ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรื่องราวการต่อสู้ทางกฎหมายก็ถูกถ่ายทอดออกมาในสื่อบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแอบสอดแทรกเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่าผู้ใช้กฎหมายเอง และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาในวงการซีรีส์เกาหลี เรื่องราวของผู้ใช้กฎหมายก็ถูกหยิบยกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อพูดถึงซีรีส์กฎหมาย ตัวละครอย่างทนาย อัยการ ผู้พิพากษา คือเหล่าผู้รักษากฎหมายที่ถูกนำมาเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องราวเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของพระเอก นางเอก หรือตัวร้าย ซีรีส์เหล่านี้มักนำเสนอผ่านมุมมองของผู้ที่ต้องยึดมั่นในความถูกต้องและความยุติธรรม ซึ่งจะทำให้เราเห็นกระบวนการทำงาน วิธีการคิด รวมถึงมุมมองของตัวละครต่างๆ ในเรื่อง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะสอดแทรกความเป็นมนุษย์ของตัวละครเหล่านั้นด้วย
วันนี้ The MATTER เลยอยากชวนมาดูซีรีส์เกี่ยวกับกฎหมายของเกาหลีที่ถูกเล่าจากมุมมองต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกระบวนการทำงานของผู้รักษากฎหมาย
Stranger (2017)
Stranger จะเล่าถึงการสืบคดีการเสียชีวิตของ ‘พัคมูซอง’ อดีตประธานบริษัทที่ล้มละลายไปแล้ว โดยที่สาเหตุการตายของมูซองนั้น เชื่อมโยงไปถึงการรับสินบนภายในสำนักอัยการและสำนักงานตำรวจ ซึ่งจะดำเนินเรื่องผ่าน ‘ฮวังชีมก’ รับบทโดย โชซึงอู (Cho seung woo) อัยการหนุ่มไร้ความรู้สึก เพราะความบกพร่องด้านอารมณ์และความรู้สึก ที่เป็นผลกระทบมาจากการผ่าตัดเพื่อรักษาความผิดปกติของสมองและการได้ยินในสมัยเด็ก จับคู่สืบสวนกับตำรวจหญิงเจ้าของคดีอย่าง ‘ฮันยอจิน’ รับบทโดย แบดูนา (Bae Doo Na) โดยที่ทั้ง 2 คนต้องร่วมมือกันสืบคดี ไปพร้อมๆ กับที่ต้องระวังเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยไปด้วย
ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยการสืบสวนคดีฆาตกรรม อำนาจเงินและการทุจริตที่อยู่เบื้องหลังสำนักงานอัยการ การชิงไหวชิงพริบระหว่างตัวละครต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทในการวางปมของเรื่อง และจุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือการที่ถูกดำเนินเรื่องด้วยตัวเอกที่เป็นบุคคล ‘ไร้ความรู้สึก’ จึงทำให้การกระทำส่วนมากจะเป็นไปตามสิ่งที่เจ้าตัวเห็นว่าถูกต้องและเหมาะสม โดยปราศจากการใส่อารมณ์ร่วมเข้าไปด้วย ซึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างแตกต่างจากซีรีส์สืบสวนเรื่องอื่นไปบ้าง
Pride and Prejudice (2014)
