กุญแจ ผู้กุมอำนาจแห่งดวงดาวเอ๋ย
จงเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าต่อหน้าเราเถิด
ด้วยพันธสัญญาที่มี ซากุระ ขอบัญชา รีลีส
ประโยคยาวยืดข้างต้นอาจไม่ใช่คำที่เด็กยุค 90s เอามาพูดกันในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนจนฮิต เหมือน “พลังคลื่นเต่า” หรือ “ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง” แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็คุ้นหน้าคุ้นตาและจดจำเรื่องราวของสาวน้อยผู้ตามจับไพ่เวทมนตร์ อย่างเรื่องการ์ดแคปเตอร์ซากุระ หรือซากุระมือปราบไพ่ทาโรต์กันเป็นอย่างดี

ภาพจาก : Vibulkij.com
อ้าว แล้วจะมาระลึกความหลังอะไรกันตอนนี้ ? มันก็มีเหตุเล็กน้อยครับ เพราะปี 2018 นี้ซากุระได้กลับมาบนจอทีวีอีกครั้ง กับภาคใหม่ที่ใช้ชื่อว่า ‘การ์ดแคปเตอร์ซากุระ เคลียร์การ์ด’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการฉลองครบรอบวัย 20 ปี ของหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ ที่เลตมานิดนึง (หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้พิมพ์ครั้งแรกในปี 1996) แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังเชื่อว่าหลายๆ คนก็รอรับชม และรอซื้อของจากการ์ตูนเรื่องนี้กันอยู่เป็นแน่
กอปรกับว่า ซากุระ ภาคแรกและภาคสองนั้นเว้นวรรคว่างถึง 16 ปี แต่ในเรื่องกลับทำเนียนๆ เหมือนว่าเวลาผ่านไปไม่นานนัก จึงทำให้ในโลกจริงๆ กับภาคต่อของเรื่องนั้นมีความแตกต่างกันจนเราสังเกตได้ จึงขอใช้โอกาสนี้มาบอกเล่าให้ฟังกันครับว่า มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงแล้วเกี่ยวข้องกับ การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาคเคลียร์การ์ด บ้าง
*หมายเหตุ 1 : มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องผลงานการ์ตูนของ CLAMP
*หมายเหตุ 2 : เนื้อหาในบทความนี้เราอ้างอิงเนื้อเรื่องของฉบับหนังสือการ์ตูนเป็นหลัก
*หมายเหตุ 3 : เราไม่ได้รับเงินจากผู้ถือลิขสิทธิ์เจ้าใดมา ทั้งหมดนี้แล้วล้วนเกิดจากความติ่งในตัว
เวลาเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน
ต่อให้ในการ์ตูนจะบอกว่า ภาคแรกกับภาคสองใช้เวลาไม่นานนัก (เนื้อหาในเล่มสุดท้ายของภาคแรกและเนื้อหาในตอนแรกของภาคใหม่นี่ต่อกันเลย) แต่ก็อย่างที่บอกล่ะครับ เวลาจริงมันผ่านไปตั้ง 15-16 ปี ก็ต้องส่งผลกระทบอะไรบางอย่างให้กับการ์ตูนบ้าง ที่ชัดๆ ก็เรื่องของใช้ประจำวันอย่างโทรศัพท์มือถือนี่แหละ ที่ในเล่มจบของภาคแรก ซากุระยังใช้โทรศัพท์มือถือแบบพับ แต่พอมาภาคเคลียร์การ์ด ซากุระย้ายไปใช้สมาร์ทโฟนเลื่อนจอกันแล้ว
