เชื่อว่าผลงานวรรณกรรมเยาวชน มีหนึ่งบุคคลที่เป็นเบื้องหลังคนสำคัญที่ทำให้เราได้รู้จักการอ่านหนังสือดีๆ เธอคือ ‘ผุสดี นาวาวิจิต’ ผู้แปลวรรณกรรมเยาวชนชื่อดังหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะโตจัง เด็กหญิงอีดะ สมุดพกของคุณครู
เรื่องราววรรณกรรมเยาวชนญี่ปุ่นนี้เข้าไปครองใจใครหลายคน ด้วยเรื่องราวเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เนื้อหาที่อ่านแล้วไม่ว่าจะผ่านมุมมองของเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็ได้รับความคิดอะไรบางอย่างกลับไป ผสมผสานกับฝีมือการแปลของอาจารย์ผุสดี ยิ่งทำให้เรื่องราวนั้นยิ่งน่าจดจำ
เราเลยขอร่วมอาลัยกับการจากไปของอาจารย์ผุสดี ด้วยการสดุดีงานแปลของผู้หญิงคนนี้ และอยากชวนทุกคนกลับไปอ่านวรรณกรรมเยาวชนที่อาจารย์แปลไว้กันอีกครั้ง
โต๊ะโตะจัง โดย คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ
เรื่องราวของ โต๊ะโตะจัง ที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเดิมเพราะความซุกซน จนได้ไปพบกับโรงเรียนใหม่ที่ให้เด็กๆ เลือกเรียนตามความชอบของแต่ละคน จนเด็กในโรงเรียนนี้ได้พบความฝันของตัวเองและสามารถทำให้ฝันนั้นเป็นจริงได้เมื่อเติบใหญ่ หลังจากได้อ่าน หลายๆ คนก็คงวาดฝันภาพการศึกษาที่วันหนึ่งเด็กๆ ของเราจะได้เรียนรู้ผ่านระบบการศึกษาที่เข้าอกเข้าใจผู้เรียนบ้างเสียที
4 ปี นรกในเขมร โดย ยาสึโกะ นะอิโต
บันทึกของสตรีภริยานักการทูตที่เล่าเรื่องสงครามในประเทศกัมพูชา ซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมทำลายล้างชีวิตผู้คน โดยในช่วงนั้นกัมพูชาเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ขึ้น ภัยของสงครามทำให้เธอต้องสูญเสียทุกสิ่ง บันทึกนี้จึงเป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่เล่าเรื่องราวความโหดร้ายที่มนุษย์สามารถกระทำต่อกันได้
เปลือกหอยจากนางเงือก โดย นางาซากิ เก็นโนะสุเกะ
เรื่องของ ‘ซาจิโกะ’ ที่ขอแม่ไปบ้านยายที่คิวชูคนเดียวตอนปิดเทอมหน้าร้อนเพราะน้อยใจที่แม่ทำแต่งาน หลังจากพ่อเสียชีวิตไป โดยที่นั่นเธอได้พบเพื่อนใหม่มากมาย รวมไปถึงนางเงือกที่ได้ให้เปลือกหอยซากุระสีชมพูเป็นของขวัญ ซึ่งท้ายที่สุดเรื่องเล่านี้ก็พยายามจะบอกเราว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหน
เด็กหญิงน็อนจัง โดย มัตสุทานิ มิโยโกะ
‘น็อนจัง’ เด็กหญิงที่ย้ายจากเมืองหลวงโตเกียวมาอยู่ที่ชนบทกับพ่อ และได้พบ ค็อง ลูกสุนับจิ้งจอกที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ทั้งคู่ได้พบกันและร่วมกันปลูกเมล็ดพันธ์ที่มาพร้อมลูกโป่งสีแดง ก่อนที่มิตรภาพของทั้งคู่จะเติบโตตามไปด้วย และเป็นการช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน และเรียนรู้โลกไปด้วยกัน
โมโมจัง โดย มัตสุทานิ มิโยโกะ
