มีมุกตลกที่พูดกันในหมู่แฟน Game of Thrones ว่า ถ้าเลดี้ ลีอานนา แห่งตระกูลมอร์มอนต์มีมังกร 3 ตัว ซีรีส์เรื่องนี้จะจบลงตั้งแต่สองซีซั่นที่แล้ว
ชื่อของ ลีอานนา มอร์มอนต์ ถูกพูดถึงมาตลอดสองสามปีมานี้ โดยเฉพาะความจริงจัง ขึงขัง และเด็ดขาด ที่ทำให้เธอได้รับความสนใจมากๆ และถึงแม้ว่า ลีอานนา มอร์มอนต์ จะเป็นผู้นำที่แม้อายุจะน้อย (มาก) เมื่อเทียบกับตระกูลอื่นๆ แต่เธอก็ทำให้ทุกคนต้องหวาดเกรงได้ไม่น้อย
ที่ผ่านมา ลีอานนา มอร์มอนต์ มีส่วนสำคัญอย่างไรต่อเนื้อเรื่องใน Game of Thrones บ้างนะ? และเราเห็นภาวะผู้นำแบบไหนจากเลดี้ผู้นี้ได้บ้าง?
(มีสปอยล์นะ)
ลีอานนา คือลูกสาวของ เมจ มอร์มอนต์ อดีตผู้นำแห่งเกาะหมี เมจตั้งชื่อนี้ให้กับเธอ ตามชื่อของ ‘ลีอานนา แห่งตระกูลสตาร์ค’ โดยก่อนหน้านี้เมจได้ไปออกรบร่วมกับกองทัพของร็อบบ์ สตาร์ค เพื่อสู้กับตระกูลแลนนิสเตอร์ แต่ว่าเมจไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้
ลีอานนา มอร์มอนต์ เริ่มมีบทบาทอย่างชัดเจนใน Game of Thrones ซีซั่นที่ 5 ในช่วงเวลาที่ สแตนนิส บาราเธียน กำลังรวบรวมกำลังพลและพันธมิตร เพื่อต่อสู้กับตระกูลแลนนิสเตอร์ เพื่อแย่งชิงบัลลังก์เหล็ก ซึ่งตระกูลมอร์มอนต์ก็เป็นตระกูลหนึ่งที่สแตนนิสอยากขอให้มาช่วยรบด้วยกัน
แต่ถึงอย่างนั้น เลดี้ ลีอานนา ก็ปฏิเสธแบบไม่มีความใยดี พร้อมกับยืนยันในคำสัญญาที่ตระกูลนี้มีให้กับตระกูลสตาร์ค
“เกาะหมีไม่รู้จักกษัตริย์องค์ไหน นอกจากกษัตริย์แห่งแดนเหนือที่มีชื่อว่าสตาร์ค” คือข้อความในจดหมายที่ลีอานนาส่งกลับไปหาสแตนนิส แม้ไม่ได้ปรากฎตัวออกมา หากแต่มาเพียงแค่ข้อความก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ รู้สึกได้ถึงความเข้มแข็งที่ส่งเสียงผ่านน้ำหมึก
และแม้ว่าจะมีคนสายเลือดในตระกูลสตาร์คมาปรากฏตัวต่อหน้า เพื่อขอกำลังไปช่วยเหลือในศึกที่ จอน สโนว์ และ ซานซ่า สตาร์ค ต้องการให้เธอช่วยส่งคนไปยึดวินเทอร์เฟลคืนจากตระกูลโบลตัน แต่ ลีอานนา ก็ไม่ใช่คนที่อ่อนตามคำขอได้ง่ายๆ
“ตอนนี้เลดี้ซานซ่าเป็นตระกูลโบลตัน หรือเป็นแลนนิสเตอร์?” ประโยคนี้ที่ ลิอานน่า ถามซานซ่าสะท้อนให้เราเห็นชัดเจนว่า จุดยืนที่เธอยึดมั่นคือการรักษาสัญญาที่ครอบครัวจะภักดีต่อ ‘ตระกูล’ สตาร์ค มากกว่าตัวบุคคล
จุดยืนที่มั่นคงและการรักษาสัญญา แม้ดูเหมือนจะเป็นภาระที่ผูกพันกับลีอานน่าในฐานะตัวบุคคล แต่เธอก็มองผลประโยชน์ของการสู้รบในภาพรวมด้วยเช่นกัน ประเด็นนี้เรายังเห็นได้จากการที่เธอขอเหตุผลของการส่งกองกำลังไปช่วย จอน สโนว์ กอบกู้วินเทอร์เฟล ว่ามันสำคัญแค่ไหนที่นักรบจากเกาะหมี (จำนวนทั้งสิ้น 62 คน) ต้องไปออกรบในศึกสงครามที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้เมื่อรู้ถึง ‘โจทย์ที่แท้จริง’ ของการยึดวินเทอร์เฟลกลับมาได้แล้ว เธอก็ไม่ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ
เบลลา แรมซี นักแสดงที่เล่นเป็น ลีอานนา มอร์มอนต์ เคยอธิบายความรู้สึกของตัวเองต่อตัวละครนี้เอาไว้ว่า “ลีอานนา เข้มแข้งในสิ่งที่เธอเชื่อมั่น เธอต้องการปกป้องครอบครัวและเกาะให้ปลอดภัย เธอต้องการที่จะถูกปฏิบัติในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง”
หนึ่งในฉากสำคัญที่แรมซีชอบ คือการเป็นผู้นำในการคัดเลือก King of the north คนใหม่หลังศึกยึดคืนวินเทอร์เฟล
“ลีอานนาไม่สนใจว่าเธอเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในห้อง ที่จะลุกขึ้นมาและสร้างความอับอายให้กับผู้นำอีกสามคน” แรมซีอธิบายถึงฉากที่ลิอานนา ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำในสามตระกูล ทำตามจุดยืนที่เคยให้ไว้กับตระกูลสตาร์ค
นี่จึงเป็นภาพสะท้อนที่ค่อนข้างชัดเจน ว่าแม้จะมีอายุที่น้อยกว่าบรรดาผู้นำคนอื่นๆ ในเรื่อง รวมถึงการมีกองทัพที่อาจสู้จำนวนตระกูลอื่นไม่ได้มากนัก หากแต่การมี ‘จุดยืน’ ที่ชัดเจน และจริงจังกับมันมากพอ ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ดีถึงภาวะการเป็นผู้นำของเลดี้แห่งเกาะหมีคนนี้ได้มากเลยทีเดียว
ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้ใหญ่หลายคน ลีอานนา มอร์มอนต์ ได้หยิบดาบลุกขึ้นสู้ในศึกสงคราม พร้อมกับทำให้เราเห็นว่า ความเป็นผู้ใหญ่นั้นอาจไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขอายุเพียงอย่างเดียว
อ้างอิงจาก
https://www.telegraph.co.uk/tv/0/lyanna-mormont-game-of-thrones-hero/
https://www.thecut.com/2019/04/lyanna-mormont-game-of-thrones-interview-bella-ramsey.html