The Conjuring ภาพยนตร์แนวสยองขวัญลึกลับเหนือธรรมชาติ ที่ออกฉายครั้งแรกในปี 2013 ที่มีการอ้างอิงว่าตัวภาพยนตร์นั้นเป็นการอ้างอิงมาจากเรื่องจริงจากแฟ้มคดีของ เอ็ด และลอร์เรน วอร์เรน (Ed and Lorraine Warren)
แรกเริ่มเดิมทีตัวหนังถูกมองว่าเป็นแนวผีตุ้งแช่ ที่หยิบเอากิมมิก ‘อ้างอิงจากเรื่องจริง’ มาโฆษณาหนักๆ แต่พอหนังเข้าฉายจริงคนดูก็พบว่านอกจากที่หนังเรื่องนี้จะมีการนำเสนอที่เล่าที่มาที่ไปของการหลอกหลอนคนในบ้าน จนเราเข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ตัวละครของ เอ็ด กับ ลอร์เรน ก็ไม่ได้รีบร้อนบุกเข้าไปยิงผีจนตายโหงแล้วก็ปิดจ๊อบกลับบ้าน ผู้ชำนาญการในการรับมือสิ่งลี้ลับก็เผชิญปัญหาอะไรอยู่มาก จนคนดูรู้สึกว่าหนังมีความจริงที่จับต้องได้สมกับคำโฆษณาที่เขาบอกกล่าวไว้
นอกจากนี้ตัวหนังยังทิ้งผีไว้หลายตัว อย่างเช่นในภาพยนตร์ The Conjuring ภาคแรกนั้นอาจมีตัวร้ายหลักเป็นแม่มดที่หวังฆ่าครอบครัวที่มายุ่มย่ามในที่ดิน แต่ก็มีผีตุ๊กตา (โคตร) น่ากลัวปรากฎอยู่ในเรื่องด้วย ซึ่งค่ายผู้สร้างหนังก็ถือโอกาสสร้างหนังภาคแยกเล่าที่มาที่ไปของผีร่วมแสดงสมทบ ทั้งยังบอกด้วยว่าตอนนี้หนังผีตระกูลนี้ได้ขยายตัวเป็น จักรวาลคนเรียกผี (The Conjuring Universe) ที่สามารถแข่งขันกับจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่ฮิตอยู่ในตลาดได้
แต่เมื่อหนังถูกขยายเรื่องราว ก็มีข้อเท็จจริงบางอย่างที่โดนปรับเปลี่ยนไป ซึ่งในคราวนี้เราจะมาเล่าเรื่องชวนขนหัวลุก พร้อมข้อมูลจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นใน จักรวาลคนเรียกผี นี้
The Witch : Bathsheba Sherman
ภาพยนตร์ที่ปรากฎตัว : The Conjuring
ช่วงเวลาทำการ : 1863 – 1971
ประวัติในจักรวาลคนเรียกผี :
แบทชีบ้า เชอร์แมน (Batsheba Sherman) เป็นแม่มดที่เชื่อกันว่าเป็นญาติของ แมรี่ ทาวน์ อีสตี้ (Mary Towne Eastey) หนึ่งในแม่มดแห่งเมืองซาเล็ม (อิงจากจักรวาลของภาพยนตร์ แม่มดแห่งซาเล็ม ถือว่ามีอยู่จริง) ที่ได้ทำการสังเวยลูกของตัวเองให้กับปีศาจก่อนที่จะฆ่าตัวตาย ช่วงปี 1863 จนกลายเป็นปีศาจที่สถิตอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งของเมืองฮาร์ริสวิลล์ รัฐโรดไอสแลนด์ (Harrisville, Rhode Island) และทิ้งคำสาปไว้ว่า ใครก็ตามที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของเธอจะถูกฆ่าทั้งสิ้น เวลาผ่านไปหลายสิบปีตระกูลเพอร์รอน (Perron) ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในบ้าน และเริ่มรบกวนสมาชิกภายในบ้าน แสดงการเหยียดหยามพระเป็นเจ้า หลอกหลอนคนในบ้านด้วยลูกเล่นที่แตกต่าง จนคนในครอบครัวต้องมานอนรวมกันเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจเดินทางไปขอให้เอ็ด กับ ลอร์เรน วอร์เรน นักปิศาจวิทยาชื่อดังที่มีผลงานการกำราบเรื่องราวผิดปกติหลายครั้งมาช่วย
คู่สามีภรรยาวอร์เรนกับผู้ช่วย เริ่มทำการเก็บข้อมูลในบ้านเพื่อเชิญบาทหลวงมาทำพิธีไล่ผีได้ และการสำรวจของพวกเขาก็ทำให้พบว่า บ้านหลังนี้ถูกสิ่งเหนือธรรมชาติสิงสู่อยู่จริง แต่ก็เป็นเรื่องเกินคาดเล็กน้อย เพราะพวกเขาเพิ่งทราบว่า แม่มดที่สาปที่ดินแห่งนี้จะทำการเข้าสิงร่างผู้หญิงที่เป็นแม่ของครอบครัวเพื่อสังหารคนในครอบครัวอีกทอดหนึ่ง และแม่ของครอบครัวเพอร์รอนก็ถูกสิงไปเรียบร้อย ครั้นจะประวิงเวลารอบาทหลวงจากโบสถ์มาก็ไม่ทันการ สามีภรรยาวอร์เรนจึงต้องกระทำการไล่ผีเอง ด้วยการร่วมแรงใจกันของทุกคนในบ้านจึงสามารถขับไล่แม่มดร้ายได้สำเร็จ