เรื่องเล่าผ่านสายตาของ ‘โมโมจัง’ กับเจ้าเหมียว ‘คู’ ที่หลังจากโตได้หนึ่งขวบ แม่ก็พาเธอไปฝากยังสถานรับเลี้ยงเด็กเพราะต้องไปทำงาน โมโมจังเลยร้องหาที่บ้าน และคูก็เป็นคนรับสาย และพาโมโมจังกลับบ้าน เรื่องนี้ทำให้เราเรียนรู้ความรู้สึกของเด็กก่อนวัยเรียนที่เมื่อเราโตขึ้นก็อาจจะหลงลืมไป และพาเราย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
เด็กหญิงอีดะ โดย มัตสุทานิ มิโยโกะ
เรื่องราวของพี่ชายกับน้องสาว นาโอกิ และ ยูโกะ ที่แม่พาไปฝากไว้กับตายาย เพราะต้องย้ายไปทำงานอีกเมืองหนึ่ง วันหนึ่งระหว่างสำรวจแถวหมู่บ้าน เด็กชายได้ยินเสียงแปลกประหลาดจากเก้าอี้ตัวหนึ่ง ซึ่งต่อมาก็พบว่าน้องสาวของเขาคุ้นเคยกับเก้าอี้และพูดคุยกันสนิทสนม ซึ่งความสนิทสนมนี้ก็เกิดจากการที่เก้าอี้เข้าใจว่ายูโกะ คือ ‘อีดะ’ เจ้าของที่มันรอคอยนั่นเอง ซึ่งเรื่องราวนี้เชื่อมโยงไปยังเหตุระเบิดฮิโรชิมา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยเรื่องที่น่าติดตาม สนุกสนาน แต่ก็ถ่ายทอดความเจ็บปวดของคนยุคสงคราม ทำให้เป็นอีกเรื่องในใจหลายคน
สมุดพกคุณครู มิยาคาวะ ฮิโระ
เรื่องเล่าของ ‘ครูฟุรุยะ’ ครูประจำชั้นของเด็กๆ ที่ก็ต้องมาแก้ปัญหากับการที่เด็กๆ ไม่ชอบกินของบางอย่างที่ใส่มาในอาหารกลางวันของโรงเรียน ซึ่งเรื่องราวก็พาเราไปทำความรู้จักแง่มุมต่างๆ ของครูคนนี้และพาเราไปเรียนรู้ว่า แม้การเป็นผู้ใหญ่ หรือกระทั่งความเป็น ‘ครู’ ก็มีสิ่งที่พลาด หรือผิดได้ เพราะพวกเขาก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
สมุดพกของแม่ มิยาคาวะ ฮิโระ
เรื่องเล่าของความสัมพันธ์ มิตรภาพ ของ ‘ชิบะ ยูโกะ’ นักเรียนชั้น ป.3 กับเพื่อนๆ ครู และแม่ ซึ่งต้องการให้เรามองเห็นและเข้าใจความเป็นมนุษย์ของคนในหลากหลายรูปแบบ ผ่านการเล่าเรื่องที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
บันทึกของผม โดย โออิชิ มาโคโตะ
เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่เขียนบันทึกให้คะแนนครูคนใหม่ที่ทำงานสอน ซึ่งเรื่องราวเรียบง่ายนี้ทำให้เราเหมือนได้ร่วมย้อนวัยไปเจอเหตุการณ์หรือความรู้สึกสมัยเรายังเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่ก็มีชอบไม่ชอบ ไม่เข้าใจต่อการตัดสินใจต่างๆ ของผู้ใหญ่ จนกว่าเราจะได้มาเป็นผู้ใหญ่เสียเอง
เพื่อนคนใหม่ โดย นางาซากิ เก็นโนะสุเกะ
เมื่อ ‘มาซารุ’ และ ‘ยุกะ’ เด็กป.4 สองคนตั้งใจจะแต่งงานและไปฮันนีมูนกัน และได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆ โดยทั้งคู่ออกเดินทาง เจอวิวสวยงาม แม้หนทางจะขรุขระบ้าง ก่อนทั้งคู่จะค่อยๆ เติบโตผ่านการเดินทางนี้ และมองเห็นคุณค่าในตัวของกันและกัน
สยองขวัญ ของ เอโดงาวะ รัมโป
เล่มแถมที่เราชวนอ่าน จริงๆ งานของ เอโดงาวะ รัมโป ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในวงกว้างอยู่แล้ว แต่เมื่อผสานเข้ากับฝีมืองานแปลของอาจารย์ผุสดี ก็ยิ่งทำให้เรื่องเข้มข้น และน่าอ่านมากยิ่งขึ้น โดยเล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นสยองขวัญปนความตลกร้าย ซึ่งลึกๆ แล้วก็ได้ทำให้เห็นปรัชญาบางอย่างในเรื่องเล่าด้วย