“เรื่องเล่าคือประดิษฐกรรมที่ทำให้มนุษย์สร้างอารยธรรมได้” – คำของ ยูวาล โนอาห์ ฮาราริ ผู้เขียนหนังสือชื่อดังอย่าง Sapiens ดังก้องตลอดเวลาที่เราพักในโรงแรม JW Marriott Phu Quoc ที่เกาะฟูโกว๊ก เวียดนาม
The MATTER ได้รับเชิญจากโรงแรมแห่งนี้เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดห้องอาหารแห่งใหม่ของโรงแรมอย่าง The Pink Pearl ที่จัดขึ้นในธีม 1920s
โรงแรมขนาดพื้นที่ 50 กว่าไร่แห่งนี้เป็นโรงแรมที่เริ่มต้นขึ้นมาด้วยแนวคิดไม่ธรรมดา สถาปนิก Bill Bensley ผู้ผ่านการออกแบบโรงแรมชื่อดังมาแล้วทั่วโลกได้รับโจทย์ว่า “ให้ออกแบบอย่างไรก็ได้ โดยไม่จำกัดงบประมาณ” เจ้าของเซ็นเช็คเปล่าให้เบนส์ลีย์เนรมิตอะไรก็ได้ตามชอบใจ โรงแรมแห่งนี้จึงมีลักษณะคล้ายกับสวนสนุกในใจของเบนส์ลีย์ เหมือนการตอบสนองความปรารถนาลึกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยอิสระ
เบนส์ลีย์เลือกสร้างเรื่องราวสมมติว่าโรงแรมนี้เป็นมหาวิทยาลัยเก่าชื่อ Lamarck University ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1880 ก่อนจะปิดตัวลงในปี 1940 เมื่อธีมเริ่มต้นมาแบบนี้ ตัวอาคารในโรงแรมจึงได้รับการเนรมิตเป็นตึกของภาควิชาต่างๆ ตั้งแต่ภาควิชาเกษตรกรรม การประมง สัตววิทยา เคมี ดาราศาสตร์ ไปจนถึงสถาปัตยกรรม โดยเราในฐานะแขกของโรงแรมก็ต้องสวมบทเป็น ‘นักเรียน’ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย
ชื่อ Lamarck University นั้นมาจากชื่อของฌอง แบพติสต์ เดอ ลามาร์ก (1744-1829) ผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ลามาร์กใช้เวลาบั้นปลายของชีวิตศึกษาด้านชีววิทยาและวางรากฐานของทฤษฎีวิวัฒนาการไว้สองข้อ คือกฎของการใช้และไม่ใช้ (อวัยวะหรือลักษณะใดที่ใช้บ่อยจะได้รับการพัฒนา อะไรที่ไม่ได้ใช้จะค่อยๆ หายไป) และกฎของการสืบทอดความสามารถที่ฝึกฝน (หากพ่อแม่ฝึกฝนความสามารถอะไรมา ลูกก็จะได้ความสามารถนั้นสืบทอดมาด้วย) ทฤษฎีของลามาร์กเป็นที่ยอมรับในหมู่นักประวัติศาสตร์ธรรมชาติก่อนที่จะถูกชาลส์ ดาร์วินแย้งในเวลาต่อมา
ของประดับทั้งหลายในโรงแรมตอบรับกับเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน มุมหนึ่งจัดแสดงยูนิฟอร์มของมหาวิทยาลัยสมมติในยุคนั้น โดยมีเรื่องราวรองรับว่านี่คือยูนิฟอร์มนักกีฬาของมหาวิทยาลัยที่แข่งกีฬาแพ้มหาวิทยาลัยลามาร์กจนต้องมอบเครื่องแบบไว้ให้เป็นที่ระลึก หรือบริเวณสปาของโรงแรมก็ถูกตกแต่งเป็นภาควิชา Mycology (เห็ดวิทยา) เพราะเชื่อกันว่าเห็ดมีคุณสมบัติในการรักษาโรค
สำหรับส่วนห้องอาหารของ Lamarck University ก็มีเรื่องราวไม่แพ้กัน ส่วนที่ The MATTER ได้รับเชิญไปงานเปิดตัวครั้งนี้มีชื่อว่าห้องอาหาร Pink Pearl ซึ่งก็ได้รับการตกแต่งเป็นสีชมพูตามชื่อ ห้องอาหารแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนาน (สมมติ) ของมาดาม เพิร์ล คอลลินส์ ผู้เคยอาศัยในสถาบันแห่งนี้ในยุค 1920 ในช่วงที่เธออาศัยอยู่ เธอมีไลฟ์สไตล์เป็นสาวสังคม จัดงานปาร์ตี้ไม่เว้นแต่ละวัน Pink Pearl จึงขอสืบทอดจิตวิญญาณแห่งการปาร์ตี้ในยุคนั้นมาไว้ในปัจจุบันด้วย
แขกของ Lamarck University ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ตาม ‘ตารางสอน’ ที่มีการจัดไว้ เช่น อาจเลือกเข้าร่วมชั้นเรียนทำโคมลอย เพนต์เสื้อยืด โยคะในสระน้ำ เรียนผสมแอลกอฮอล์ ฯลฯ ตามความสนใจของตน
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของ Lamarck University พาชมโรงแรมและเล่าประวัติความเป็นมา หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาต้องแยกแยะให้เราทราบอยู่เสมอคือ นี่เป็นประวัติ ‘จริงๆ’ หรือเป็นประวัติ ‘ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เข้ากับธีม’ กันแน่ ในคราวแรกเราก็รู้สึกว่าการแยกแยะแบบนี้เป็นเรื่องจำเป็น—เราจำต้องรู้ว่าสิ่งใดคือประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเพื่อจะได้เข้าใจเรื่องราวได้ถูกต้อง—แต่เมื่ออยู่ภายในบริเวณโรงแรมหลายวันเข้า เราก็ได้เห็นกระบวนการที่ประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นสอดแทรกเข้ามาในเรื่องจริงได้อย่างแนบเนียน
จากเดิมที่เรามอบคำถามให้เจ้าหน้าที่อยู่เรื่อยๆ ว่า “อันนี้เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งนะครับ” มาถึงวันสุดท้าย คำถามเหล่านั้นก็ไม่มีให้ได้ยินอีกแล้ว
นี่อาจเป็นความพิเศษของโรงแรม JW Marriott Phu Quoc หรือ Lamarck University แห่งนี้—เป็นจินตนาการที่เปิดให้เราจมจ่อมลงไป ตัดขาดจากโลกจริงไปสักพัก—เป็นดังสวนสนุก เป็นแหล่งหลีกลี้สำหรับผู้ใหญ่และเด็กทุกวัย
เรื่องเล่าคือประดิษฐกรรมที่ทำให้มนุษย์สร้างอารยธรรม
และเรื่องเล่าก็กำลังเพิ่มความพิเศษลงในโรงแรมแห่งนี้เช่นกัน