ในฐานะคนดูหนังเอาบันเทิงคนหนึ่ง เราค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์เมื่อได้รับชมภาพยนตร์ Kingsman : The Secret Service หรือที่ใช้ชื่อไทยว่า คิงส์แมน โคตรพิทักษ์บ่มพยัคฆ์ ที่จัดเต็มทั้งเนื้อหาเฮฮาเอามันส์ กับฉากแอคชั่นหวือหวา (และเลือดสาด) เกินคาด แม้ว่าโครงเรื่องหลักยังเป็นการต่อสู้ของสายลับกับตัวร้ายที่หมายจะครองโลกก็ตาม
ในโอกาสที่หนังภาคต่อที่ใช้ชื่อภาคว่า Kingsman : The Golden Circle กำลังจะเข้าฉาย เราจึงถือโอกาสมานั่งเมาท์มอยว่า หนังสายลับที่บู๊แหลกก็ยังสามารถเก็บความเป็นสุภาพบุรุษสมกับคำพูดที่ว่า ‘Manners Maketh Man’ หรือ ‘กิริยาส่อสกุล’ ได้มีเบื้องหลังอะไรน่าสนใจบ้าง
1. เห็นได้ชัดเจนว่า Kingsman นั้นเป็นภาพยนตร์ที่ผู้กำกับตั้งใจให้เป็นหนังที่แซวหนังสายลับเรื่องอื่นๆ แต่ความจริงแล้วหนังเรื่องนี้เป็นการดัดแปลงการ์ตูน The Secret Service ที่แต่งเรื่องโดย Mark Millar
พล็อตของ The Secret Service การ์ตูนต้นฉบับเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสายลับอังกฤษมาดสุภาพบุรุษที่ฝึกหลานชายวัยรุ่นแนวเฮี้ยวให้กลายเป็นสายลับเต็มตัว
ซึ่งเจ้าการ์ตูนที่ว่านี้เกิดขึ้นจากการที่ Mark Millar ได้ไปดริงก์กันในผับกับ Matthew Vaughn ไม่รู้ว่าความเมาหรือท้ากันเอามันส์ ทั้งสองคนตกลงใจที่จะทำเรื่องเกี่ยวกับสายลับมันส์ๆ ไม่ต้องดราม่าตามเทรนด์ยุคนี้สักเรื่อง
2. ไอเดียแรกเริ่มของ Mark Millar ในการแต่งการ์ตูนเรื่องนี้ เอาแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงหลังจากที่ Terence Young ผู้กำกับภาพยนตร์ Dr.No ได้ให้ Sean Connery ในวัย 30 ต้นๆ ไปฝึกความเป็นสุภาพบุรุษ หลังจากที่มีความเห็นจาก Ian Flemming เจ้าของนิยาย 007 ว่า ลุง Sean ในตอนนั้น ‘ไม่เป็นสุภาพบุรุษพอ’ ก่อนที่โลกจะได้เห็นว่า Terence Young สามารถทำให้ Sean Connery เป็นภาพแทนตัวของ James Bond ในหนังถึง 7 ภาคทีเดียว
3. ย้อนกลับที่ Matthew Vaughn หลังจากที่เขาไปผับและจุดประกายให้ Mark Millar แล้ว เขาก็ไปกำกับหนัง X-Men : First Class จนเสร็จ (รวมถึงเขียนทรีทเมนท์ของ Day Of Future Past ด้วย) เขาก็เสนอกับค่ายหนังว่าเขาจะทำการ์ตูน Kingsman เป็นหนังคนแสดง
ซึ่ง Vaughn ก็หยิบเอาโครงเรื่องบางๆ ของการ์ตูน กับตัวละคร Gazelle (แต่นำมาสลับเพศ), James Arnold (ตัวร้ายในการ์ตูนแต่กลายเป็นตัวละครสมทบในหนัง) และตัวเอก Eggsy – Gary Unwin (เปลี่ยนนามสกุลจากในการ์ตูนที่เป็น Gary London) ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นถูกโละทิ้งใหม่หมด เพื่อให้เหมาะสมกับการสร้างหนังมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้หลังจากหนังคนแสดงเป็นรูปเป็นร่างแล้ว หนังสือการ์ตูนจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Kingsman: The Secret Service และมีการปรับแก้รายละเอียดเล็กน้อยให้เข้ากับหนัง อย่างเรื่องที่หน่วยงานลับในการ์ตูนเดิมทีเป็น MI6 หรือหน่วยงานเดียวกับ ยอดสายลับ 007 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น Kingsman
