“ทุกคนเป็นตัวเอกในชีวิตของตัวเอง”
เราคงเคยได้ยินประโยคข้างต้นมาบ้างในชีวิต เรื่องราวชีวิตที่มาพร้อมความซวยหรือความสำเร็จ หลายๆ ครั้งทำเราเปรียบมันหนังหรือเกมซึ่งมีเราเป็นศูนย์กลางของเรื่อง ทั้งดราม่าที่ยิ่งกว่านิยายใดๆ จะเขียนขึ้นมาได้ และความลำบากที่ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เราก็เป็นคนทำให้ตัวเองผ่านมาได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากมีความคิดแบบนั้นมาตลอด อยู่ดีๆ เปิดไปหน้าโซเชียลมีเดีย เรากลับเจอเข้ากับหนุ่มสาวตาลอย ท่าทางแข็งทื่อ คำพูดคำจาเหมือนตุ๊กตาไขลานที่มีชุดคำพูดอยู่ไม่กี่คำ ก็พาเราเหวอนิดๆ เพราะนั่นเหมือนตัวละครพื้นหลังในวิดีโอเกมเลย
เทรนด์ NPC นี้ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดต่อการมองมนุษย์คนหนึ่ง การกระทำของพวกเขาคล้ายภาพ CG ที่เหมือนจริงเกินจะเป็นการ์ตูน แต่ก็ไม่เหมือนมนุษย์ 100% ซึ่งเราเรียกกันว่า Uncanny Valley ทว่าใครจะไปรู้ว่าปรากฏการณ์นี้ จะเกิดขึ้นได้จากการมองหน้ามนุษย์ด้วยกัน? อารมณ์ขันยุคหลังเจน Z ทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา
อะไรคือ NPC? ระหว่างทางจากจุดเริ่มต้นของมันเกิดอะไรขึ้น? และเรามาถึงเทรนด์นี้ได้ยังไง?
NPC หรือ Non-Player Character เป็นนิยามที่ถือกำเนิดขึ้นจากการเล่นเกมโรลเพลย์ หรือเกมที่ผู้เล่น (PCs) จะต้องสวมบทบาทต่างๆ ภายในโลกที่เกมมาสเตอร์ (GM) เป็นผู้สร้างหรือดำเนินเกม เกมเหล่านี้จะมีผู้เล่นราวๆ 4-9 คน แต่ละคนเป็นตัวเอกของตัวเองกันทั้งนั้น แต่อย่างที่เรารู้กันว่าโลกของเรามีคนจำนวนมากกว่านั้น และการจะเดินเรื่องไปข้างหน้า จำเป็นต้องมีตัวละครอื่นๆ มากมายด้วย และนั่นคือหน้าที่ของ NPC
ถ้าเราทุกคนพิเศษในโลกของเรา ก็แปลว่าไม่มีใครพิเศษอย่างแท้จริงเลย ในขณะที่ตัวผู้เล่นอาจจะอยู่ในบทบาทอัศวิน นักเวท หรือหัวขโมย NPC อาจมาในรูปแบบของชาวบ้าน 1 พ่อค้าพเนจร ทหารยาม ฯลฯ ซึ่งหากผ่านมือเกมมาสเตอร์ที่มากความสามารถ ก็อาจทำให้ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตชีวา และต่อเติมช่องว่างระหว่างผู้เล่นกับโลกให้พวกเขาอินไปกับเกมได้มากกว่าเดิม
เมื่อเวลาผ่านไป เกมก็มีวิวัฒนาการเช่นกัน จากที่เราเล่นเกมกันด้วยกระดาษและปากกา เกมสวมบทบาทกระแสหลักจำนวนมาก ก็เปลี่ยนไปอาศัยอยู่บนจอทีวีและมอนิเตอร์ พร้อมปะติดปะต่อกันเป็นภาพผ่านโค้ด ซึ่งรูปแบบ NPC ที่เราคุ้นเคยนั้นเกิดขึ้นในยุคนี้นี่เอง
ในขณะที่เรายังคงเป็นผู้เล่นอยู่อย่างเดิม เกมมาสเตอร์ของเราอาจเปลี่ยนจากเพื่อนคนหนึ่ง กลายเป็นผู้พัฒนาเกมที่เป็นดำเนินเรื่องและดูแลการสร้าง NPC ให้กับเรา แต่การออกแบบวิดีโอเกมนั้นจำต้องสู้กับข้อจำกัดจากหลากหลายแห่ง อาจจะเป็นฮาร์ดแวร์ที่ยังไม่อนุญาตให้พวกเขาทำทุกอย่างที่ต้องการได้ เป็นกำลังคนที่ต้องจัดสรรไปทำอะไรมากมาย หรือว่าเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นจากที่อาศัยการตีความ ไปเป็นเกมที่ต้องสร้างโลกเสมือนให้สมจริงที่สุด
ปัญหาอย่างหลังสุดของการสร้างโลกเสมือนให้สมจริงขึ้น แปลว่าแทนที่เราจะต้องสร้าง NPC ละเอียดๆ เพียงไม่กี่ตัวละคร แต่ผู้พัฒนาเกมกลับจำเป็นต้องสร้างตัวละครจำนวนมหาศาล ซึ่งโดยมากแล้วจะมีเสื้อผ้าที่คล้ายคลึงกัน ชุดคำพูดซ้ำๆ วนๆ ที่ไม่ได้มีความหมายอะไร นอกจากเป็นการชี้ให้เห็นว่าตัวละครนี้พูดได้นะ หรือเพื่อเสริมความมีชีวิตของพวกมันในบางเกม เช่น เกมจากซีรีส์ Fallout ที่ตัวละครจะมีกิจวัตรประจำวัน และที่อยู่อาศัยของตัวเอง
แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงมากมายในเชิงการออกแบบ แต่หลักใหญ่ใจความในการมีอยู่ของ NPC ยังคงเดิม คือการเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นหลังของโลก และไม่ว่าจะมีชีวิตแค่ไหน พวกเขาล้วนถูกออกแบบมาให้ไม่มีใครเด่นไปกว่ากัน ภายในสูตรสำเร็จบางอย่าง ในขณะที่ตัวละครเอกนั้นก็เป็นอะไรก็ตามที่ผู้เล่นอยากให้เป็น
ลักษณะความเหมือนกันไปหมดนี้ นำไปสู่การนำมาใช้นอกเหนือจากวิดีโอเกมในปัจจุบัน โดยคำว่า NPC เริ่มถูกนำมาใช้ในเชิงถากถางกลุ่มคนที่มีลักษณะเหมือนๆ กัน ทั้งในแง่คำพูดและแนวคิด แม้แรกเริ่มจะกำเนิดขึ้นมาในช่วงปี 2016 จากชาวเน็ตฝ่ายขวาของเว็บไซต์ 4Chan ซึ่งพยายามลดทอนกลุ่มคนที่มีแนวคิดซ้ายว่า เอาแต่พูดกันแต่ Buzzword ในทุกข้อถกเถียง จนท้ายที่สุดการใช้คำว่า NPC ก็ขยายวงกว้างออกมากกว่านั้น เมื่อมันหลุดออกมาจากเว็บบอร์ดดังกล่าว
ในบริบทปัจจุบัน คำคำนี้มักถูกใช้ในเชิงจิกกัดและควบรวมกลุ่มคนเป็นประเภทๆ เช่น การใส่เสื้อผ้า Essentials ทั้งตัวอาจทำให้เราถูกจิกกัดว่าเป็น Fashion NPC, Sapiens เป็นหนังสือ NPC หรือแค่เป็นแฟนคลับอะไรสักอย่าง ก็พาเราไปอยู่ในวงของการเป็น NPC ได้แล้ว หากลองสังเกตดูจริงๆ
เราแต่ละคนในแง่มุมหนึ่งอาจถูกใครบางคนบอกว่าเป็น NPC ได้เช่นกัน
เพราะมนุษย์ไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้น
และพวกเราแต่ละคนก็มีจุดร่วมกันมากกว่าที่คิด
จากที่ว่าไปทั้งหมดในข้างต้น ดูเหมือนว่า NPC จะไม่ได้มีความหมายหรือแง่มุมในด้านบวกมากขนาดนั้น แต่แล้วเทรนด์การเปลี่ยนร่างตัวเองจากมนุษย์ไปเป็น NPC นี่มันยังไงกัน? คำตอบขั้นแรกของเราคือ ก็มันตลกหนิ เป็นเทรนด์ของความตลกที่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร และเราแต่ละคนอาจเคยเห็น NPC จาก The Sims ที่เดินไปไหนไม่ได้ เพราะถูกเก้าอี้ขวางทาง แล้วการได้เห็นมนุษย์ในโลกจริงทำท่าทางเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้น ก็เป็นความตลกที่เราต่างเคยพบเจอและสามารถรีเลตได้ทันที
คำตอบขั้นถัดมา อาจได้จากการมองเข้าไปในตัวเองและสภาพแวดล้อมของเรา เทรนด์ NPC นี้ทัชกับคนจำนวนมากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่าเราไม่ได้อยากเป็น หรือเราเป็นตัวละครหลักในโลกที่เรายืนอยู่ไม่ได้? เราไม่อาจเอาตัวเองไปเทียบกับตัวละครหลักของมหากาพย์แฟนตาซี ซึ่งช่วยกอบกู้โลกจากปัญหามากมายอันรุมเร้าได้ เราจะทำยังไง เมื่อมังกรร้ายที่เราเจอมีชื่อว่า ภาวะโรคร้อน ภัยสงคราม หรือเผด็จการ? ฉะนั้นแล้วเราจะเป็นอะไรไปได้นอกจากชาวบ้าน 1?
คำตอบขั้นสุดท้ายอาจชี้เรากลับไปยังประโยคเปิดของเรื่องนี้ ถ้าหากว่ามีคำพูดว่า “ทุกคนเป็นตัวเอกในชีวิตของตัวเอง” อีกคำที่ต้องมาคู่กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ “เราทุกคนล้วนเป็น NPC ในชีวิตคนอื่น” การเป็นตัวละครหลักอยู่ที่จังหวะและมุมมอง เราเป็นตัวประกอบของชีวิตใครสักคนเสมอ และถึงอย่างนั้น บางทีการเป็นตัวละครหลักตลอดเวลาก็ใช้พลังงานสูงมาก เพราะงั้นลองปล่อยตัวไปเป็นพื้นหลังให้ชาวบ้านเขาบ้างในบางครั้งบ้างก็ได้
ในโลกนี้ไม่มีใครเป็นตัวละครหลัก หรือ NPC ตลอดเวลา เรามีช่วงเวลาที่เฉิดฉายของเรา แล้วก็มีเวลาที่เราต้องปล่อยตัวเองตามน้ำไปกับโลกด้วยเช่นกัน
อ้างอิงจาก