ประวัติในโลกจริง:
เราขอแยกเรื่องราวทีละลำดับ ก่อนอื่นเลยครอบครัวเพอร์รอนเป็นครอบครัวที่มีอยู่จริงและประสบปัญหาวิญญาณสิงสู่ในบ้านแบบเดียวกับในภาพยนตร์ The Conjuring ภาคแรก แต่จุดที่แตกต่างก็คือระยะเวลาที่พวกเขาอาศัยอยู่ในความเป็นจริงนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณสิบปี ในช่วงปี 1970 – 1980 ซึ่งครอบครัวเพอร์รอนตัวจริงได้เขียนหนังสือชุด House of Darkness House of Light บอกเล่าเรื่องราวที่พวกเธอได้ประสบในบ้านหลังดังกล่าวด้วย
บริเวณที่ดินที่กล่าวถึงในเรื่องนั้น ความจริงคือพื้นที่ซึ่งถูกเรียกว่า Arnold Estate มีความเชื่อจากคนท้องถิ่นว่าถูกสาปจริง เนื่องจากมีเจ้าของใหม่ที่ย้ายเข้าไปอยู่เสียชีวิตไปหลายคน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ดูปกติ หรือเหตุผลที่ดูไม่ปกติก็ตามที และในปัจจุบัน พื้นที่จริงก็มีเจ้าของใหม่ที่อาศัยอยู่อย่างปกติสุข ซึ่งเจ้าของพื้นที่สองคนเคยทำการยื่นฟ้องทีมสร้างหนังที่ทำให้เกิดความเสียหายจากการบุกรุกบ้าง (เพราะแฟนหนังเกิดอยากไปสำรวจพื้นที่จริงขึ้นมา) แต่ไม่มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านข่าวว่าคดีนี้ไปถึงจุดไหนแล้ว
ส่วนเรื่องราวของแม่มดในความจริงนั้นมีรายละเอียดจับต้องได้จริงแบบครึ่งควบลูก ตามที่กล่าวไปแล้วว่าคนท้องถิ่นส่วนหนึ่งเชื่อว่ามีอาถรรพ์จริง หรือมีแม่มดสาปแช่งพื้นที่ดังกล่าวจริง รวมถึงว่ามีการค้นพบหลุมศพของคนที่ชื่อ-สกุล Bathsheba Sherman แต่ด้วยข้อมูลที่เลือนรางและจำกัดจำเขี่ย น่าจะนับได้ว่าแม่มดตนนี้เป็นสิ่งที่ถูกแต่งเติมใหม่ให้เข้ากับท้องเรื่องของผู้สร้างหนังเสียมากกว่า
The Doll : Annabelle
ภาพยนตร์ที่ปรากฎตัว : The Conjuring, Annabelle, Annabelle: Creation และภาพยนตร์ภาคต่อในอนาคต
ช่วงเวลาทำการ : 1943 – 1977
ประวัติในจักรวาลคนเรียกผี :
ตุ๊กตาผีตัวนี้ปรากฎตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ The Conjuring ภาคแรกในฐานะสิ่งลี้ลับรับเชิญ ก่อนที่จะมีหนังของตัวเองออกมาในภายหลัง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่าหน้าตาของตุ๊กตานั้นดูน่ากลัว (มาก) หรือเป็นเพราะเรื่องเล่าของตุ๊กตาตัวนี้ในชีวิตจริงนั้นถือว่าเป็นวัตถุที่เฮี้ยนที่สุดเท่าที่ คู่สามีภรรยาตระกูลวอร์เรนเคยรับมือมา เจ้าตุ๊กตาตัวนี้ก็มีหนังของตัวเองไปโดยปริยาย
ความจริงตุ๊กตาตัวนี้ไม่ได้เป็นของอันตรายเสียทีเดียว มันมีที่มาที่ไปยาวกว่านั้นหน่อย เรื่องราวเริ่มจากการที่ครอบครัวมูลลินส์ (Mullins) ได้สูญเสียลูกสาวชื่อ แอนนาเบลล์ (Annabelle) ไปอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุรถชน ทำให้ครอบครัวตกอยู่ในความระทมตรมใจและร้องขอใครก็ได้ให้นำพาลูกสาวมาพบหน้าเขาอีกครั้ง มีสิ่งหนึ่งที่ตอบรับคำขอของพ่อแม่ผู้สูญเสีย คือปีศาจที่สามารถแสดงภาพมายาเป็นลูกสาวของคนทั้งสองก่อนที่พ่อแม่ผู้มีความหวังจะตัดสินใจเปิดทางให้ปิศาจนั้นเข้าสิงสู่ตุ๊กตาตัวใหญ่ภายในบ้าน จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าปิศาจนั้นควักดวงตาของผู้เป็นแม่ออกไปข้างหนึ่ง ครอบครัวมูลลินส์จึงวานให้นักบวชทำพิธี ‘ขัง’ ตุ๊กตาไว้ในตู้ที่มีพระคัมภีร์แปะล้อมรอบ