Pride and Prejudice เป็นเรื่องของทีมอัยการหนุ่มสาว ที่เข้าไปรับผิดชอบคดีของผู้คนที่ไม่มีอำนาจ ไม่มีเงิน และโดนกดขี่ข่มเหงอย่างไม่ความยุติธรรม รวมถึงต้องต่อสู้กับอุปสรรค์ที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้มีอำนาจอีกด้วย ผ่านกลุ่มอัยการที่ประกอบไปด้วย ‘คูดงชิ’ รับบทโดย ชเวจินฮยอก (Choi Jin hyuk) อัยการอันดับหนึ่งแสนเย็นชา ‘ฮันยอลมู’ รับบทโดย แบคจินฮี (Baek Jin hee) อัยการฝึกหัดที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ร่วมด้วยหัวหน้่าอย่าง ‘มุนฮีมัน’ และชายว่างงานอย่าง ‘จองชางกี’
ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากการช่วยเหลือคดีให้ผู้คนอื่นๆ แล้ว เรื่องราวยังจะนำไปสู่เงื่อนงำของคดีใหญ่ ที่ถูกปกปิดด้วยฝีมือของผู้มีอำนาจ และนี่แหละคือความน่าสนใจของเรื่องนี้
Lawless Lawyer (2018)
Lawless Lawyer เรื่องของการต่อสู้โดยใช้ทั้งฝีปากและฝีไม้ลายมือในการเอาชนะผู้มีอิทธิพลในแวดวงกฎหมายของ ‘บงซังพิล’ รับบทโดย ลีจุนกิ (Lee Jun Ki) ทนายหนุ่มที่ใช้ทั้งทักษะการต่อสู้และทักษะทางกฎหมาย (ช่องโหว่ของกฎหมาย) ในการเอาชนะคดี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในทนายความที่มีอัตราการชนะคดีสูงสุด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นการต่อสู้เพื่อที่จะแก้แค้นและเปิดโปงการกระทำของผู้มีอิทธิพลในเมืองที่ได้ทำให้แม่ของเขาต้องตาย
ซีรีส์เรื่องนี้ใช้การทำคดีย่อยๆ เพื่อหาหลักฐาน หรือข้อมูลที่จะนำไปสู่การเปิดโปงความจริงที่อยู่เบื้องหลังข้อผู้มีอิทธิพลในเมือง แต่สิ่งที่ทำให้แต่งต่างและน่าสนใจคือ ความแสบสันของบงซังพิล ที่ก็ไม่ใช่ทนายความแสนดีอะไร เพราะเขาใช้ทั้งลูกล่อลูกชน เล่ห์เหลี่ยม และความเป็นนักเลงที่พร้อมปะทะกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบหมัดต่อหมัด
Judge vs. Judge (2017)
Judge vs. Judge เป็นเรื่องราวการสืบสวน เชื่อมโยง และขุดคุ้ยถึงเงื่อนงำของคดีข่มขืนฆ่าเมื่อ 10 ปีก่อน เพื่อพิสูจน์และคืนความบริสุทธิ์ให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา และตามหาคนร้ายตัวจริงของคดี ไปพร้อมๆ กับการเล่าเรื่องราวการฟาดฟันในชั้นศาล หรือการเล่าการทำงานของผู้พิพากษาในส่วนต่างๆ อีกทั้งยังสอดแทรกเรื่องราวของความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย โดยซีรีส์ได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ผ่าน ‘อีจองจู’ รับบทโดย ปาร์คอึนบิน (Park Eun Bin) ผู้พิพากษาสาวเลือดร้อน ที่พี่ชายถูกตัดสินว่าเป็นฆาตกรรมในคดีข่มขืนฆ่าเมื่อ 10 ปีก่อน
ซีรีส์เรื่องนี้เน้นไปที่การสืบหาความจริงในคดีเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ก็ไม่ได้เน้นไปที่ตัวคดีอย่างเดียวมีคดีอื่นๆ คอยแทรกให้เราได้เห็นการทำงานของ ‘ผู้พิพากษา’ ด้วย นับเป็นจุดที่น่าสนใจ ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากซีรีส์สืบสวน-สอบสวน เกี่ยวกับกฎหมายเรื่องก่อนๆ ที่มักจะดำเนินเรื่องผ่านตัวละครที่เป็นทนาย หรืออัยการ
Witch’s Court (2017)