อย่างที่สองเป็นสิ่งที่ทำให้เราสัมผัสถึงวัยที่ผ่านเลยก็คือ เครื่องเกมของเคโระจัง หรือเคลเบรอส อสูรพิทักษ์เพื่อนของซากุระ ภาคแรกเคโระจังยังเล่นเครื่องเกมเสียบตลับอยู่ พอมาตอนนี้เขาเล่นเกมที่มีจอยอนาล็อก และเล่นเกมออนไลน์ได้ แถมยังใช้สไกป์ได้อีกต่างหาก
อีกอย่างที่หน้าตาอาจเปลี่ยนไปไม่มากแต่ก็สะท้อนถึงความทันสมัย นั่นคือกล้องถ่ายวิดีโอของโทโมโยะจัง เพื่อนสนิทคนสำคัญของซากุระ ที่แม้จะดูลักษณะใกล้เคียงเดิมแต่มีศักยภาพมากขึ้นถึงจุดที่สามารถกันน้ำที่ถล่มลงมาใส่กล้องได้ง่ายๆ แต่ส่วนที่ไม่เปลี่ยนเลยก็คือโทโมโยะ ยังคงโปรโมตบริษัทของเล่นไดโดจิที่พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เหมือนเดิม
ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยในเชิงรายละเอียด

คู่นี้ก็ยังคบหากันอยู่เช่นเดิม และมีความเปิดเผยมากขึ้นในบทสนทนาแล้ว
จริงๆ เราอยากบอกตั้งแต่ด้านบนแล้วล่ะ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการ์ตูนเฉพาะสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงเท่านั้น อย่างในภาคแรกก็ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าความรักมีหลากหลายรูปแบบ และ Ohkawa Nanase ผู้แต่งเรื่องของกลุ่ม CLAMP (กลุ่มนักวาดการ์ตูนของญี่ปุ่น) เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหลายๆ ตัวละครใน ซากุระ ภาคแรก ว่าเป็นความตั้งใจของเธอที่จะนำเสนอความหลากหลายด้านความสัมพันธ์ และเนื่องจากแนวเรื่องนั้นส่วนใหญ่นำเสนอให้เด็กอ่าน Ohkawa จึงเลือกที่จะนำเสนอในแบบที่ค่อนข้างนุ่มนวลแต่ยังคงความเป็น Non-Binary ได้อย่างเต็มไม้เต็มมือ ในเรื่องนำเสนอเนื้อหาความรักของคนสองคนที่ตกหลุมรักกันโดยไม่มีสภาพภายนอกมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเชื้อชาติ (ตามเรื่อง เชารัน เป็นคนจีน-ฮ่องกง) หรือ เพศสภาพ (อย่างตัวละครของ โทยะ กับ ยูกิโตะ ที่เป็นผู้ชายทั้งคู่) แต่อย่างใด และให้ตัวละครหลักอย่าง ซากุระ เคารพตัวตนของแต่ละบุคคลในการชอบใครก็ตามที (ในเรื่อง ซากุระ ไม่เคยมอง เชารันว่าผิดเพศตอนที่เขาชอบผู้ชายคนเดียวกับเธอ หรือ ในช่วงหลังที่ตัวละครอายุห่างกันตกหลุมรักกัน ซากุระก็ไม่ได้มองว่าเป็นความไม่เหมาะสม)
ในบทสัมภาษณ์ข้างต้น Ohkawa ยังพูดไปไกลถึงระดับที่ว่าต่อให้เชารันไม่ใช่ผู้ชาย ซากุระก็ยังเลือกที่จะเป็นคนรักของเขาจากการกระทำที่ผ่านมา ส่วนทางด้านโทโมโยะ ที่หลงรักซากุระในเชิงชู้สาว ก็ยอมรับและเข้าใจว่าซากุระรักเธอในฐานะเพื่อนสนิท ซึ่งเธอเองก็ยินดีกับการอยู่ในสถานะเพื่อนเช่นกัน เรียกได้ว่าทุกคนต่างเคารพสิทธิ์กันและกันอย่างไม่น่าเชื่อแต่ก็มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้คนอ่านคล้อยตามได้

โตแล้วกระโดดกอด!
