**บทความนี้มีการสปอยล์การ์ตูนเล็กน้อย โปรดหลีกเลี่ยงหากกลัวเสียอรรถรส**
ณ วันที่เขียนบทความนี้ การ์ตูนสุดฮิตจากอเมริกาอย่างกัปตันอเมริกาได้เปิดเผยความลับครั้งใหญ่
ด้วยการทิ้งท้ายไว้ว่าจริงๆ แล้วกัปตันอเมริกานั้นเป็นสายลับอันเป็นผลพวงจากการที่ Marvel เดินหน้าเข้าสู่ All-New, All-Different Marvel ที่เกิดจากการนำเอา พหุภพ/พหุจักรวาล (Multiverse) หรือ
เนื้อเรื่องคู่ขนานแยกย่อยหลายๆ เรื่องมารวมกันเป็นเรื่องเดียว
ขณะเดียวกันทางด้าน DC ก็เดินเรื่องเข้าสู่เรื่องราวใหม่เช่นกัน โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ใช้ชื่อว่า DC Universe Rebirth จุดที่เปลี่ยนแปลงแล้วเห็นชัดแจ้งก็มีการดึงเอา Watchmen ให้มาอยู่ในจักรวาลหลักแล้ว กับโจ๊กเกอร์ตัวร้ายคลาสสิคของแบทแมนก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้มาเยอะถึง 3 คน (หรือนี่จะตั้งแก๊งสามช่า?)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านบนนั้นคือสิ่งที่เรียกกันสั้นๆ ว่า รีบูท (Reboot) นั่นเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในฝั่งการ์ตูนอเมริกัน และคนไทยหลายท่านที่คุ้นเคยกับการ์ตูนญี่ปุ่นอาจจะไม่คุ้นกันมากนัก ทำไมถึงต้องมีการรีบูท? วันนี้เราจะลองขยายความกันถึงความสำคัญของการกระทำนี้
*พหุภพ/พหุจักรวาล (Multiverse) ในทางกลศาสตร์ควอนตัมจะหมายถึงแนวคิดที่ว่าจักรวาลมีจำนวนอยู่นับไม่ถ้วน สามารถเกิดขึ้นและหายไปได้ตลอดเวลา ในเชิงวรรณกรรมต่างๆ มักจะใช้สิ่งนี้ในการสร้าง
เนื้อเรื่องใกล้เคียงกับพลอตตั้งต้น ตัวอย่างเช่น ในจักรวลการ์ตูนของ Marvel และ DC ถือเป็นจักรวาลหลัก ส่วนตัวเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้นเป็นตัวพหุภพที่แยกย่อยออกมา
เหตุเกิดจากการเขียนหลายมือหลายคน
สิ่งหนึ่งที่การ์ตูนของ Marvel / DC ต่างกับการ์ตูนฝั่งญี่ปุ่นที่หลายคนคุ้นเคย ก็คงจะเป็นการที่มีบุคลากรหลายกลุ่มมาช่วยกันสานต่อเรื่องราวของตัวละครเดียวกัน มีการสลับตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้วาด ผู้ลงสี
ผู้แต่งเรื่อง ให้เหมาะสมกับช่วงเวลา ต่างกับฝั่งญี่ปุ่นที่ต่อให้ทำงานเป็นทีมก็จะเขียนผลงานแต่ละเรื่องให้จบเป็นชิ้นๆ ไปเสียมากกว่า
ถึงการทำงานหลายคนสลับกันจะมีผลดีอยู่มาก แต่คำว่า ‘มากคนย่อมมากความ’ ยังศักดิ์สิทธิ์เสมอ เพราะหลายครั้งที่ทีมงานในช่วงหนึ่งอาจจะแต่งตามใจตัวเอง พอทีมหลังๆ ที่มารับช่วงต่ออาจจะเกิดการเก็บเนื้อเรื่องไม่ครบจนตกหล่นไปเกิดความไม่สมเหตุสมผลขึ้น … เทียบโดยง่ายก็เหมือนกับเปิดคอมแล้วเริ่มมีอาการแฮงก์ๆ การกดปุ่มรีบูทนี้ก็จำเป็นต้องบังเกิดขึ้น (โอ้… ยังไม่ได้เซฟงานเลย!)