เวลาผ่านไป 12 ปี บ้านหลังใหญ่นี้ได้เปิดรับกลุ่มเด็กกำพร้าพร้อมกับแม่ชีผู้ดูแลเด็กๆ มาร่วมอาศัยในชายคาเดียวกัน และจังหวะนี้เองที่ปีศาจในตุ๊กตา ล่อลวงเด็กคนหนึ่งให้มาปลดผนึกที่คุมขังมัน และทำร้ายเด็กคนนั้น ก่อนจะสิงสู่ร่างเด็กหญิงผู้โชคร้ายในที่สุด จนทำให้เด็กที่เคยเดินกะเผลกมาตลอดกลับมาเดินได้อีกครั้ง ก่อนจะทำการก่อคดีสังหารโหดคนในบ้าน โชคดีที่แม่ชีผู้ดูแลสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยังรอดชีวิตอยู่ด้วยการขังเด็กหญิงทีถูกสิงไว้ในตู้ที่เคยขังตุ๊กตาผี แต่เมื่อตำรวจมาถึง มีแค่ตุ๊กตาเท่านั้นที่อยู่ในตู้ เด็กหญิงที่ถูกสิงสู่ได้หลบหนีไปแล้ว และเปลี่ยนชื่อตัวเองใหม่เป็น แอนนาเบลล์
อีก 12 ปี ต่อมา แอนนาเบลล์ (เด็กที่ถูกสิง) ได้โตเป็นผู้ใหญ่ และมีแฟน แถมยังเข้าร่วมลัทธิบูชาปีศาจ และได้กระทำการฆาตกรรมครอบครัวที่เลี้ยงเธอ รวมถึงพยายามฆาตกรรมครอบครัวฟอร์ม (Form) ที่อยู่ข้างบ้าน ซึ่งบังเอิ๊ญครอบครัวนี้เพิ่้งซื้อตุ๊กตาหน้าตาชวนขนลุกมาเก็บไว้ในบ้านด้วย คราวนี้โชคดีที่ตำรวจมาทำการวิสามัญแฟนของแอนนาเบลล์ได้ ส่วนตัวแอนนาเบลล์ก็ได้ฆ่าตัวตาย เพื่อหยดเลือดคืนสู่ตุ๊กตาตัวเดิมให้คืนสู่สภาพตุ๊กตาผีสิงอีกครั้ง จากนั้นครอบครัวฟอร์มที่เพิ่งได้ลูกสาววัยแบเบาะมาเป็นสมาชิกใหม่ ก็เจอกับเรื่องแปลกๆ เหนือธรรมชาติที่พวกเขาใช้เวลาอนุมานไม่นานว่าเป็นฝีมือของตุ๊กตาผีในบ้านนั่นแหละ
ครอบครัวฟอร์ม เลยย้ายบ้าน ย้ายเมือง ทิ้งตุ๊กตา หนีการไล่ล่าของผี แต่ตุ๊กตาเจ้ากรรมก็ยังโผล่มายังบ้านใหม่ ที่คราวนี้เล่นใหญ่กว่าเดิม จนครอบครัวที่โดนหลอกหลอนต้องหาวิธีการอื่นเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ และพวกเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากบาทหลวง กับเพื่อนบ้านที่ขายหนังสือ ซึ่งฝั่งหลวงพ่อนั้นได้ตัดสินใจเอาตุ๊กตาผีไปทำพิธีขับไล่ผีที่โบสถ์ แต่ปิศาจในตุ๊กตาไม่ยอมง่ายๆ ทำร้ายหลวงพ่อแล้วขโมยตุ๊กตา และปลอมตัวเป็นหลวงพ่อ โดยช่วงนี้เองที่พล็อตเปิดเผยว่า ปีศาจนั้นหวังวิญญาณของลูกสาวครอบครัวตระกูลฟอร์มวัยแบเบาะ ซึ่งเพื่อนบ้านที่พอดีมีปมเคยช่วยลูกสาวตัวเองไม่ได้ ก็ได้ตัดสินใจสละชีวิตตัวเองให้เด็กทารก และทำให้ครอบครัวฟอร์มคืนสู่ความสงบสุข
ตุ๊กตาผีนั้นหายไปอย่างลึกลับ ก่อนจะมาปรากฎตัวในร้านขายของแห่งหนึ่งที่หญิงสาวซื้อไปฝากเป็นของขวัญให้กับลูกสาวที่เป็นนักศึกษาพยาบาล ซึ่งเจอเหตุแปลกๆ ไม่แตกต่างกับผู้ครอบครองก่อนหน้านั้น แต่กลุ่มผู้เคราะห์ร้ายกลุ่มนี้ตัดสินใจนำตุ๊กตาไปส่งมอบต่อให้ เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน ซึ่งสุดท้ายแล้วตุ๊กตาผีดังกล่าวก็ถูกผนึกอยู่ในคลังวัตถุเหนือธรรมชาติของสองนักปีศาจวิทยาชื่อดัง และนานๆ ครั้งก็ออกมาเพ่นพ่านให้คนในบ้านวอร์เรนต้องตกใจบ้างเป็นระยะๆ และอาจกลับมาอาละวาดได้อีกในอนาคต
ประวัติในโลกจริง :
ตามปากคำของ เอ็ด กับ ลอร์เรน วอร์เรน พวกเขากล่าว่าได้รับตุ๊กตาตัวนี้มาจากนักเรียนพยาบาลชื่อ ดอนน่า (Donna) ในช่วงปี 1970 ซึ่งนักเรียนพยาบาลคนดังกล่าวระบุว่าเธอได้รับมันในฐานะของขวัญที่แม่ของเธอมอบให้ และตุ๊กตาตัวนี้มักย้ายที่ไปมาเอง ทั้งยังเขียนข้อความบนเศษกระดาษอย่างลึกลับ ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรื่องในหนัง Annabelle ภาคแรก แต่จุดที่ต่างกันมากของเรื่องจริงกับในหนังคือ ตัวตุ๊กตาของจริงเป็นตุ๊กตาผ้าถักดูน่ารักธรรมดาๆ ไม่ใช่ตุ๊กตาตัวใหญ่ใบหน้าชวนหลอนแบบในหนัง และตุ๊กตาดังกล่าวไม่ใช่ตุ๊กตามือสอง ซึ่งเราพอจะมีโอกาสเห็นตุ๊กตาลักษณะเดียวกันกับของจริงหประดับฉากเป็นแขกรับเชิญอยู่ในหนัง