ในภาคเคลียร์การ์ด ความสัมพันธ์ที่กล่าวถึงนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ตัวละครทั้งหมดยังคนสานต่อความสัมพันธ์ที่ก่อตัวไว้ในภาคแรก ส่วนที่เพิ่มเติมคงเป็นการแสดงออกของการคบหากันในฐานะคนรักแบบชัดเจนขึ้น อย่างฉากกุ๊กกิ๊กของซากุระกับเชารัน ที่มีมากขึ้นตามวัยเด็กม. ต้น ส่วนฝั่งโทยะกับยูกิโตะ ก็แสดงออกในฐานะคนรู้ใจกันชัดกว่าภาคก่อน
ด้วยความที่ CLAMP เปิดกว้างด้านความรักมาโดยตลอด ทำให้ในใจของเราแอบคาดหวังอยู่เล็กๆ ว่าทาง CLAMP จะปรับเนื้อหาบางส่วนให้คนอ่านกลุ่มเดิมที่ตอนนี้อายุเพิ่มขึ้นแล้วได้ฟินมากกว่าภาคแรก
ซากุระ ไม่ได้ crossover บ่อยขนาดนั้นหรอก
เรื่องนี้ชวนมึนกันนิดนึง เนื่องจากทาง CLAMP เคยเขียนเรื่อง Tsubasa Reservoir Chronicle หรือ สงครามเทพข้ามมิติ ที่จับเอาตัวละครให้เดินทางไปยังโลกหลายๆ แห่ง โดยใช้ตัวละครแทบทุกเรื่องของ CLAMP มาหมุนเวียนกัน ซึ่งบางตัวก็จะมาพร้อมกับนิสัยใกล้เคียงกับงานต้นฉบับ แถมพระเอกนางเอกของเรื่องก็ยังชื่อ ‘ซากุระ” กับ ‘เชาหลัน’ ด้วย กระนั้นส่วนใหญ่ในการ์ตูนเรื่อง Tsubasa เป็นการดึงเอาระบบตัวละครของอาจารย์เทะสึกะ โอซามุ ที่ใช้หน้าตาตัวละคร และชื่อใกล้เคียงเดิมมาผสมกับระบบพหุภพ (multiverse)

โคลว รี้ด ตัวละครที่ข้ามพหุภพบ่อยที่สุดตัวจริงของฝั่ง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ
เอาเข้าจริงแล้วตัวละครจากฝั่งการ์ดแคปเตอร์ซากุระไม่ได้ข้ามเรื่องไปมากมายขนาดนั้นครับ ที่จะปรากฎตัวข้ามเรื่องจริงๆ ก็จะมีตัวของ ‘โคลว รี้ด’ ที่ข้ามไปมีบทบาททั้งใน Tsubasa Reservoir Chronicle, xxxHolic และมีการพูดถึง Magic Knight Rayearth แบบนิดหน่อย โทษฐานที่ดันเป็น ‘พ่อมดที่มีพลังมากที่สุดในโลก’ จึงกลายเป็นตัวละครปมหลักได้ซะอย่างนั้น
อีกคู่คือโทยะกับยูกิโตะ ก็ได้ไปโชว์แผ่นหลังสวยๆ ใน Tsubasa เช่นกัน แต่ส่วนนี้ก็มีคนเคยทักท้วงว่าชายหนุ่มสองคนนี้อาจไม่ได้มาจากโลกของการ์ดแคปเตอร์ซากุระ แต่เป็นเพียงตัวละครในโลกพหุภพอื่นมากกว่า
ตัวเอกอย่างซากุระ ที่รับตำแหน่ง ‘ผู้มีพลังเวทเหนือกว่า โคลว รี้ด’ ก็ได้โชว์ตัวกันเล็กๆ น้อยๆ โดยตัวคทารูปดาว ที่เธอใช้ในการ์ดแคปเตอร์ซากุระภาคแรก ได้ไปปรากฏโฉมใน xxxHolic นิดหน่อย ก่อนที่ตัวของเธอจะไปรับเชิญใน Tsubasa แบบเต็มๆ แถมยังเป็นตัวละครที่ลักษณะแก่กว่าในภาคใหม่ด้วย ซึ่งมันน่าจะเฉลยปมบางอย่างที่ยังค้างคาในฝั่ง xxxHolic กับ Tsubasa ในช่วงท้ายของภาคเคลียร์การ์ดที่กำลังเดินเรื่องอยู่
สิ่งของทั้งหลาย กำลังจะมาทำร้ายพวกคุณ!