เหตุเกิดเพราะอยากเปลี่ยนแนวเรื่อง
ถ้าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น พอเรื่องดำเนินถึงจุดสงบแล้วช่วงนั้นก็อาจจะไม่มีอะไรหวือหวามากมายนัก คงเป็นเพียงการชงเรื่องให้เตรียมเข้าสู่บทต่อไป ไม่ก็การ์ตูนมีโทนเรื่องเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่สำหรับการ์ตูนฮีโร่แล้วการเดินเรื่องในแพทเทิร์นเดิมมากไปอาจจะทำให้เรตติ้งร่วงหล่นไปถึงตาตุ่มได้
เพราะอย่างนี้การ์ตูนฮีโร่ Marvel / DC ก็เลยมีการเพื่อปรับแนวเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น ฝั่ง DC เคยเปิดตัว Swamp Thing เป็นแนวกึ่งสยองขวัญ ที่เล่าเรื่องของ Alec Holland ถูกเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายต้นไม้ ก่อนจะถูกดัดแปลงกลับมาอีกครั้งเป็นแนวฮีโร่ผู้กปกป้องพลังธรรมชาติพร้อมกับอดีตใหม่ที่ ตัว Swamp Thing เป็นแค่ต้นไม้ที่มีความทรงจำของ Alec ก่อนจะมีการปรับเรื่องอีกครั้งให้เป็นแนว
แอคชั่นมากขึ้น เป็นศึกระหว่างธรรมชาติมากขึ้น และเผยว่า Alec Holland จริงๆ ยังไม่ตาย แต่เป็นผู้ที่ถูกเลือกด้วยพลังแห่งธรรมชาติให้เป็น Swamp Thing นักรบที่คอยปกป้องธรรมชาติ … อาจจะมึนๆ งงๆ แต่จริงๆ การเปลี่ยนแปลงส่วนนี้สนุกอยู่ไม่น้อยทีเดียว
ถ้าเอาเรื่องที่ดูแปลกกว่านั้นก็คงไม่พ้น The Thing จากทีม Fantastic 4 เคยถูกฆ่าตายไป ด้วยความที่เป็นคนสำคัญของทีม Reed Richard หัวหน้าทีมจึงพยายามหาทางช่วยชีวิตด้วยการเดินทางไปยังสวรรค์ด้วยอุปกรณ์ของ Doctor Doom แล้วได้พบกับ ‘พระเจ้า’ (ซึ่งถูกเขียนให้คล้ายกลับ Jack Kirby ผู้วาดที่เป็นผู้สร้างทีม Fantastic 4) ที่อนุญาตให้ส่งตัว The Thing กลับมาอีกครั้งละครนี้กลับไปอีกครั้งด้วยร่างกลายพันธุ์ด้วยเหตุผลว่า ‘ยังมีเรื่องให้เล่า’
ถึงจะไม่น่าแปลกใจกับการคืนชีพ เพราะการตายนั้นเป็นงานอดิเรกของเหล่าฮีโร่ในฝั่ง Marvel / DC
อยู่แล้ว แต่บางมุกที่เล่นเนี่ยมันเกินคาดจริงๆ นะคุณ
เหตุเกิดเพราะธุรกิจ
ถ้าจะว่ากันจริงๆ เหตุผลก่อนหน้าอาจจะเป็นเหตุผลในลักษณะโลกสวย แต่ถ้าเป็นการเอาความจริงมาฟาดหน้าก็คงไม่พ้นเหตุผลนี้เลย เพราะโลกนี้ยังหมุนอยู่ด้วยพลังของทุนนิยม การทำอะไรให้ถูกใจคนถือเงินย่อมมั่นคงกว่าแน่ ตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรมก็ดังเช่น ฝั่ง Marvel มีการเปลี่ยนตัวละครเดิมของตัวเองให้เป็นคนใหม่มารับช่วงต่อ อย่างเช่น Thor ที่ปัจจุบันคนถือค้อนกลายเป็นสาวสวยผมยาว Spider-Man คนใหม่ที่เป็นวัยรุ่นอเมริกัน-แอฟฟริกัน หรือในฝั่ง DC ก็มีการปรับให้ Blackcat เป็นสาวไบเซ็กช่วลแบบเปิดเผย เป็นอาทิ
ทั้งหมดนี้เพราะกระแสโลกได้เปลี่ยนไปแล้วนั่นเอง ผู้ชมการ์ตูนขยายตัวมากขึ้นจากสมัยก่อน (แต่คนซื้อเยอะขึ้นไหมนี่เราไม่กล้าคอนเฟิร์ม) หลายคนก็มีความชอบหลายอย่างกัน รวมถึงบางครั้งการสร้างเรื่องใหญ่ๆ ในการ์ตูนก็สามารถทำให้คนที่ไม่เคยอ่านมาสนใจได้มากขึ้น