Over the Garden Wall เป็นอีกหนึ่งอนิเมชั่นซีรีส์ระดับขึ้นหิ้งของ Cartoon Network กับการติดตามการผจญภัยของสองพี่น้อง ‘เวิร์ธ (Wirt)’ และ ‘เกร็ก (Greg)’ ในดินแดนอันแปลกประหลาดที่จะค่อยๆ พาเราท่องไปสำรวจความลึกลับต่างๆ ก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะได้รับการเฉลยในตอนท้าย ซึ่งเป็นตอนจบที่กรรมการอึ้ง คนดูอึ้ง เป็นการเฉลยที่เราแทบจะมองเห็นมิติอันลึกซึ้งต่างๆ ที่ถูกโปรยไว้โดยตลอดเรื่อง
จุดเด่นที่สุดของ Over the Garden Wall คือการเล่าถึงการเดินทางผจญภัยที่ดูมีความแฟนตาซีเหมือนกับนิทานปรัมปรา ที่เราในฐานะผู้ชมจะค่อนข้างรับรู้ได้ว่าสองพี่น้องกำลังหลุดเข้าไปสู่ดินแดนที่ไม่ใช่โลกของมนุษย์ แต่เป็นโลกแปลกประหลาดของผู้จากจร ป่าไร้นาม ปีศาจ และเหล่าผู้คนที่ใช้ชีวิตที่ทั้งเวิร์ธและเกร็กต้องพบเจอเรื่องราวการผจญภัยมีการให้ความหมายไว้สองชั้น คือการผจญภัยแบบแฟนตาซี และการอ้างอิงวรรณคดีสำคัญของคริสตศาสนาอย่าง ‘Divine Comedy’ ภาคนรกหรือ Inferno ของดันเต (Dante Alighieri) ด้วยการวางความหมายการเดินทางไว้สองชั้นนี้ทำให้การคลี่คลายของเรื่อง รวมถึงความหมายทั้งสองกำลังเรียนรู้ผ่านการเดินทางยิ่งทรงพลังยิ่งขึ้น
ก่อนจะเข้าเรื่องเกี่ยวกับนรกของดันเต ในเดือนพฤศจิกายนจะนับว่าอนิเมชั่นในตำนานเรื่องนี้มีอายุครบ 10 ปี เนื่องในโอกาสนี้เองวันที่ 3 พฤศจิกายนทางช่อง Cartoon Network’s social media จะฉายสต๊อบโมชั่นยาว 2 นาทีตอนใหม่ให้เราได้ย้อนกลับไปสู่การเดินทางของสองพี่น้องอีกครั้ง ซึ่งน่าสนใจว่าการเดินทางทั้งคู่นี้กลายเป็นสิ่งที่ผ้คนนิยมดูซ้ำในช่วงฮาโลวีน
กลับมาที่นรกของดันเต เพื่อรับการฉลองอายุ 10 ปีของการเยือนดินแดนไร้นามของสองพี่น้อง The MATTER จึงอยากชวนดูการอ้างอิงนรก (Inferno) ที่ปรากฏในเรื่อง ที่การเดินทางของสองพี่น้องเองนั้นล้อไปกับการเดินทางของดันเตและเวอร์จิล กวีผู้นำทาง รวมถึงการนกชื่อ ‘เบียร์ทริกซ์’ ชื่อเดียวกับคนรักของดันเตผู้ส่งเวอร์จิลมานำทางดันเตในท่องไปในดินแดนทั้งสาม นอกจากตัวละครแล้ว โครงสร้างทั้งสิบตอนของเรื่องยังล้อไปกับการเดินทางผ่านนรกทั้ง 9 ชั้นที่ไล่เลียงตั้งแต่ Limbo และนรกจากราคะ (Lust) ความตะกละ (Gluttony) ไปจนถึงการทรยศ (Treachery)
ถ้าพร้อมแล้ว เราเตรียมความสดใส เก็บลูกอมใส่กระเป๋า เอากาน้ำครอบหัว อุ้มกบซักตัว แล้วเราไปทัวร์นรกหรือดินแดนป่าไร้นามกัน
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วนของอนิเมชั่น Over the Garden Wall*
The Unknown – Dark Wood
I came to myself, in a dark wood, where the direct way was lost.