ส่วนการทำร้ายคนอื่นนั้นในโลกแห่งความจริงมีการบันทึกว่า ตุ๊กตาของจริงได้ทำร้ายเพื่อนของ ดอนน่า (บางเจ้าว่าเป็นแฟน บางเจ้าว่าเป็นคู่หมั้น) แต่ไม่ได้รุนแรงระดับถึงแก่ชีวิตแบบที่ในหนังชงเรื่องไว้ และมีคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังจากเข้าชมตุ๊กตาตัวนี้ แต่ก็ยังพอบอกได้ว่าอาจจะไม่เกี่ยวกัน ปัจจุบันตุ๊กตาตัวนี้ยังอยู่ในพิพิธภัณฑ์สิ่งของเหนือธรรมชาติของตระกูลวอร์เรน และเชื่อกันว่าตุ๊กตาตัวนี้ออกมาเที่ยวเล่นบ้างนานๆ ที ในขณะเดียวกันก็ยังมีคนระบุว่าตุ๊กตาตัวนี้ยังต้องรับการพรมน้ำมนต์โดยบาทหลวงเพื่อสะกดความชั่วร้ายเดือนละสองครั้ง
อีกส่วนที่น่าจะนับได้ว่าเป็นเรื่องแต่งล้วนๆ ก็คือเรื่องราวในภาพยนตร์ Annabelle: Creation ทั้งเรื่องกับคู่รักที่เป็นสมาชิกลัทธิบูชาปิศาจในภาพยนตร์ภาคแรก ทั้งนี้ตุ๊กตาผีตัวนี้ยังพร้อมออกอาละวาดในจักรวาลคนเรียกผี เพราะมีกำหนดฉายหนังภาคสามออกมาแล้ว และเผลอๆ จะมาโผล่ในฉากท้ายเรื่องของ The Nun ด้วยแหละ
The Nun: Valak
ภาพยนตร์ที่ปรากฎตัว : The Conjuring 2, The Nun
ช่วงเวลาทำการ : 1952 – 1972
ประวัติในจักรวาลคนเรียกผี :
ผีแม่ชี มีประวัติชวนซับซ้อนวุ่นวายอยู่เบาๆ ปีศาจตนนี้ปรากฎตัวอยู่ในจักรวาลภาพยนตร์คนเรียกผี โดยปรากฎตัวครั้งแรกในภาพนิมิตที่ ลอร์เรน วอร์เรน เห็นระหว่างที่เธอถอดจิตเพื่อสำรวจคดีฆาตกรรมที่เคยเกิดขึ้นใน Amityville บ้านผีสิงที่ขึ้นชื่อที่สุดหลังหนึ่งของอเมริกา และเมื่อเธอได้พบภาพผีแม่ชี เธอก็ขังตัวเองในห้องแปดวัน เพราะเธอเห็นนิมิตว่าสามีของเธอต้องเสียชีวิต ส่วนเอ็ดผู้เป็นสามีในภายหลังก็ฝันเห็นภาพของผีแม่ชีตนนี้จนเขียนภาพสีของมันออกมา และ ณ จุดนี้ พวกเขายังไม่แน่ใจว่าปิศาจตนนั้นคือสิ่งใด
ต่อมาเกิดเหตุผิดปกติภายในบ้านหลังหนึ่งของเขตเอนฟิลด์ (Enfield) ประเทศอังกฤษ จากจุดที่มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นับตั้งแต่ของในบ้านเคลื่อนไหวเองได้ ก่อนตามมาด้วยเรื่องหนักหน่วงด้วยการที่ เจเน็ต ฮอดจ์สัน (Janet Hodgson) เด็กหญิงวัย 11 ปี ถูกกัดโดยมีรอยฟันของผู้ใหญ่บนตัว, ลอยตัวในบ้าน, พูดด้วยเสียงของชายชรา ที่ระบุว่าชื่อ บิล วิลคินส์ (Bill Wilkins) ฯลฯ เรื่องราวโด่งดังมากขึ้นจนสื่ออังกฤษแสดงความสนใจ และข่าวไปเข้าตาบาทหลวงที่คู่สามีภรรยาย Warren คุ้นเคย และวานให้ทั้งสองคนเข้าไปตรวจสอบว่าเหตุการณ์ในเกาะอังกฤษเป็นเรื่องจริงหรือเหตุหลอกลวงกันแน่ ที่ฝั่ง ลอร์เรน ไม่ค่อยเห็นด้วยในการเดินทางไปแต่สุดท้ายพวกเขาก็รับงาน
คู่สามีภรรยาวอร์เรนเจอหลักฐานสนับสนุนการมีผีในบ้านพักของครอบครัวฮอดจ์สันมากมาย ทั้งยังเชื่อว่านี่คงเป็นเรื่องของวิญญาณติดที่ จนกระทั่งพวกเขาพบหลักฐานในทางตรงข้ามกันว่าเด็กหญิงในบ้านอาจจะเป็นคนสร้างความวุ่นวายเพื่อเรียกร้องความสนใจ ก่อนที่สามีภรรยาวอร์เรนจะพบว่า บิล วิลคินส์ นั้นมีตัวตนจริง มิหนำซ้ำเบื้องหลังของวิญญาณชายแก่แท้จริงแล้วมี ผีแม่ชี สั่งการอีกทอดหนึ่ง ทำให้พวกเขาได้รู้ชัดว่า ผีแม่ชีมีอยู่จริงแถมยังไม่ใช่ระดับผีธรรมดาๆ แต่น่าจะเป็นปิศาจที่ทรงพลัง