ภาพจาก : wowjapan.asia
ตอนเด็กๆ เราอาจจะไม่เฮิร์ตเรื่องนี้มาก ขั้นต่ำก็แค่เก็บหนังสือการ์ตูน แล้วก็ตามเก็บแผ่นอนิเมชั่นให้ครบ เจ็บหนักหน่อยก็ตามเก็บการ์ดจำลองที่จัดพิมพ์ขึ้นมา (เคยมีหมอดูคนหนึ่งเอามาใช้ สอนเปิดชะตาชีวิต แล้วทำเซ็ตละเมิดลิขสิทธิ์ออกขายอีกทีด้วย)

ภาพจาก : goodsmile.info
ซากุระภาคใหม่นี้ดูเหมือนทางทีมสร้างทั้งฝั่งหนังสือการ์ตูน และบริษัทผลิตอนิเมชั่นกับของเล่นจะรู้ว่า แฟนๆ ของการ์ตูนเรื่องนี้มีอยู่ทั่วโลก พวกเขาจึงออกสินค้ามามากมายตามวิสัยที่เชื่อว่ามันจะต้องมีสินค้าสักชิ้นที่โดนใจแฟนๆ แน่นอน ทั้งฟิกเกอร์ลายอลังการ, ลิปบาล์มคทาเวทมนตร์, ตุ๊กตาจากตัวละครในเรื่อง, คทาขนาดเท่าของจริง ฯลฯ
นี่ขนาดเนื้อเรื่องยังอยู่ช่วงต้นๆ นะ ถ้าการ์ตูนจบภาคแล้วคงมีอะไรออกมาขายเพิ่ม (อย่าง การ์ดชุดใหม่แบบครบทุกใบ) หรือมีคนเอาของออกมาขายต่อเป็นแน่ โลกทุนนิยมนี่มันโหดร้ายจริงๆ!
เก็บสไตล์เรื่องเก่า เพิ่มเติมปัจจัยใหม่
เวลาอาจทำให้อะไรต่อมิอะไรในการ์ดแคปเตอร์ซากุระเปลี่ยนไปบ้าง แต่ในภาคนี้ก็ยังมีจุดที่ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่เช่นกันครับ
อย่างแรกคือพล็อตหลักของเรื่องที่ยังคงตามหาการ์ดอยู่ดี ส่วนการเดินเรื่องของทาง CLAMP ยังมีความลับอมพะนำเอาไว้อีกมากตามสูตรของกลุ่มนักเขียนสาว ถ้าข้ามไปฝั่งอนิเมะแล้วนักพากย์(ญี่ปุ่น) ที่พากย์ตัวละครหลักก็ยังเป็นทีมเดิมกับภาคแรก
นอกจาก element เก่าๆ ที่ยังอยู่เช่นเดิม แต่ก็มีปัจจัยใหม่เพิ่มเติมเข้ามาด้วย อันที่ชัดเจนก็คือการ์ดชุดใหม่กับคทาใหม่ การโยกย้ายตัวละครเก่าที่เคยร่วมชั้นเรียนกับซากุระออกไป แล้วเพิ่มตัวละครใหม่ที่มีกลิ่นอายต่างกับตัวละครเซ็ตเดิมเข้ามา
และอย่างสุดท้ายก็คือคาถาใหม่ของซากุระ ที่คนดูแบบพวกเราคงต้องหัดท่องแทนคาถาเก่าที่ใช้ผนึกการ์ดใบใหม่ไม่ได้ตามประโยคด้านล่างนี้
“ผู้ไร้นายเอ๋ย จงมาสู่คทาแห่งความฝัน เพื่อเป็นพลังให้กับเรา ซีเคียว”
อ้างอิง
minimore.com