คำว่า Over the Garden Wall เรื่องหมายถึงการที่สองพี่น้องคือเวิร์ธและเกร็ก หลงไปในป่าซึ่งอยู่นอกรั้ว นอกเขตของการเป็นสวน (แต่ในตอนจบมีนัยมากกว่านี้) ป่าที่สองพี่น้องเดินทางจึงเป็นพื้นที่หลักของเรื่อง โดยรวมตัวเรื่องจะเรียกว่าเป็นป่าไร้นามหรือ The Unknown ซึ่งป่า เป็นพื้นที่สำคัญในการเริ่มเล่าเรื่องของดันเตใน Divine Comedy เช่นเดียวกัน ดันเตในวรรณกรรมเป็นคล้ายๆ ชายที่เจอวิกฤตวัยกลางคน อายุ 35 สูญเสียคนรัก และรู้ตัวอีกทีก็หลงอยู่กลางป่า จุดเริ่มการเดินทางของดันเต ป่าจึงเป็นอุปมาหนึ่งของนรกที่กำลังเดินทางเข้าไปและอาจรวมถึงบาปที่เข้าไปเรียนรู้ด้วย
นอกจากป่าแล้ว ตอนที่ 1 ของ Over the Garden Wall ยังอ้างอิงการเดินทางจากในวรรณกรรมด้วย เช่น ดันเตถูกขวางโดยสุนัขป่าตัวเมีย (Shewolf) การที่เกร็กและจอร์จเจอกับคนตัดฟืนและคนตัดฟืนบอกว่าสัตว์ร้ายของป่าจะทำลายความหวัง ก็คล้ายกับข้อความที่ประตูนรกของดันเตซึ่งสลักข้อความอันลือเลื่อว่า “ใครก็ตามที่จะผ่านประตูนี้ จงละทิ้งความหวังทั้งมวล”
Wirt – Dante
‘เวิร์ธ’ เป็นตัวละครพี่ชายผู้มาพร้อมกับหมวกสีแดง การเดินทางของสองพี่น้องสู่ป่าไร้นามและการหาทางกลับบ้านนั้นเหมือนกับการเดินทางของดันเต ที่เป็นดันเตเดินทางโดยมีเวอร์จิลเป็นผู้นำทาง หมวกสีแดงของเวิร์ธเหมือนกับหมวกสีแดงที่ภาพวาดของดังเต้มักจะวาดให้ดันเตสวมใส่อยู่เสมอ อีกลักษณะของเวิร์ธที่เหมือนดันเตคือเวิร์ธเป็นเด็กหนุ่มที่ตกหลุมรัก มีความรักให้เด็กสาวซึ่งเหมือนกับดันเต ทั้งเวิร์ธเองก็ชอบบทกวี เป็นคนที่ชอบคิดแต่ไม่ค่อยชอบลงมือทำ
Greg – Virgil
‘เกร็ก’ น้องชายสุดน่ารัก ไร้เดียงสา มากับกาน้ำและกบน้อยที่ตั้งชื่อไว้สารพัด เกร็กนอกจากความไร้เดียงสา ยังถือเป็นเพื่อนร่วมทางที่มีความกล้าหาญ เป็นคนเดินนำและพาพี่ชายไปยังที่ต่างๆ ตรงนี้ผู้ชมจึงตีความเกร็กเข้ากับบทบาทของเวอร์จิล ดวงวิญญาณที่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อนำทางดันเตผ่านนรกอันแสนอันตรายต่างๆ ได้ ตัวเกร็กเองมีลักษณะที่โดดเด่นมากที่ไม่กลัวกับพื้นที่ดินแดนไร้นามหรือ The Unknow แถมเกร็กมีลักษณะเป็นกวีเช่นเดียวกันกับเวอร์จิล ผู้ซึ่งเป็นกวีสำคัญจากยุคโรมันโบราณ เกร็กจะขับลำนำเล่าเรื่องราวต่างๆ ประกอบการเดินทาง
