ดนตรีเปิดมาด้วยความครึกครื้น เสียงกีตาร์ไฟฟ้า แซกโซโฟน คีย์บอร์ด เบส กลอง ทรัมเป็ต และเครื่องดนตรีอีกมากชิ้นที่ส่งทำนองสอดประสานแสนติดหู นี่คือเพลงที่อยากให้คนฟังสนุกสนานและเต้นตามตั้งแต่เริ่มต้น
วงดนตรี Earth, Wind & Fire ให้ชื่อกับเพลงนี้ว่า ‘September’
หลังดนตรีเล่นเปิดไม่นาน ก็ตามมาด้วยเสียงร้องของ มอริส ไวต์
คุณจำได้หรือเปล่า
ในคืนวันที่ 21 กันยายน?
ความรักได้เปลี่ยนความคิดของคนเสแสร้ง
พร้อมกับไล่เมฆหมอกให้คล้อยผ่านไป
เนื้อหาของเพลงชวนให้นึกถึงอดีต เรื่องค่ำคืนของวันที่ 21 กันยายน ที่ฟังแล้วก็ยังสับสนว่ากำลังหมายถึงกันยายนในปีไหน แต่มันจะต้องเป็นเดือนกันยายนที่สดใสมากแน่ๆ เพราะดนตรีช่างครื้นเครงปนไปด้วยความรู้สึกเฉลิมฉลอง
แน่นอนว่านั่นเป็นค่ำคืนแห่งความรัก ค่ำคืนที่ความหม่นหมองถูกพัดพาออกไป
เป็นเรื่องยากมากที่เราจะนิยามแนวดนตรีของ Earth, Wind & Fire เพราะทั้งวงเอาความแจ๊ส โซล อาร์แอนด์บี ฟังก์ และป๊อปมาผสมผสานเป็นดนตรีในรูปแบบของพวกเขาเอง และนั่นก็ตรงกับความตั้งใจของ มอริส ไวต์ ในฐานะผู้ก่อตั้ง หัวหน้า และหนึ่งในนักร้องนำประจำวง
มอริสเป็นคนราศีธนู เขาสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับตัวตนและจิตวิญญาณ ครั้งหนึ่งก่อนจะมาตั้งวงดนตรีที่วาดฝันไว้ มอริสกำลังสนใจกับแผนภูมิโหราศาสตร์ที่บอกถึงธาตุประจำตัว เมื่อดูตามราศีแล้วธาตุที่บ่งบอกตัวตนของมอริส คือ ไฟ (fire) ดิน (earth) และอากาศ (air)
เพียงเปลี่ยนคำจาก อากาศ (air) มาเป็น ลม (wind) ในที่สุด ธาตุประจำตัวมอริสก็กลายมาเป็นชื่อวง Earth, Wind & Fire
นับแต่นั้น มอริสก็ได้คอนเซปต์สำหรับวงดนตรีของเขา Earth, Wind & Fire มีคุณสมบัติตามชื่อวง ทั้งวงต้องประกอบไปด้วยเสียงที่หลากหลาย หากมองไปบทเวทีจะเห็นเครื่องดนตรีตั้งแต่กีตาร์ไฟฟ้า เบส คีย์บอร์ด แซกโซโฟน ทรอมโบน ทรัมเป็ต กลอง คองกา คาลิมบา ความละลานจนเกือบจะเรียกได้ว่าวุ่นวายนี้ ก็ชวนสงสัยว่าเพลงที่ออกมาจะหน้าตาเป็นอย่างไร
แต่ด้วยความที่มอริสให้ความสำคัญกับเครื่องดนตรีทุกชิ้น ประกอบกับความสามารถของสมาชิกในวง เสียงจากเครื่องดนตรีหลายชิ้นที่ประสานกันออกมากลับน่าทึ่ง และนับว่าเลียนแบบได้ยาก แม้แต่ในเรื่องเสียงร้อง มอริสและ ฟิลิป เบลีย์ จะพยายามปรับโทนเสียงให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะเสมอ ถ้าส่วนไหนฟิลิปร้องเสียงสูง มอริสจะปรับเสียงในช่วงกลาง-ต่ำให้เสียงนั้นเข้ากัน
มอริสวางคอนเซปต์ของวงให้มีทั้งความสนุกสนาน หลากหลาย สดใหม่ และมันต้องไม่ใช่แค่การฟังเพลง แต่คือการเดินทางทางจิตวิญญาณที่ครบรส เพลงของ Earth, Wind & Fire สำหรับมอริสแล้ว การฟังเพลงคือประสบการณ์ที่เปิดรับประสาททั้งหมด ดนตรีที่ได้ยินผ่านหู จังหวะเพลินๆ ให้ร่างกายเต้นตาม ในขณะที่ดวงตาก็เห็นแสงสีจากเวทีที่พวกเขาขึ้นโชว์
เพลง September มีองค์ประกอบครบอย่างที่มอริสคาดหวังให้ Earth, Wind & Fire เป็น
หัวใจเรากำลังร่ำร้อง
ในท่วงทำนองเดียวกับจิตวิญญานที่กำลังขับขาน
เราเต้นด้วยกันยามค่ำคืน
จำได้ไหม ทั้งคืนนั้นดวงดาวยึดครองท้องฟ้าไว้อย่างไร
“ได้โปรดพระเจ้า ขอให้นี่เป็นเพลงที่พวกเขาจะเขียนร่วมกับฉันเถอะ เพราะมันต้องดังระเบิดแน่ๆ”
