำรวจโรคพิกล คนติดเชื้อ จากการระบาดใหญ่ของเห็ดราที่เปลี่ยนมนุษย์เป็นเหยื่อ หรืออาการนอนไม่หลับที่ระบาดในเมืองมาคอนโดจาก 100 ปีแห่งความโดดเดี่ยว ไปจนถึงโรคที่เกิดจากการรักเขาข้างเดียวที่ทำให้เราสำลักในอกเป็นกลีบดอกไม้ และโรคที่ทำให้การเติบโตของตัวละครเอกเติบโตย้อนกลับ ซึ่งก็ยอมรับว่าน่าจะยังแปลกไม่เท่าโรคเอวหมุนเท่าไหร่
Greyscale, Game of Thrones
โรคเกรย์สเกล เป็นโรคสำคัญของเวทโทรอส ใน Game of Thrones ตัวโรคถือเป็นโรคเก่าแก่และเป็นโรคร้ายแรงประจำเรื่อง โรคเกรย์สเกลตามชื่อคือเป็นโรคติดเชื้อที่ติดต่อได้ง่าย ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการที่ผิวหนังค่อยๆ แตกกระแหง แข็ง และกลายเป็นแผ่นเหมือนกับหิน ท้ายที่สุดเมื่ออาการลุกลามไปทั่งร่างก็จะเสียชีวิตลงอย่างทุกข์ทรมาน อาการขั้นสุดท้ายเรียกกันว่าเป็นอาการมนุษย์หินคือเป็นเกล็ดทั้งร่างกาย
โดยทั่วไปการป่วยเป็นโรคนี้เป็นเหมือนกับโทษตาย มักจะต้องถูกเนรเทศไปยังดินแดนรกร้างต่างๆ ในเรื่องมีเจ้าหญิงบาราเธียนองค์หนึ่งติดเชื้อตั้งแต่แบเบาะ แต่รอดมาได้ ตัวโรคนี้ยังเป็นการดำเนินเรื่องสำคัญ เป็นบทพิสูจน์ขอตัวละครสำคัญต่างๆ ในการเอาชนะโรคร้ายได้
Dragon pox, Harry Potter
ในแฮร์รี่พอตเตอร์มีการพูดถึงโรคระบาดสำคัญคือโรคฝีมังกรหรือ Dragon pox ลักษณะโรคคล้ายกับไข้ทรพิษหรืออีสุกอีใส ลักษณะสำคัญคือการออกฝีหรือตุ่มน้ำใส ตัวโรคในฉบับโลกพ่อมดแม่มดมีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์โรคติดต่อ คือฝีมังกรแง่หนึ่งเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรง รุ่นย่ายายของแฮร์รี่ก็เสียชีวิตด้วยโรคฝีมังกร ตัวโรคจะทิ้งรอยโรคเป็นรอยสีเขียวหรือม่วง ซึ่งผิวที่กลายเป็นสีเขียวอาจเป็นร่องรอยที่โยงกลับไปถึงภาพลักษณ์แม่มดที่มีร่างกายสีเขียว (แต่โดยนัยคือเคยป่วยมา) นอกจากนี้โรคฝีมังกรยังมีการระบาดและได้รับการกำจัดรักษาไปจากสังคมในทศวรรษที่ไล่เลี่ยกันกับไข้ทรพิษคือช่วงปี 1980 ซึ่งเป็นช่วงปีที่แฮร์รี่เกิดพอดี
Cordyceps, The Last of Us
ธีมเรื่องที่เป็นที่นิยมคือเรื่องวันสิ้นโลก และในหลายวันสิ้นโลกเกิดจากโรคระบาดซึ่งกวาดล้างมนุษย์ออกไป โรคระบาดแบบคลาสสิกคือการติดเชื้อซอมบี้ ทำให้มนุษย์กลางเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้สำนึกรู้ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่หิวกระหาย สำหรับซีรีส์เกม The Last of Us มีไอเดียที่เท่ขึ้น คือการพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่เราจัดให้อยู่ในพื้นที่ล่างๆ ของห่วงโซ่อาหารคือเหล่าเห็ดและเชื้อรา ตีความว่าวันหนึ่ง เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ดูแน่นิ่ง แต่มีโครงข่าย มีปริศนามากมาย เกิดพัฒนาจนทำให้มนุษย์แบบเราๆ กลายเป็นเหยื่อ กลายเป็นอาหารขึ้นมาจะเป็นอย่างไร
