“ความแตกต่างระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นเพียงสิ่งลวงตาที่คงอยู่อย่างดื้อดึง”
[The distinction between past, present, and future is only a stubbornly persistent illusion.]
“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้นะ” เป็นประโยคที่มักจะผุดขึ้นมาในหัวเวลาที่เราอยากกลับไปแก้ไขเรื่องบางเรื่อง เปลี่ยนเหตุการณ์ร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ซึ่งฝังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องยากถ้าเรามีไทม์แมชชีนสักเครื่อง แต่ซีรีส์ Dark บอกกับเราว่า มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น และเวลาสิ่งที่เราไม่ควรจะไปยุ่งด้วย
‘เวลา’ มีหน้าตาแบบไหน? เรารู้ว่าเวลาคงอยู่แต่ไม่เคยสัมผัสมันได้ด้วยมือเปล่า เวลาดูจะเคลื่อนผ่านไปคล้ายกับเส้นตรง ก่อนหน้านี้เราเคยเป็นเด็ก ตอนนี้มีอายุมากขึ้น และในอนาคตหน้าตาก็คงเหี่ยวลงกว่านี้แน่ๆ แต่แทนที่จะเป็นเส้นตรง เวลาในซีรีส์ Dark กลับเป็นวงกลมที่หมุนวนไปเรื่อยๆ เหตุการณ์และผู้คนทั้งในอดีต ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคตต่างเชื่อมโยงกัน เราจะไม่เป็นเราทุกวันนี้ถ้ากลับไปแก้ไขอดีตที่เคยเป็นมา
แค่ฟังก็งงแล้ว และเชื่อว่าถ้าใครได้ดูเรื่องนี้ก็คงจะสับสนไปตามๆ กัน เพราะ Dark คือซีรีส์ว่าด้วยปริศนาของเวลาที่ไปเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของผู้คนในเมืองวินเดน เรียกได้ว่าย้อนเวลากันเก่ง! ข้ามเวลากันทั้งเรื่อง ตัวละครก็มีเยอะจนไม่แน่ใจว่า เอ๊ะ! สรุปไอ้คนนี้มันเป็นใคร ไหนจะปีและเหตุการณ์ที่พันกันวุ่นวายเหมือนคนเขียนบทตั้งใจให้คนดูหัวหมุน แถมด้วยไมเกรนขึ้นสมอง พร้อมกับคำถามในใจว่า “อะไรวะเนี่ย?”
แต่ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่าง The MATTER ก็พร้อมที่จะแถลงไข วันนี้เราจะมาเปิดผัง 4 ครอบครัวหลักในเรื่องให้ดูกันว่าใครเป็นใคร แต่ละคนสัมพันธ์กันยังไง เผื่อว่าจะช่วยให้หายสับสนได้บ้าง แม้จะยังเดาไม่ได้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะซีซั่นล่าสุดทิ้งปมไว้เยอะแยะเต็มไปหมด
คำเตือน : รูปต่อไปนี้สปอยล์เนื้อหาหลักในซีรีส์ Dark
*ปี 1953/54 คือช่วงปี 1953-1954, ปี 1986/87 คือช่วงปี 1986-1987 และ ปี 2019/20 คือช่วงปี 2019-2020