ในขณะที่ปิศาจตัวจริงซึ่งอยู่เบื้องหลังคดีทั้งสองอาละวาดอย่างหนัก เอ็ดก็ได้บุกเข้าไปเพื่อช่วยเจเน็ตที่ตอนนี้ถูกสิงสู่จนไร้สติ ส่วนลอร์เรนก็นึกขึ้นได้ว่าในภาพนิมิตหนึ่งที่เธอเคยเห็นนั้น เธอได้บันทึกชื่อของปิศาจตนนั้นและเธอก็ตะโกนเรียกชื่อ วาเล็ค (Valek) ซึ่งทำให้สุดท้ายเธอสามารถส่งปิศาจที่ใช้รูปร่างแม่ชีให้ไปสู่นรกได้ ก่อนที่คดีในเขตเอนฟิลด์จะจบลงอย่างสงบสุข
ประวัติในโลกจริง :
เรื่องของผีแม่ชีในโลกจริง ก็ซับซ้อนไม่น้อย ด้วยเหตุที่ว่าภาพยนตร์ The Conjuring 2 นำเอาสองคดีที่ไม่เกี่ยวกันเสียทีเดียว นอกจากจุดร่วมของกรณี The Amityville Horror ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1975 กับ กรณีของ Enfield Poltergeist ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1977-1979 ทั้งสองเรื่องต่างตกเป็นข่าวดังเพราะมีการค้นพบเหตุผิดปกติเหนือธรรมชาติในบ้านทั้งสองแห่ง ซึ่งก็มีคนเข้าไปพิสูจน์ทั้งในเชิงวิทย์ และเชิงไสยศาสตร์ แม้จะอยู่กันคนละประเทศก็ตาม
รูปคดีของ The Amityville Horror นั้นใกล้เคียงกับที่ถูกเล่าไว้ในภาพยนตร์ The Conjuring 2 ก็คือตัวบ้านมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นจริงโดย Ronald DeFeo Jr. ลูกชายคนโตของบ้านได้กระทำการฆาตกรรมสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว ก่อนที่บ้านจะถูกครอบครัว Lutz ซื้อไป และเนื่องจากเรื่องราวของบ้านหลังนี้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เดี่ยวมาแล้วสองรอบ ในจักรวาลภาพยนตร์คนเรียกผีจึงเล่าเรื่องบ้านหลังนี้สั้นๆ แต่ก็สอดคล้องกับความจริงที่สามีภรรยาวอร์เรนแวะไปบ้านหลังนี้แค่ครั้งเดียว และระบุว่าบ้านมีวิญญาณร้ายสิงสู่
กรณี Enfield Poltergeist ก็ถูกบอกในหนังค่อนข้างสอดคล้องกับความจริงที่ถูกบันทึกไว้ไม่น้อย ทั้งการที่ของในบ้านเคลื่อนไหวเอง, บิล วิลคินส์ เสียชีวิตในบ้านบนเก้าอี้โซฟา, เด็กๆ ในบ้านถูกรบกวนจากสิ่งลึกลับ, ตำรวจที่มาตรวจสอบพบว่าเก้าอี้ในบ้านขยับเอง, รวมถึงการที่เด็กๆ ในบ้านได้ออกในรายการทีวีก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน ส่วนที่ต่างจากในหนังนั้นก็คือ คู่สามีภรรยาวอร์เรน มาบ้านนี้แค่ครั้งเดียวสั้นๆ เท่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องจนขับไล่ผีได้สำเร็จ ส่วนคนที่เกี่ยวข้องจริงกับคดีนี้เยอะกว่าคือ มอริส โกรส (Maurice Grosse) ซึ่งปรากฎตัวในหนัง The Conjuring 2 ในฐานะผู้ที่สืบสวนคดีในบ้านร่วมกับสามีภรรยาวอร์เรน กับ Guy Lyon Playfair ที่ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงภาพยนตร์เข้าฉายว่าสามีภรรยาวอร์เรนมาที่บ้านจริงแบบไม่ได้บอกกล่าวและก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก
อีกเรื่องหนึ่งที่ทั้งกรณี The Amityville Horror กับ Enfield Poltergeist มีความเหมือนกันในโลกแห่งความจริงก็คือ ทั้งสองเหตุการณ์ต่างถูกคนที่เข้ามาตรวจสอบกลุ่มอื่นระบุว่าพวกเขาไม่ได้เล่าเรื่องจริงเสียทีเดียว
อย่างกรณีของฝั่ง The Amityville Horror ที่คนในตระกูล Lutz ทำการเขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ของพวกเขา ก็มีการแก้ไขรายละเอียดเหตุการณ์หรือวันที่เกิดเรื่องในบ้านอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงว่ามีบทสัมภาษณ์ของทนายที่เคยทำคดีให้ครอบครัว Lutz ที่บอกว่าเรื่องในหนังสือถูกแต่งขึ้นระหว่างที่ดวดไวน์กันอยู่