ตัวเชื้อรา Cordyceps พัฒนาความคิดจากเชื้อราจริงๆ คือ Ophiocordyceps unilateralis เชื้อราที่เราใช้ทำเป็นถั่งเช่า เชื้อราเหล่านี้จะเข้าไปเกาะกินสมองและร่างกายของแมลง ควบคุมให้กลายเป็นแหล่งอาหารและเป็นส่วนประกอบของการขยายพันธุ์ต่อไป ในเรื่องคนที่ติดเชื้อจะมีอาการหลายขั้น จนท้ายที่สุดมีลักษณะกลายเป็นเห็ดรา
The Insomnia Plague, One Hundred Years of Solitude
เตรียมต้อนรับซีรีส์ 100 ปีแห่งความโดดเดี่ยวที่จะลงเน็ตฟลิกซ์ในเดือนธันวาคมนี้ ที่เมืองมาคอนโด(Macondo) ในเมืองมาคอนโดนี้ มีโรคระบาดเป็นอาการนอนไม่หลับ ซึ่งโรคแตกต่างการอาการนอนไม่หลับทั่วไปตรงผู้ที่เป็นจะมีดวงตาเปิดกว้างและวาววับเหมือนแมว คนเหล่านี้จะนอนไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องนอน ทำงานได้ทั้งวันทั้งคืน ทว่าในที่สุดอาการไม่ต้องนอนก็จะทำให้ผู้คนเริ่มเกิดภาวะลืมเลือน ลืมความทรงจำ สูญเสียงความรู้ สูญเสียตัวตน ลืมกระทั่งชื่อและการใช้สิ่งของสามัญ
สำหรับหนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยวเป็นงานเขียนแบบสัจนิยมมหัศจรรย์ ดังนั้นโรคระบาดประหลาดเป็นองค์ประกอบความเหนือจริงที่ดำเนินอยู่ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในระดับนัยของวรรณกรรม การลืมเลือนและโรคนอนไม่หลับ อาจมีความหมายถึงประวัติศาสตร์อเมริกาใต้ในโลกความจริงด้วย
ทั้งนี้ โรคนอนไม่หลับระบาดในวรรณกรรม ก็ดังไกลไปถึงวงการแพทย์ จนมีการทดลองศึกษาเอามาวิเคราะห์จริงๆ ว่าอาการนี้มันส่งผลยังไง คือศึกษาวรรณกรรมด้วยวิธีวิทยาและวิธีการทางคลินิกจริงๆ นั่นเอง
Benjamin Button disease, The Curious Case of Benjamin Button
The Curious Case of Benjamin Button เป็นอีกหนึ่งหนังประทับใจที่ดูจบก็น้ำตารื้น ตัวเรื่องประยุกต์มาจากเรื่องสั้นในชื่อเดียวกันของ F. Scott Fitzgerald เล่าถึงตัวละครเอกที่มีอาการประหลาดคือ Benjamin Button ผู้ชายที่มีการเติบโตย้อนกลับ คือเกิดมาแก่ชราเลย แล้วค่อยๆ พัฒนาการย้อนกลับไปเป็นเด็กทารกก่อนจะเสียชีวิตไป ความพิเศษของเรื่องคือการเล่นกับช่วงเวลา การรับรู้เวลา เราจะเป็นยังไง มองโลกแบบไหน ในการสำรวจการเติบโตที่นับจากท้ายขึ้นมาจนถึงจุดเริ่มต้น ในทางกลับกันการมองโลกย้อนกลับของเบนจามิน อาจทำให้เรามองเห็นชีวิตของเราเองในมุมที่แปลกออกไป หรืออาจเข้าใจมันมากขึ้น มองเห็นมันมากขึ้น