Beatrice
‘เบียทริกซ์’ ชื่อตัวละครสำคัญที่เชื่อมโยงกับ Divine Comedy และเรื่องราวของดันเต ใน Over the Garden Wall ใช้เบียทริกซ์เป็นชื่อของนกบลูเบิร์ดที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเดินทางของทั้งคู่ ส่วนในวรรณกรรมและชีวิตจริงของดังเต้ เบียทริกซ์เป็นชื่อหญิงคนรักของดันเต ใน Divine Comedy ซึ่งเบียทริกซ์เสียชีวิตไปแล้วและรอดันเตอยู่ในแดนสวรรค์ โดยเบียทริกซ์นี่แหละที่ส่งเวอร์จิลมาเป็นคนนำทางให้กับดันเต
ทว่า ตรงนี้มีการใช้ตำนานที่ซับซ้อนขึ้นคือใน Over the Garden Wall เบียทริกซ์ นกสีฟ้า เป็นสตรีถูกสาป ที่สุดท้ายได้หักหลังเวิร์ธและเกร็ก แทนที่จะเป็นผู้ช่วยให้ทั้งคู่เดินทางไปได้อย่างปลอดภัย กลับชักนำไปสู่อันตราย ซึ่งทำให้การเดินทางฉบับ Cartoon Network มีมิติ มีการเรียนรู้ที่ซับซ้อน
ความน่าสนใจของ Over the Garden Wall คือการที่ผู้สร้างต้องการให้การเดินทางของทั้งคู่เป็นการเดินทางทางความรู้สึก การเรียนรู้ผ่านดินแดนอื่น รวมถึงความตายและเรื่องราวที่ติดค้างในใจ เป็นสิ่งที่ใครก็ตามเข้าใจมิติพิเศษของการเดินทางของทั้งคู่ได้
Pottsfield – Limbo
ซีรีส์ Over the Garden Wall ตั้งแต่ตอนที่ 2-10 เป็นตีมที่เล่าผ่านนรกทั้ง 9 ชั้น ซึ่งดันเตให้ภาพนรกแบบคริสต์ไว้ว่าเป็นวงแหวนที่ซ้อนกัน ลึกเข้าไปเป็นแกนกลางของนรกที่มีซาตานสถิตอยู่ ในตอนที่ 2 Hard Times at the Huskin’ Bee เวิร์ธและเกร็กเดินทางเข้าไปถึงหมู่บ้านชาวนาซึ่งกำลังมีพิธีฉลองเก็บเกี่ยว ชาวเมืองอยู่ในชุดฟักทองกำลังเต้นรำฉลองผลผลิต ดินแดนประหลาดนี้ตีความเข้ากับนรกชั้นแรกที่เรียกว่า ‘ลิมโบ (Limbo)’ ดินแดนไร้กาลเวลา
นรกลิมโบ เป็นดินแดนว่างเปล่าที่ไร้ทัณฑ์ทรมาน ที่อยู่ของคนที่ไม่ได้ทำบาป แต่ก็เป็นเหล่าคนที่ไม่รู้จักพระคริสต์ ไม่ได้รับการไถ่บาป ไม่ได้รับศีลจุ่ม นรกในชั้นนี้ดันเตได้พบกับนักปรัชญาอย่าง ‘อริสโตเติล’ ทำให้ไม่แปลกที่ใน Over the Garden Wall เลือกใช้ภาพการเก็บเกี่ยวซึ่งถือเป็นพิธีกรรมสำคัญของชาวแพแกน รวมถึงเราจะเริ่มเห็นนัยของการเป็นดินแดนของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วอย่างการสงสัยว่าทั้งสองเด็กเกินไป ไปจนถึงความขบขันเมื่อทั้งคู่อยากจะเดินทางออกจากเมืองพ๊อตฟิลต์ หรือการบอกว่าจะได้กลับมาพบกันอีกแน่นอนเป็นต้น
