การมาถึงของเกม Black Myth: Wukong ถือเป็นอีกการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรม ของคอนเทนต์เรื่องเล่าจากประเทศจีน อันที่จริงการบอกว่าจะเอาหงอคงจากเรื่องไซอิ๋ว กลับมาสร้างเป็นเกม เราอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องเก่าๆ แต่วูคองเป็นการรีเมคที่ถูกพูดถึงมากมาย ด้วยการออกแบบเกมที่ตระการตา เกมเพลที่เป็นแนวเกมโซลแล้ว ไม่เท่านั้นเกมใหม่จากจีนนี้ยังมีความโดดเด่นในการนำวรรณกรรมไซอิ๋วกลับมาเล่าและใช้ใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
ตัวเรื่อง Black Myth: Wukong เป็นการค่อยๆ ย้อนเรื่องราวไซอิ๋วหลังจากการอัญเชิญพระไตรปิฏกสิ้นสุด เราได้เล่นเป็นตัวละครหลักที่คล้ายจะเป็นการตามรอยหงอคง นอกจากเรื่องราวที่ค่อยๆ พาเรากลับไปเยี่ยมเรื่องราวเก่าแก่ที่เคยเกิดขึ้นในไซอิ๋ว เช่น เหตุการณ์ที่วัดเจ้าแม่กวนอิม กับไปปราบศัตรูเก่าๆ ตัวเกมยังมีนัยทางปรัชญา เช่น การพูดถึงประเด็นความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม และการที่ไซอิ๋วเองก็เป็นความเปรียบทางพุทธศาสนา การเดินทางไปชมพูทวีปอาจหมายถึงการเข้าถึงพุทธะในตัวของชาวพุทธเอง
ด้วยความที่เกมวูคอง ให้เราตามรอยของหงอคง ความสนุกและความฉลาดของเกมคือการประยุกต์ความเป็นหงอคง รวมถึงเรื่องราวการผจญภัยของหงอคงเข้ากับตัวละครหลักของเรา และเพื่อให้ได้เข้าใจเกมมากขึ้น เราจะของชวนรู้จักความเป็นซุนหงอคง ตัวละครที่เริ่มจากการเป็นลัทธิเต๋า สู่เดรัจฉานที่ทำสวรรค์ปั่นป่วน ลิงที่กลายเป็นอมตะ ไร้เทียมทาน กลายเป็นไอคอนของป็อบคัลเจอร์ และกลายเป็นพระโพธิสัตว์ในจุดสิ้นสุดของการเดินทาง นี่คือสกิล ไอเทม ไปจนถึงศัตรูสำคัญที่กลับมาโลกแล่นอีกครั้ง
Passive Skill
- เป็นอมตะ
- ความเป็นอมตะค่อนข้างเป็นประเด็นสำคัญของหงอคง เมื่อหงอคงเป็นลิงที่เกิดจากก้อนหิน ไม่อยากแก่ตายจึงออกฝึกฝนและแสวงหาความเป็นอมตะ จุดเริ่มต้นอิทธิฤทธฺหงอคงมาจากการบำเพ็ญพรตแบบเต๋า เชื่อว่าตอนนี้หงอคงก็เป็นอมตะแล้วเมื่อแปลงร่างได้ 72 ร่าง มีคำอธิบายตอนหนึ่งว่าหงอคงไม่ตายเพราะมี 72 ร่างนี้ด้วย
- ไม่เพียงเท่านั้นหงอคงยังเป็นอมตะจากการปั่นป่วนโลกทั้งสาม จากการบุกไปเขียนบัญชีในยมโลกให้ตัวเองและพรรคพวกลิง พอโดนหลอกให้ไปอยู่บนสวรรค์ ด้วยความโกรธไปกินลูกท้อเซียน บุกไปกินยาอายุวัฒนะ ก่อนที่ตอนท้ายความเป็นอมตะของหงอคงสัมพันธ์กับการเข้าสู่พุทธะคือการตื่นรู้