4. ทั้งนี้ Matthew Vaughn เคยดัดแปลงการ์ตูน Kick-Ass ของ Mark Millar มาเป็นหนังคนแสดงมาก่อนแล้ว และ Millar ยังทำหน้าที่เป็น Executive Producer ของ Kick-Ass และ Kingsman ด้วย และ Kingsman ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ของ Matthew Vaughn ที่กำกับหนังคนแสดงซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน (ก่อนหน้าคือ Kick-Ass และ X-Men : First Class)
5. นอกจากที่ Kingsman จะอ้างอิงถึงหนังยอดสายลับ 007 แล้ว Matthew Vaughn ยังทำหนังให้เป็นทีระลึกถึง หนัง/ซีรี่ส์สายลับยุคเก่าเรื่องๆ อื่นๆ อย่าง The Ipcress File, The Avengers หรือ The Man From U.N.C.L.E
6. ถึงจะดูแปลกตา ที่มีการใช้ร้านสูทเป็นฐานลับขององค์กรสายลับ แต่ในความเป็นจริงหน่วยข่าวกรองของอังกฤษก็มักจะใช้ร้านสูทเป็นฉากหน้าของฐานที่มั่นของพวกเขาในช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง
7. ข้ามมาพูดถึงตัวละคร James Arnold ในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้นเป็นตัวร้าย แต่ในหนังปรับให้เป็นตัวละครที่ถูกตัวร้ายลักพาตัวไปก่อนที่สายลับ Kingsman จะบุกเข้าไปช่วยในตอนต้นเรื่อง บทดังกล่าวนี้ในหนังแสดงโดย Mark Hamill
ในฉบับการ์ตูน Mark Hamill ถูกอ้างชื่อถึงว่าเป็นดาราดังที่ตัวร้ายในเรื่องพยายามลักพาตัว ก่อนที่สายลับ Kingsman จะบุกเข้าไปช่วยในต้นเรื่อง…ว่าง่ายๆ ก็เป็นมุกภายในนั่นแหละ ส่วนตัวร้ายในหนัง Richmond Valentine รับบทโดย Samuel L. Jackson นั่นหมายความว่า เรามีนักแสดงที่เคยรับบทเป็น เจได ใน Star Wars ถึงสองคนในหนังเรื่องนี้
8. ตัวละครอีกตัวที่มาจากการ์ตูนก็คือ Gazelle สาวนักฆ่าที่ใช้ขาเทียมที่มีใบมีดคมกริบเป็นอาวุธ ซึ่งในหนังสลับเพศเป็นผู้หญิง แรงบันดาลใจของตัวละคร Gazelle มาจากตัวร้ายในหนังเจมส์ บอนด์ ภาคเก่าๆ ที่มักจะมีอาวุธโลหะติดตัวเสมอ
ในตอนแรกสุดหนังได้ Amy Purdy นักกีฬาผู้พิการทางขาและใช้ขาเทียมในชีวิตจริงมารับบทนี้ แต่เธอต้องถอนตัวออกไปเพราะคิวถ่ายหนังชนคิวซ้อมและแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก ด้วยเหตุนี้เราจึงได้นักแสดงสาว Sofia Boutella มารับบทแทน และขาเทียมของเธอก็ใช้ CG ในการสร้างไม่ได้มีการตัดขาเธอเพื่อใส่ขาเทียมในการแสดงหรอกนะ แต่ส่วนที่ไม่ได้ใช้ CG ก็คือการวาดลวดลายเพลงเตะในหนังที่ Sofia ต้องฝึกวิชาหลากสไตล์เพื่อให้เตะได้หลากหลาย (ร่วมการใช้สลิงด้วย)
9. ตัวละครเอกที่ถูกปรับบทยกใหญ่ก็คือ Harry Hart หรือ Galahad สายลับชั้นอ๋องของหน่วย Kingsman ที่ถือว่าเป็นอาจารย์ของพระเอกในเรื่อง บทนี้ได้ Colin Firth มาเล่น ซึ่งตอนที่ Firth ไดัรับเลือกให้เล่นเป็นสายลับขาบู๊นี้ก็อายุอานาม 53 ขวบไปแล้ว ถือว่าเป็นบทที่แปลกไปสำหรับนักแสดงผู้ที่โด่งดังจากบทบาทหนุ่มโรแมนติคไม่ก็บทดราม่าหนักชีวิต กระนั้นลุง Firth ก็จริงจังกับบทนี้ ทั้งการเทรนร่างกายกว่าหกเดือนให้ ฟิต และ เฟิร์ม แถมยังเล่นฉากแอคชั่นในหนังเองเป็นส่วนใหญ่ด้วย