Tavern – Gluttony Circle
ในตอนที่ 4 Songs of the Dark Lantern ดังกล่าวว่าเรื่องจะล้อไปกับนรกชั้นต่างๆ ในชั้นนี้ล้อกับนรกชั้นที่สาม บาปแห่งความตะกละ ในตอนนี้เกร็กจะมีปัญหาเรื่องความหิว ทั้งคู่ได้พบกับโรงเตี๊ยม ที่ด้านในมีแต่ผู้คนที่ร้องเพลงและชอบฟังเรื่องราว มีความอยากจะฟังเรื่องต่างๆ แต่ก็ไม่พึงพอใจในเรื่องนั้นอย่างน่าอึดอัด อันที่จริง การมีความปรารถนาหรือหิวโหยก็สอดคล้องกับบาปของความตะกละ นรกของความตะกละคือการทำให้ความต้องการไม่รับการเติมเต็ม
ในตอนนี้ก็มีจุดเล็กๆ ที่น่าสนใจ เช่น ที่ประตูร้านมีสุนัขนอนขวางอยู่ก็ตรงกับในตำนานที่ดันเตจะพบกับสุนัขสามหัวหรือเซเบรัสที่เฝ้าประตูนรกขุมนี้ไว้ ทั้งตลอดตอนจะเต็มไปด้วยอาหาร เป็นอาหารที่ไม่มีใครแตะต้องเลย
Frogland Ferry – Wrath Circle
ตอนที่ 6 ของ Over the Garden Wall ใช้ชื่อตอนว่า Lullaby in Frogland (ล้อกับชื่อเพลงแจ๊สได้อย่างน่ารัก) ตอนนี้ค่อนข้างให้ภาพนรกขุมที่ 5 หรือนรกแห่งความโกรธเกรี้ยวได้อย่างชัดเจน ในเรื่องพูดถึงการขึ้นเรือ ซึ่งในการเดินทางผ่านนรกของดันเตก็ต้องขึ้นเรือเพื่อข้ามแม่น้ำสติกซ์ แม่น้ำนรกในตำนาน ทั้งดันเตและพี่น้องเวิร์ธเกร็กไม่ต้องจ่ายค่าเรือทั้งคู่ ภาพของทั้งในซีรีส์และในการเดินทางของดันเตจึงเป็นภาพเดียวกันคืออยู่บนเรือ ในนรกชั้นที่ 5 ใช้แม่น้ำสติกซ์และปลักโคลนในการลงโทษ
อันที่จริงภาพรวมของตอนที่ 6 ของ Over the Garden Wall ว่าด้วยความโกรธเช่นเดียวกัน คือพวกกบโกรธ ความโกรธก็ลามมาที่เวิร์ธ เมื่อเรือถึงฝั่งพวกกบก็ลงไปอยู่ในโคลน ทั้งในตอนท้าย เบียทริกซ์นกบลูเบิร์ธหนีทั้งคู่ไปยังบ้านของอดาเลซ์ ซึ่งอดาเลซ์เป็นแม่มดที่ถือกรรไกรและด้าย ซึ่งกรรไกรและด้ายมีลักษณะเหมือนกับเทวีแห่งโชคชะตา ในนรกพ้นจากนรกวงที่ 5 ไป ระหว่างนรกชั้นที่ 6 จะมีเมืองชื่อดิส (City of Dis) ตั้งอยู่ ที่จุดนี้ดันเตพบกับ ‘เทวีอะโทรโพส (Atropos)’ หนึ่งในสามเทวีแห่งโชคชะตาผู้ถือกรรไกรและทำหน้าที่ตัดเส้นด้ายแห่งโชชะตา
อ้างอิงจาก