- ตาทิพย์
- ตาทิพย์ของหงอคงสามารถมองเห็นทะลุเวทมนตร์ต่างๆ ได้ โดยในเวลากลางวันสามารถมองได้ 1,000 ลี้ และในเวลากลางคืนสามารถมองได้ 500 ลี้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ได้มาจากการถูกขังในเตาเผายา
- เทพเจ้าอาชา
- หงอคงเป็นเทพเจ้าอาชาและสามารถควบคุมม้าได้ เพราะเคยรับหน้าที่ผู้ดูแลม้าของสวรรค์
Active Skill
- แปลงร่าง 72 รูปแบบ
- หงอคงสามารถแปลงเป็นสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ร่างมนุษย์ สัตว์ สิ่งของ ไปจนถึงอาคารได้ทั้งหมด 72 รูปแบบ
- แยกร่างด้วยเส้นขน
- หงอคงมักใช้เส้นขน 84,000 เส้นในตัวเสกเป็นสิ่งต่างๆ รวมถึงเสกร่างแยกของตัวเอง
- ร่างสงคราม
- หงอคงสามารถแปลงร่างให้มีสามหัว หกแขน เพื่อรับศึกได้ทุกด้านพร้อมกัน
- ขยายร่างกายให้ใหญ่เท่าท้องฟ้าได้
- ตีลังกาครั้งเดียวเดินทางได้ 108,000 ลี้
Spells
- คาถาควบคุมธาตุธรรมชาติ เช่น ไฟ น้ำ ลม
- คาถาหยุดการเคลื่อนไหวของมนุษย์ สัตว์ไปจนถึงเทพเจ้าให้หยุดนิ่ง
Item ประจำตัว
- กระบองวิเศษ
- อาวุธประจำตัวของหงอคง แต่เดิมเป็นเสาค้ำสมุทรทะเลตงไห่ เป็นกระบองที่สามารถยืดหดได้ เพิ่มจำนวนเพื่อให้ร่างแยกใช้ได้ โดยปกติหงอคงมักเก็บกระบองไว้ในรูหู
- เมฆวิเศษ
- หงอคงมักใช้เมฆในการเดินทางได้ (โดยเมฆนี้แหละที่เป็นต้นแบบของเมฆสีทองใน Dragon Ball)
Item อื่นๆ ที่ปรากฏ
- พัดเหล็ก
- อาวุธประจำตัวองค์หญิงพัดเหล็ก โดยในวรรณกรรมอธิบายว่าเป็นพัดจากใบตอง องค์หญิงพัดเหล็กเป็นรากษสี เป็นภรรยาของปีศาจกระทิง พี่ชายร่วมสาบานของหงอคง ในเรื่องหงอคงต้องการพัดวิเศษไปดับไฟ แต่องค์หญิงไม่ยอมให้จึงต้องอุบายต่างๆ จนยึดได้มา ส่วนในเกมพัดเหล็กเป็นอุปกรณ์ที่ให้ผลพิเศษ พัดเหล็กสามารถกดใช้ในการต่อสู้ ปล่อยพายุเพื่อตรึงศัตรูไว้ได้
- ผ้ากันไฟ
- ผ้ากันไฟเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในไซอิ๋วตั้งแต่ช่วงต้นการเดินทางของพระถังซัมจั๋งหลังจากพบกับหงอคง ในเรื่องคณะเดินทางไปพำนักที่วัดเจ้าแม่กวนอิมแล้วพบหลวงจีนโลภมาก หลวงจีนต้องการจีวรล้ำค่าของพระถังจึงได้วางแผนจุดไฟเผาวัดขึ้น หงอคงปล่อยให้วัไฟไหม้ แต่ไปขอผ้าคลุมกันไฟจากกว่างหมู่เทียนหวัง (ท้าววิรูปักษ์)
ศัตรูสำคัญของหงอคง
- เอ้อหลางเสิน