จากโรคในจินตนาการ ภายหลังมีการค้นพบโรคหายากคือ Hutchinson-Gilford Progeria syndrome หรือโรคชราในเด็ก เป็นอาการที่เด็กมีภาวะแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว เป็นโรคที่พบได้น้อย แต่บ้านเราก็พบได้บ้าง โรคซึ่งเป็นโรคจริงๆ ได้ตั้งชื่อตามวรรณกรรมว่าเป็น Benjamin Button disease
Hanahaki disease, Hanahaki
เวลาที่คุณรักใครซักคนแล้วเจ็บปวดจากรัก เราอาจรู้สึกว่ามันช่างเจ็บร้าวจนเหมือนกับมาจากความเจ็บปวดจากร่างกาย ความรักนำมาซึ่งความป่วยไข้ไม่สบายตัว ในวงการแฟนฟิก มีการใช้กิมมิกของความรักที่ไม่สมหวังแล้วตีความออกมาเป็นความเจ็บป่วยแบบตามตัวอักษร เป็นโรคที่เรียกว่า Hanahaki คือการอาเจียนออกมาเป็นดอกไม้ อาการคือถ้าเราไปรักใครเข้าข้างเดียวแล้วเจ็บปวด ในหัวใจ ในปอดของเราจะมีดอกไม้งอกและเบ่งบานในอก
ความรักที่ควรจะสวยงามของเรา ในที่สุดแล้ว ดอกไม้นั้นก็ย่อมกลับกลายเป็นพิษ ผู้ที่ป่วยมักจะมีอาการสำลักและไอเอากลีบดอกไม้นั้นออกมา โดยทั่วไปอาการมักหายได้เมื่อได้รับความรักสนอง หรือการผ่าตัดก็อาจจะช่วยได้ หลายครั้งอาการป่วยนำไปสู่ความตายได้ แต่ในบางมุมก็ถือเป็นความตายที่งดงาม อนึ่ง การตีความความทรมานจากความรักด้วยโรคของดอกไม้ที่บานในอกถือว่าสวยงามและร้าวรานยิ่ง
Donkey fever, Pinocchio
ส่งท้ายด้วย โรคที่น่าจะใช้เพื่อสอนหรือขู่เด็กๆ กับวรรณกรรมคลาสสิกเรื่องพิน็อกคิโอ ในดินแดนของเล่นมีโรคประหลาดซึ่งพิน็อคคิโอพบว่าตัวเองติดโรคดังกล่าวคือโรคไข้กลายเป็นลาหรือ Donkey fever อันที่จริงตัวเรื่องก็เป็นเหมือนนิทานเปรียบเทียบ เด็กๆ ที่เล่นสนุกไปวันๆ มีพฤติกรรมไม่สนอกสนใจ ไม่ได้เรื่องได้ราว ไม่ไปโรงเรียน ไม่เรียนหนังสือ ในที่สุด ในบริบทดินแดนของเล่น เด็กคนนั้นเป็นโรคกลายเป็นลา อาการเบื้องต้นคือการมีหูขนาดใหญ่เหมือนหูลางอกขึ้น แล้วจึงค่อยๆ กลายร่างเป็นลาจริงๆ ในหนังสือเล่าถึงกระบวนการเจ็บป่วยว่าจะเป็นไปตามขั้น เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในบางจังหวะเด็กที่เป็นจะยังมีการรับรู้ได้รับรู้ได้ถึงความอับอาย ก่อนที่จะถูกต้อนไปขายหรือใช้งาน
ในแง่หนึ่ง นิทานเด็กที่เล่าเรื่องของตุ๊กตาที่ได้ชีวิตเป็นเด็กชาย ถูกหลอกไปดินแดนของการเล่น ของความสนุก ซึ่งในการไปมีลาลากรถไปด้วย ในที่สุดถึงพบว่า ถูกหลอกมาแล้วจะกลายเป็นลา เป็นการกลายร่างที่น่าอับอายและถูกขายทิ้ง ถูกใช้งานนั้น สยดสยองกับเด็กที่อ่าน ฟังหรือดูการ์ตูนพอสมควร ด้านหนึ่งตัวเรื่องนับเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคมช่วงปลายศวตวรรษที่ 19 คือการที่สังคมมีคนที่ไม่เข้าระบบโรงเรียน ต้องทำงานหนัก และมีคนที่คอยหาประโยชน์จากแรงงานนั้นๆ
อ้างอิงจาก