ฝั่ง Enfield Poltergeist ถูกนักวิจัยหลายคนระบุว่าเรื่องนี้เป็นเหตุที่เด็กๆ ในบ้านสร้างเรื่องขึ้นมากกว่า โดยเฉพาะกรณี เจเน็ต ฮอดจ์สัน สามารถลอยตัวได้ก็ถูกถ่ายรูปบันทึกไว้และถูกวิเคราะห์ว่าเป็นการกระโดดโดยใช้เตียงนอนเป็นตัวส่งมากกว่า (ส่วนนี้ในตัวภาพยนตร์ก็เอามาพูดถึง) และก็มีกรณีที่ตัว เจเน็ต ให้สัมภาษณ์ว่าเธอเคยแกล้งทำเหตุการณ์หลอกๆ เพื่อดูว่า มอริส กับ นักวิจัยคนอื่นจับได้ไหม กระนั้นตัวสมาชิกครอบครัวฮอดจ์สัน ก็ยืนยันว่าพวเขาเจอเรื่องประหลาดจริง
ในฝั่งปิศาจ วาเล็ค นั้น เป็นส่วนผสมของเรื่องแต่งกับประสบการณ์จริงของ ลอร์เรน วอร์เรน ที่เคยพูดคุยกับ เจมส์ วาน (James Wan) ผู้กำกับหนัง The Conjuring ว่ามีผีคอยตามหลอกหลอนอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งเจมส์ ได้เอามาขยำรวมกับความคิดในหัวเพื่อสร้างปิศาจตนใหม่ที่เป็นด้านตรงข้ามของคู่สามีภรรยานักปิศาจวิทยาที่มีความเชื่อต่อพระเจ้า จนมีการพัฒนารูปลักษณ์มาเป็นร่าง ผีแม่ชี ในที่สุด
ส่วนชื่อของปิศาจนั้นถูกนำมาจากชื่อปิศาจตนหนึ่งที่ถูกบันทึกใน กุญแจย่อยของโซโลมอน (Lesser Key of Solomon) ซึ่งตัว วาเล็ค ถูกเขียนในชื่อ Valac, Valak, Volac, Valu ถูกระบุว่าเป็นประธานแห่งขุมนรก ซึ่งก็ไม่ได้เป็นแม่ชีแต่อย่างใด ซึ่งเราก็พอจะสรุปได้ว่า วาเล็ค ในฉบับหนังเป็นเรื่องแต่งใหม่ให้เข้ากับท้องเรื่องนั่นเอง
ที่มาที่ไปของผีแม่ชีกำลังถูกบอกเล่าในภาพยนตร์เรื่อง The Nun ที่เข้าฉายในเดือนกันยายน 2018 นี้
The Crooked Man
ภาพยนตร์ที่ปรากฎตัว : The Conjuring 2
ช่วงเวลาทำการ : 1977 – ?
ประวัติในจักรวาลคนเรียกผี :
‘ชายหลังงอ’ เป็นปีศาจลึกลับที่ปรากฎตัวในบ้านเช่าที่ตระกูลฮอดจ์สันเข้าไปอาศัยอยู่ได้พบเจอ เดิมทีแล้วเป็นแค่ภาพในของเล่นของเด็กๆ ในบ้านก่อนจะทะลุของเล่นออกมาอาละวาดจริงๆ ด้วยรูปลักษณ์ของชายใส่สูทโทรมๆ พร้อมกับร่มประจำตัว บนหัวของมันมีหมวกคลุมอยู่ครึ่งหัว, แว่นตาใหญ่ที่ใส่ทับบนหมวกอีกที บวกกับปากทีมีฟันแหลมคม ตอนแรกปีศาจตนนี้ถูกตีความว่าเป็นข้ารับใช้ของปิศาจอีกตน แต่หลังจากคู่สามีภรรยาวอร์เรนเคลียร์คดีในเมืองเอนฟิลด์ได้แล้ว เขาก็นำเอาของเล่นที่มีภาพของชายหลังงอกลับมาที่บ้าน ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเจ้าปิศาจตนนี้มีตัวตนของมันเองแยกออกอีกทีหนึ่ง
ทักษะและความสามารถของปิศาจตนนี้เท่าที่ปรากฎคือปลอมตัวเป็นสุนัขได้ และร่มที่แหลมคมของมันก็ฟาดทะลุวัตถุอย่างประตูไม้ได้อย่างง่ายดาย
ประวัติในโลกจริง:
ที่มาที่ไปของปิศาจตนนี้ มาจากกลอนเด็กร้องอังกฤษ (Nursery Rhyme) ที่ชื่อว่า There Was a Crooked Man ซึ่งก็เป็นอันเดียวกับที่เด็กๆ ร้องในภาพยนตร์ The Conjuring 2 นั่นเอง ถึงตัวเนื้อหาของบทกลอนจะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของประเทศอังกฤษกับประเทศสก็อตแลนด์ โดยเทียบเคียงชายหลังค่อมที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังโทรมๆ อุดมไปด้วยสิ่งของอื่นๆ ที่หลังงอ เหมือนกับภาวะของทั้งสองประเทศที่ไม่ถูกกันแต่ก็ต้องอาศัยอยู่บนผืนดินแบบเดียวกันอย่างเลี่ยงไม่ ได้