- เทพสามตา แม่ทัพสวรรค์ คู่ปรับสำคัญของหงอคง โดยในวรรณกรรมหงอคงสร้างความปั่นป่วนโดยเฉพาะบนสวรรค์ ตั้งใจจะยึดอำนาจเง็กเซียน เทพเอ้อหลางเสินเป็นเทพสวรรค์ชั้นสูง ไม่ชอบหงอคงด้วยมองว่าเป็นปีศาจเดียรัจฉาน และมองว่าเป็นลิงหยุกหยิกอยู่ไม่สุข เทพเอ้อหลางได้รับบัญชามาให้ปราบหงอคง กองทัพที่ยกมาสำคัญมีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ จุดเด่นของเทพเอ้อหลาง นอกจากดวงตาที่สามแล้วยังมีสุนัขเทพสีดำชื่อ เสี่ยวเทียนกวนหรือ ‘เห่าฟ้า’ ในเกมถือว่าเทพเอ้อหลางมีความโหดหินมาก และมักพูดเรื่องราวภูมิหลังของตนกับหงอคงเรื่อยๆ
- ปีศาจหมีดำ
- ปีศาจหมีดำเป็นอีกบอสสุดหิน หมีดำเป็นปีศาจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่วัดกวนอิม เมื่อเพลิงไหม้แล้วปีศาจหมีมาร่วมขโมยจีวรล้ำค่าของพระถังซัมจั๋งด้วย ในเกมการสู้กับปีศาจหมีต่อสู้ท่ามกลางเปลวเพลิงซึ่งล้อกับเรื่องราวเมื่อครั้งก่อน
- ปีศาจลมเหลือง
- ปีศาจหนู ที่แต่เดิมเป็นหนูบำเพ็ญพรตบนสวรรค์จนควบคุมลมได้แต่ไปลอบกินน้ำมันตะเกียงจนต้องหนีมาอยู่ในโลกมนุษย์ สุดท้ายปีศาจหนูตั้งใจช่วยอาณาจักรกลางทะเลทรายจากปีศาจด้วง ได้รับการสั่งสอนโดยพระโพธิสัตว์ แต่สุดท้ายด้วยความเป็นปีศาจก็ทำเรื่องเลวร้ายและอาณาจักรทะเลทรายก็ล่มสลายอยู่ดี ทว่าการตีความใหม่ของเกมวูคอง กลับไปตั้งคำถามกับตำแหน่งแห่งที่ซึ่งเป็นความเชื่อเดิมเช่นปีศาจก็เป็นปีศาจ (เหมือนหงอคง) สุดท้ายในเกมจะพูดถึงการกระทำของมนุษย์คือการฆ่า ซึ่งเป็นนิทานเรื่องชายหนุ่มกับปีศาจจิ้งจอก มนุษย์ลงมือฆ่าได้ ซึ่งเลวร้ายกว่าปีศาจ
- ปีศาจแมงมุม
- ปีศาจแมงมุมเป็นอีกตอนสำคัญของไซอิ๋ว ในวรรณกรรมไซอิ๋วเดิมค่อนข้างให้ภาพพี่น้องปีศาจแมงมุมเป็นปีศาจสตรี 7-8 ตน ต้องการกินเนื้อพระถังซัมจั๋ง ในเวอร์ชั่นเกมซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่มีตัวละครสตรีนี้ ได้เชื่อมโยงปีศาจแมงมุมเข้ากับภูมิหลังของตือโป๊ยก่าย ทั้งสองผูกพันกันด้วยความรักจากชาติก่อนตั้งแต่อยู่บนสวรรค์ การต่อสู้ในเกมจึงมีความซับซ้อนจากปมความรักและการไม่ยอมรับจากการกลัวอำนาจเบื้องบนหรือทัณฑ์สวรรค์ การตีความปีศาจแมงมุมขึ้นใหม่และผูกเข้ากับปมเรื่องว่า ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีทุกข์ ใจขื่นขมระทมชั่วนิรันดร์ คำพูดติดปากของตือโป๊ยก่ายได้อย่างน่าสนใจ
อ้างอิงจาก
blackmythwukong.wiki.fextralife.com