วงการคริปโตเคอร์เรนซีคลืบคลานเข้าสู่ภาคการเงินดั้งเดิมมากขึ้น ล่าสุด ‘VISA’ ผู้ให้บริการรับชำระเงินเจ้าใหญ่ระดับโลก ประกาศจัดตั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาด้านสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าของตัวเองที่อยากจะเข้าวงการสกุลเงินดิจิทัลมีความมั่นใจมากขึ้น โดยหน่วยงานใหม่นี้จะอยู่ในแผนกที่ปรึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท
หน้าที่หลักจะให้คำปรึกษาด้านการชำระเงินเป็นคริปโตฯ ให้กับองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะสถาบันการเงิน บริษัทค้าปลีก และบริษัทที่อยากจะเริ่มรับชำระเป็นคริปโตฯ โดย VISA เปิดเผยชื่อลูกค้าที่เข้ามารับการปรึกษาเกี่ยวกับการรับชำระเป็นคริปโตฯ แล้ว เช่น ธนาคาร UMB
ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก VISA ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทผู้ให้บริการรับชำระเงิน ในการก้าวขาสู่โลกสกุลเงินดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้ 1 ตุลาคม ค.ศ.2020 – 30 กันยายน ค.ศ.2021 ทาง นิโคลา พลีคาส (Nikola Plecas) ตัวแทนจาก VISA ซึ่งดูแลทางด้านคริปโตฯ โดยเฉพาะ ได้เผยให้บริการธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ไปแล้ว 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านบัตรที่ผูกกับ exchange คริปโตฯ ได้
“หลายแพลตฟอร์มเทรดคริปโตฯ ที่เป็นแพลตฟอร์มผู้นำของโลก มีลูกค้าหลายสิบล้านคนทั่วโลก” พลีคาส บอกกับ CNBC “ซึ่งตอนนี้บัตร VISA อนุญาตให้ผู้ถือ ชำระเงินเป็นคริปโตฯ ได้กับ 80 ล้านร้านค้าทั่วโลก”
ทั้งนี้ VISA คาดหวังว่า แผนกให้คำปรึกษาคริปโตฯ นี้จะช่วยให้การเงินกระแสหลัก ยอมรับบิตคอยน์ และเหรียญสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ มากขึ้น
“คริปโตฯ คือโอกาสใหญ่ของ VISA เราจะยังมุ่งหน้าโฟกัสธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นในอนาคตเรื่อยๆ” พลีคาสกล่าว
นอกจากความเคลื่อนไหวการตั้งแผนกล่าสุด VISA ยังให้ความสนใจกับเหรียญ stablecoin หรือที่รู้จักกันในชื่อเหรียญคงมูลค่า (เหรียญที่ผูกกับสกุลเงินหลักของโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ ยูโร) อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งคนสำคัญของ VISA อย่าง Mastercard เอง ก็กำลังให้ความสนใจกับตลาดคริปโตฯ ไม่ต่างกัน โดยก็มีแผนงานที่จะขยายธุรกิจสู่โลกคริปโตฯ ด้วย นอกเหนือจากบริการรับชำระเงินที่ทำอยู่ปัจจุบัน
คริปโตฯ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ และได้รับการยอมรับจากเอกชนมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐทั่วโลกเองก็จับตาใกล้ชิด งานศึกษาล่าสุดจาก VISA เกี่ยวกับตลาดคริปโตฯ ระบุว่า 94% ของคนทั่วโลก (จากการสำรวจ 6,000 คน) ให้ความสนใจเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่ 1 ใน 3 ของคนที่สำรวจมองว่า คริปโตฯ คือการลงทุน และตัวกลางในการชำระเงิน
อ้างอิงข้อมูลจาก