Witch’s Court เป็นเรื่องของอัยการสาว ‘มาอีดึม’ รับบทโดย จองรยอวอน (Jung Ryeo Won) อัยการสายสุดโต่งที่ทำได้ทุกวิธีเพื่อที่จะสามารถชนะคดีที่เธอรับผิดชอบได้ จนวันหนึ่งถูกย้าย ‘แผนกดูแลด้านคดีอาชญากรรมสตรี’ ซึ่งดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้ได้ร่วมงานกับ ‘ยอจินอุค’ รับบทโดย ยุนฮยอนมิน (Yoon Hyun Min) อดีตจิตแพทย์ที่เลือกมาเป็นอัยการ เพราะผิดหวังที่ครั้งหนึ่งไม่สามารถช่วยเหลือเหยื่อจากการล่วงละเมิดได้สำเร็จ
จุดที่น่าสนใจของเรื่องนี้คือตัวคดีที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศ โดยจะเล่าถึงคดีการล่วงละเมิดทางเพศที่มีเหยื่อหลากหลายเคส และก็ไม่ได้มีเพียงการที่ผู้หญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศเท่านั้น ซีรีส์เรื่องนี้ยังครอบคลุมไปถึงการที่ผู้ชายถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย
Whisper (2017)
Whisper คือเรื่องราวของการปะทะกันด้วยกฎหมายและอิทธิพล เมื่อ ‘อีดงจุน’ รับบทโดย ลีซังยุน (Lee Sang Yoon) ผู้พิพากษาที่ใครต่อใครก็บอกว่ามีความยุติธรรมและไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร ได้พ่ายแพ้ต่อแรงกดดันจากผู้มีอิทธิพลอย่างเจ้าของสำนักทนายความระดับประเทศ เลยต้องตัดสินให้นักข่าวคนหนึ่งต้องมีความผิดฐานฆาตกรรมเพื่อนตัวเองทั้งที่ไม่ใช่ความจริง ทำให้ ‘ชินยองจู’ รับบทโดย ลีโบยอง (Lee Bo Young) ลูกสาวของนักข่าวคนนั้นต้องการแก้แค้นและคืนความยุติธรรมให้แก่พ่อ จึงต้องเข้าหาดงจุน เพื่อจัดการผู้ที่อยู่เบื้อหลังและนำตัวคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ เพื่อล้างมลทินให้พ่อ
สิ่งที่ทำให้ลุ้นไปกับซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่การสืบหาคนร้ายตัวจริง แต่เป็นการคอยลุ้นว่าจะทำยังไงเพื่อให้คนร้ายคนนั้นได้รับโทษต่างหา นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างไปจากเรื่องอื่น เพราะเนื้อเรื่องได้บอกมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าใครเป็นคนร้าย แต่เมื่อเรารู้แล้วว่าใครเป็นคนร้าย เราจะจัดการกับคนคนนั้นอย่างไรจึงน่าสนใจกว่า
Innocent Defendant (2017)
Innocent Defendant คือเรื่องของการสืบหาความจริงจากความจำกว่า 4 เดือนที่หายไป เมื่อ ‘ปาร์คจองอู’ รับบทโดย จีซอง (Ji Sung) อัยการนิสัยดี ยึดมั่นในความจริง ตื่นขึ้นมาในเรือนจำพร้อมความทรงจำสุดท้ายคือวันเกิดลูกสาว ได้รู้ว่าตัวเองถูกจำคุกในข้อหาฆาตกรรมลูกเมียตัวเอง เขาจึงต้องเอาตัวรอดในคุกที่โดนกลั่นแกล้งจากอิทธิพลและเส้นสายของตัวร้าย แถมยังต้องสืบหาความจริงเพื่อให้พ้นผิด โดยเขาก็ได้รับความร่วมมือ เพื่อช่วยสืบหาความจริงจากนอกคุกจาก ‘ซออึนเฮ’ รับบทโดย ควอนยูริ (Kwon Yu Ri) ทนายสาวที่ไม่เคยชนะคดีเลย
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เราก็พอจะเดาได้ (คือตัวร้าย ก็ร้ายแบบดูรู้) เลยกลายเป็นว่าจุดสนใจของเราถูกย้ายไปที่ ต้นตอของปัญหา สิ่งที่เกิดขึ้น วิธีการแก้ไข และวิธีการจัดการกับตัวร้ายของเรื่องมากกว่ามาหาว่าใครเป็นคนร้ายตัวจริง