ส่วนภาพลักษณ์ของ ‘ชายหลังงอ’ ในฐานะสัตว์ประหลาดหรือปิศาจเกิดขึ้นภายหลัง ที่ภาพลักษณ์เชิงแซะประวัติศาสตร์ของตัวบทกลอนได้จางหายไป หลงเหลือเพียงความสงสัยว่าจะมีชายหลังงอแบบนั้นจริงไหม และกลายเป็นภาพลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับไปในที่สุด ซึ่งแต่ละครก็จะจินตนาการร่างและความสามารถแตกต่างกันไป อย่างในฝั่ง Doctor Who ซีรีส์ยอดนิยมของเกาะบริเทนก็ตีความเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับในมิติหนึ่งที่ หรืออย่างสถานีโทรทัศน์ในอเมริกาช่อง SYFY ก็ตีความให้ชายหลังงอเป็นปิศาจที่บิดเบือนความจริงแล้วไล่ฆ่าคน
‘ชายหลังงอ’ ในจักรวาลคนเรียกผีนั้นมีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับในบทกลอน แล้วผสมเข้ากับเรื่องลึกลับในเทรนด์ปัจจุบันอย่าง Slender Man แต่ประวัติในจักรวาลภาพยนตร์ชุดนี้จะเป็นอย่างไรอาจต้องรอดูในหนังภาคแยกอีกทีหนึ่ง เพราะในตอนนี้รายละเอียดของหนังนั้นน้อยมาก จะมีรายละเอียดก็แค่คำพูดที่ว่า ‘หนังชายหลังงอจะแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ในจักรวาล’
The Conjuring : Ed & Lauren Warren
ภาพยนตร์ที่ปรากฎตัว : The Conjuring, The Conjuring 2
ประวัติในจักรวาลคนเรียกผี :
คู่สามีภรรยาวอร์เรน เป็นนักปิศาจวิทยาที่ทำงานตรวจสอบเหตุเหนือธรรมชาตินับตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบของที่ขยับเขยื้อนเองได้ พวกเขาทำงานสายนี้มาตั้งแต่ช่วงยุค 1960 โดยที่ ลอร์เรน นั้นเป็นผู้มีญานทิพย์ที่มองเห็นภาพนิมิตต่างๆ รวมถึงเป็นร่างทรงวิญญาณได้ ส่วนเอ็ดผู้เป็นสามีมีทักษะในการทำพิธีไล่ปิศาจ (Exorcist) ซึ่งกล่าวกันว่าได้รับการยอมรับจากโบสถ์คาทอลิก นอกจากนั้นพวกเขายังทำการเก็บวัตถุที่มีพลังเหนือธรรมชาติไว้ในบ้านของพวกเขา กระนั้นก่อนที่พวกเขาจะทำการขับไล่ผีพวกเขาจะใช้วิธีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปด้วย โดยตัวเอ็ดนั้นพยายามปฏิเสธที่จะขับไล่วิญญาณด้วยตัวเอง โดยให้เหตุผลว่ามันมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้พวกเขายังมีแนวคิดในการเสริมกำลังใจให้สมาชิกครอบครัวร่วมกันส่งพลังขับไล่ปิศาจ
แต่ถึงจะมีทักษะความชำนาญในการจัดการกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่ก็เห็นอยู่หลายครั้งว่าเมื่อเกิดเหตุผิดปกติขึ้นในบ้านพักของพวกเขาเองเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายเหตุในบ้านมักจะกลายเป็นปมสำคัญที่ทำให้พวกเขารับมือกับคดีลึกลับที่เผชิญในที่สุด
ประวัติในโลกจริง :
พวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็นนักปิศาจวิทยาจริงๆ และทำงานในแบบเดียวกับที่บรรยายไว้ในภาพยนตร์แถมตัวเนื้อหาส่วนหนึ่งของหนังก็ได้ ลอร์เรน วอร์เรน ตัวจริงมาช่วยลงรายละเอียดให้ ส่วนที่หนังยังไม่ได้เล่าเรื่องก็คงเป็นการที่ สามี-ภรรยาคู่นี้ก่อตั้ง New England Society for Psychic Research หรือ N.E.S.P.R. มาตั้งแต่ปี 1952 ด้วยความที่ เอ็ด เคยเป็นตำรวจมาก่อน จึงไม่แปลกนักที่เขาจะใช้วิธีสืบสวนแบบตำรวจ (ในยุคนั้น) ร่วมกับความรู้อื่นๆ ที่เขาศึกษาด้วยตนเอง และคดีแรกๆ ของพวกเขาก็เป็นสืบสวนร่วมมือกับตำรวจเวลาเจอคดีผิดปกติ