อัลลี วิลลิส (Allee Willis) คิดกับตัวเองหลังจากได้ยินเพียงท่อนเปิดกีตาร์สั้นๆ ของเพลง September ระหว่างเปิดประตูเข้าห้องอัดเพื่อทำความรู้จักกับสมาชิกวง Earth, Wind & Fire ในฐานะคนเขียนเพลงที่เพิ่งเข้ามาใหม่
September คือเพลงแรกที่เธอจะได้เขียนร่วมกับ มอริส ไวต์ หัวหน้าวงและหนึ่งในนักร้องนำประจำวง
มอริสให้โจทย์สำหรับเพลงนี้ว่า ต้องเป็นเพลงที่ทำให้คนฟังมีความสุขเมื่อได้ยิน เพลงจะต้องสนุกสนาน เหมือนกับที่ตลอดมามอริสตั้งใจวางให้ Earth, Wind & Fire เป็นวงที่มีดนตรีครึกครื้นและเข้าถึงคนหนุ่มสาว
เพลงนี้มอบความเบิกบานใจไม่ใช่แค่ในแง่ดนตรี แต่ความรู้สึกยินดียังเฉิดฉายแม้กระทั่งในเนื้อเพลง เพราะเกือบครึ่งหนึ่งของเนื้อร้องจะมีท่อนที่ร้องว่า “Ba-da-Ya” หรือ “Ba-dee-ya” ท่อนที่วิลลิสเห็นครั้งแรกแล้วถึงกับหัวเสีย พร้อมกับคำถามว่า “Ba-dee-ya มันคือคำบ้าอะไรเนี่ย?” ก่อนต่อรองกับมอริสเพื่อเปลี่ยนเป็นเนื้อร้องที่มีความหมาย
คำตอบที่มอริสมอบให้คนเขียนเพลงของเขาคือ “แล้วใครมันจะไปสนกันล่ะ?” และตามมาด้วยคำปฏิเสธ “ไม่ นั่นให้ความรู้สึกที่ดีแล้ว และนั่นคือสิ่งที่คนฟังจะจดจำ”
ในการถกเถียงครั้งนั้นมอริสได้มอบบทเรียนสำคัญให้นักแต่งเพลงประจำวง วิลลิสได้เรียนรู้กฎหนึ่งของการเขียนเพลงว่า อย่าปล่อยให้เนื้อเพลงขวางทางความกรูฟ (groove) หรือความเพลิดเพลินในดนตรี
Ba-dee-ya, บอกมาสิว่าคุณจำได้?
Ba-dee-ya, เต้นรำในเดือนกันยายน
Ba-dee-ya, วันฟ้าครึ้มหลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว
เนื้อเพลงที่พูดถึง “คืนวันที่ 21 กันยายน” คือท่อนหนึ่งที่คนฟังต่างสงสัยถึงที่มาที่ไปตั้งแต่ปล่อยตัวเพลงออกมา คำตอบจากสมาชิกในวงและคนแต่งเพลงอย่างวิลลิสมักจะไปในทำนองเดียวกัน คือ วันที่นี้เดือนนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก แค่คล้องจองกับเนื้อเพลงท่อนอื่นเท่านั้นเอง
นี่คือคำตอบแรกที่มักจะได้ยิน ทว่า ในภายหลัง “คืนวันที่ 21 กันยายน” กลับมีความหมายมากกว่านั้น
ในปี ค.ศ.2018 สองปีหลังการจากไปของ มอริส ไวต์ ภรรยาของเขา มาริลีน ไวต์ ได้นั่งทานมื้อเที่ยงกับวิลลิส และบอกกับเธอว่า จริงๆ แล้ววันที่ 21 กันยายน คือวันครบกำหนดคลอดของ คาห์บราน ไวต์ ลูกชายของมอริส วันที่นั้นคือข้อความลับที่มอริสตั้งใจใส่เข้าไปในเนื้อเพลง แต่มาริลีนคลอดคาห์บรานก่อนกำหนดในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งถ้าเอาไปใส่ในเนื้อเพลงแล้วจะไม่คล้องจอง
น่าแปลกใจที่เพลงที่เป็นที่นิยมที่สุดของ Earth, Wind & Fire อย่าง September ไม่ใช่เพลงที่อยู่ในอัลบั้มหลักไหนเลยของวง แต่เป็นซิงเกิลที่ปล่อยออกมาเดี่ยวๆ ก่อนจะนำไปใส่ในอัลบั้มรวมเพลง ‘The Best of Earth, Wind & Fire, Vol. 1’—อัลบั้มระดับตำนาน
มอริส ไวต์ วัย 74 ปี จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยโรคพาร์กินสันในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2016 ตำนานความกรูฟของเขายังคงอยู่และส่งต่อมาถึงวง Earth, Wind & Fire ที่ยังไม่หยุดที่จะทำการแสดงมาจนถึงทุกวันนี้
สุดท้าย September ยังเป็นเพลงอมตะฟังสนุก และพร้อมจะโยกตามได้เสมอ … เดือนกันยายนที่แสนสุขนั้นเป็นยังไงกันนะ ไหนลองฟังอีกที
Ba-dee-ya, dee-ya, dee-ya
Ba-dee-ya, dee-ya, dee-ya
Ba-dee-ya, dee-ya, dee-ya, dee-ya!
อ้างอิงข้อมูลจาก
Illustration by Krittaporn Tochan