10. ฉากบู๊ในโบสถ์ที่ถือว่าเป็นฉากที่เร้าใจสุดๆ ของเรื่อง ตัวละคร Galahad เชือดคนไป 58 คนในฉากนั้น (กึ๋ย!) ถึงจะเป็นฉากแอคชั่นที่โหดแถมยังเชือดคนไปจำนวนมาก และมีความยาวราว 3 นาทีครึ่ง แต่ความตั้งใจเดิมของ Mark Millar อยากให้ฉากนี้่ยาวถึง 7 นาที
11. ทั้งนี้ตัวละครเด่นๆ ในกลุ่มสายลับ Kingsman จะใชชื่อรหัส Arthur, Lancelot, Galahad, Percival หรือแม้แต่คนผลิตอุปกรณ์ให้กลุ่มสายลับก็ใช้ชื่อ Merlin เป็นชื่อตัวละครในกลุ่มอัศวินโต๊ะกลมตามตำนานอาธูเรี่ยน (Athurian Legend)
ส่วนพระเอกของเราอย่าง Eggsy ไม่ได้ใช้ชื่อจากตำนานดังกล่าวในเนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังภาคแรกเพราะเขายังไม่ได้รับตำแหน่งเป็นสายลับ Kingsman และไม่ใช่ว่า Taron Eagorton ที่รับบทดังกล่าวจะใช้ชีวิตชิลๆ ในฐานะพระเอก เพราะเขาเองก็เล่นบทบู๊ในเรื่องอยู่ไม่น้อยทีเดียว ในการฝึกเป็น Kingsman ตัวละคร Eggsy จะต้องนำหมาไปร่วมฝึกด้วย แต่ในชีวิตจริง Taron Egerton เป็นคนที่กลัวมาแถมยังเป็นทาสแมวอีกต่างหาก
12. ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังแซว 007 ฉากหนึ่งที่ตัวละครของ Eggsy สั่งค็อกเทล เลยสั่งมาร์ตินีที่คนแต่ไม่เขย่า ตรงกันข้ามกับ เจมส์ บอนด์ ที่เน้นให้เขย่าแต่อย่าคน พูดถึงเรื่องเหล้าแล้ว สายลับของหน่วยงาน Statesman ที่จะปรากฎตัวในหนังภาคต่อ Kingsman : The Golden Circle เลือกใช้ชื่อรหัสเป็นชื่อเหล้าประเภทต่างๆ เนื่องจากพวกเขาใช้โรงกลั่นเหล้าและบริษัทเหล้าเป็นฉากหน้าของหน่วยงานนั่นเอง
13. ผลพวงความดังของภาคแรก (กับหนังเรื่องก่อนๆ ของ Matthew Vaughn) ทำให้หนังภาคต่อมีดาราชื่อดังมาสมทบกันอีกเพียบ หรือถ้านับกันสนุกๆ ในหนังก็มีดาราที่ได้รับรางวัลออสการ์มารวมตัวกันถึง 5 คน ประกอบด้วย Julianne Moore, Halle Berry, Jeff Bridges, Colin Firth และ Elton John ซึ่งเดิมทีภาคแรกก็มีข่าวลือว่า Elton John จะมาเล่นด้วยนะ แต่เพิ่งมาเป็นจริงในภาคสอง และเจ้าตัวก็ยังไม่เผยว่าจะมารับบทอะไรด้วย
14. ด้วยหนังภาคสองก็ยังเป็นหนังที่แซวหนังสายลับเรื่องอื่นๆ อยู่ ในภาคสอง Eggsy เลยได้มีโอกาสไปปรากฎตัวในการ์ตูนตอนพิเศษร่วมกับ Archer การ์ตูนแนวแดกดันหนังสายลับเรื่องอื่นๆ อีกทีหนึ่ง
15. ถึงหนังจะยังไม่ได้ฉายแต่ตัว Matthe Vaughn ก็เกริ่นๆ ไว้แล้วว่าจะมีภาคต่อ แต่ก็แทงกั๊กด้วยการบอกว่า ขึ้นอยู่กับรายได้ของหนังนะ
หนังจริงๆ จะเข้าฉายวันที่ 21 กันยายนนี้ เชื่อว่าหนังจะยังแซ่บเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความอลังการ และหวังว่าจะไม่มีใครมาสปอยล์พล็อตให้เราฟังกันก่อนที่หนังจะฉายจริงกันด้วยล่ะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
Youtube Channel : ScreenJunkies News