สามีภรรยาวอร์เรน เป็นที่รู้จักในฝั่งสื่อมวลชนจากการเข้าไปมีส่วนร่วมกับกรณี The Amityville Horror แล้วก็มีส่วนใกล้เคียงกับในภาพยนตร์ที่ถูกคนส่วนหนึ่งกล่าวหาว่าเป็นคนหลอกหลวง หวังเงิน แต่ในทางกลับกันก็มีกลุ่มคนที่ให้ความเชื่อสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะมีชื่อเสียงในแง่มุมไหน สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็คือ คดีที่พวกเขามีส่วนร่วมด้วยนั้นได้ถูกสร้างเป็นสื่อบันเทิงมาแล้ว ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์โทรทัศน์, สารคดี หรือภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ
เอ็ด วอร์เรน เสียชีวิตไปเมื่อปี 2006 ส่วน ลอร์เรน ผู้เป็นภรรยายังคงทำงานอยู่ทั้งการร่วมปรึกษาในการสร้างภาพยนตร์ หรือไปเลคเชอร์ให้ความรู้ และนอกจากนี้คดีที่พวกเขาได้เจอมานั้นยังมีอีกมาก เราจึงเดาได้เลาๆ ว่าภาพยนตร์ในจักรวาลคนเรียกผีคงมีให้ติดตามกันอีกหลายเรื่องอย่างแน่นอน
The Nurse / The Confession / The Blund’s Lullaby / The Innocent Souls / The Mom
ผีกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ไม่ได้ปรากฎตัวในหนังใหญ่แบบตัวละครอื่นๆ ของ จักรวาล The Conjuring แต่เป็นภาพยนตร์สั้นที่ชนะการประกวดหนังสั้น ‘My Annabelle Creation’ ที่มีโจทย์ง่ายๆ ว่า ‘ทำหนังสั้นไม่เกินสองนาทีที่ให้บรรยากาศเหมือนกับว่าอยู่ในโลกเดียวกับหนัง The Conjuring’ โดยเปิดรับภาพยนตร์จากหลายประเทศทั่วโลก ทุกเรื่องเปิดให้รับชมออนไลน์ แต่เราสรุปรายละเอียดคร่าวๆ มาให้ฟัง ณ ที่นี้
The Nurse – เด็กหญิงที่รับการผ่าตัดตาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เพราะอยู่ๆ ประตูห้องของเธอก็เปิดเอง เธอพยายามกดเรียกให้คนมาช่วยซึ่งสุดท้ายก็มีหญิงสาวนางหนึ่งมาช่วยแกะผ้าพันแผล …และสิ่งที่ช่วยแกะนั้นคือพยาบาลผีที่เข้าห้องของเด็กหญิงนั่นเอง
The Confession – สาวผมบลอนด์เข้าไปสารภาพบาปด้วยท่าทีหวาดกลัว ก่อนที่จะย้อนความว่าเพื่อนอีกคนที่เธออาศัยอยู่ในหอพักเดียวกับเธอถูกปิศาจลึกลับเข้าทำร้าย แต่เธอนั้นหนีมาได้จนถึงซุ้มสารภาพบาป ทว่านั่นเป็นแค่ภาพมายาของปิศาจก่อนที่สาวผมบลอนด์จะถูกตะครุบตัวจากด้านหลัง
The Mom – คุณแม่ของครอบครัวหนึ่งถูกบางสิ่งเข้าสิง ขณะที่คู่สามีภรรยาวอร์เรนมาถึงบ้าน แม่ก็หาย ไปจากห้องก่อนที่ไม้กางเขนในห้องจะค่อยๆ โดนบิดกลับหัวและลูกสาวถูกลากตัวไปจากสิ่งที่มองไม่เห็น
The Innocent Souls – กลุ่มเด็กชายหญิงเข้าไปในบ้านร้างแห่งหนึ่ง เด็กชายในกลุ่มตัดสินใจเดินสำรวจในบ้านเพื่อหาอุปกรณ์อย่างเทียน ก่อนที่เด็กคนนั้นจะพยายามจะจุดไฟแช็กทำให้มีร่างลึกลับปรากฎขึ้นมา สักพักหนึ่งเด็กชายคนแรกก็เจอตู้กับโต๊ะเก่าๆ ที่มีกระดานวีจา (Ouija ผีถ้วยแก้วฝรั่ง) และเจอร่างของเด็กหญิงเลือดกลบปากอยู่ แล้วเด็กชายอีกคนก็เดินมาสมทบ เด็กชายคนแรกเลยพยายามบอกว่าในบ้านนี้มีคนอื่นอยู่แน่ๆ ก่อนจะมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้าหาเด็กทั้งสอง
The Blund’s Lullaby – เด็กหญิงสองพี่น้องถูกบอกให้เข้ามาในบ้าน คนหนึ่งเจอหีบเพลงกล่อมเด็กวางอยู่ระหว่างทางเดินเลยหยิบเข้าห้องนอน และเพลงดังกล่าวได้นำสิ่งลึกลับมาประชิดเตียงของเธอ
แต่ยังไม่ปรากฎชัดว่า สุดท้ายแล้วตัวละครเหล่านี้จะได้ไปปรากฎตัวในหนังจอใหญ่หรือไม่
อ้างอิงข้อมูลจาก
Twitter: @ponysmasher (ทวิตเตอร์ของ David F. Sandberg ผู้กำกับภาพยนตร์ Annabelle: Creation)