เริ่มเกมรักมากได้สักพัก เราต่างคิดว่าผ่านพ้นช่วงสุดเหวี่ยงของรถไฟเหาะขบวนนี้ไปแล้ว แต่เมื่ออิ่มเอมกับท่าแนบชิดที่ได้หันหน้าเข้าหากัน พลันเปลี่ยนเป็นท่าโอบรัดจากด้านหลัง ราวกับได้รีเซ็ตเกมรักใหม่ เหมือนรถไฟเหาะขบวนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงพีคอีกครั้ง และเหมือนจะพีคขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทำไมกันนะ พอเป็นท่านี้ความวาบหวามกลับทวีคูณขึ้นมาได้ขนาดนี้
ไม่ว่าเราจะเปิดเกมรักมาด้วยท่าไหน พอถึงจังหวะอิ่มตัวกับท่าเดิม อยากจะบูสต์ๆ เอเนอจี้ๆ ก็ต้องอาศัยการเปลี่ยนท่านี่แหละ มาช่วยเติมสีสันให้เกมรักกลับมาสนุกอีกครั้ง แล้วลองทายดูสิว่าท่าไหนที่ใครๆ ก็ต้องนึกถึง เมื่ออยากเปลี่ยนรสชาติขึ้นมา แน่นอนว่า ‘Doggy Style’ มักโผล่มาเป็นอันดับแรกๆ ได้แต้มทั้งความใกล้ชิด เปลี่ยนมุมจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ท่านี้จึงมักสอดแทรกอยู่ในเกมรักของทุกคู่อยู่เสมอ จนได้รับการโหวตจาก ‘The Global Sex Index’ ว่าเป็นท่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก ตามมาด้วยท่าเบสิกอย่าง Missionary และจบอันดับสามด้วย Cowgirl หรือท่า On Top
แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่ยังไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ ลองนึกภาพไปพร้อมกันว่า ท่านี้คือท่าที่ฝ่ายหนึ่งจะหมอบลง แต่เข่าและมือยังยันให้ลำตัวยกขึ้นไว้ หรือว่าง่ายๆก็เหมือนคลานสี่ขานั่นแหละ แล้วอีกฝ่ายจะสอดใส่จากด้านหลัง โดยอาจอยู่ในท่าคุกเข่าหรือยืนก็ได้ โดยท่านี้เนี่ย มันดันไปเหมือนกับท่าผสมพันธุ์ของสุนัข เลยได้ชื่อเล่นว่า Doggy Style แม้สัตว์ส่วนใหญ่จะทำท่านี้เหมือนกันก็ตาม แต่เราอาจได้ใช้ชีวิตร่วมกับสุนัขมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น จึงคุ้นเคยท่าทางนี้จากสุนัขมากว่า เลยเรียกเป็นชื่อนี้นี่แหละ พูดปุ๊บก็นึกออกปั๊บ
ทำไมท่านี้มันฟินกว่าใครเขา
แล้วอะไรที่ทำให้ท่านี้ครองใจใครหลายคน จนได้เป็นท่ายอดฮิตอันดับหนึ่งของมวบมนุษยชาติ อย่างแรกเลย เป็นเรื่องของสรีระ แนน ไวส์ (Nan Wise) นักประสาทวิทยาและนักจิตบำบัด ผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กซ์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า ท่านี้ช่วยให้แก่นกายของผู้ชาย สามารถเข้าไปได้ลึกล้ำยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือสามารถเข้าไปกระตุ้นผนังช่องคลอดด้านหน้า (ฝั่งติดหน้าท้อง) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่าง G-Spot ที่รวมเอาเส้นประสาทมากมายไว้ หรือต่อให้หา G-Spot ไม่เจอ แต่การกระตุ้นไปยังผนังช่องคลอดด้านหน้า ก็เพียงพอที่จะสร้างความสุขสมได้เช่นกัน
อย่างต่อมา ท่านี้ทั้งฝ่ายสอดใส่และฝ่ายรับ ต่างอยู่ในท่วงท่าที่ถนัดและจัดระเบียบร่างกายได้ดี ฝ่ายรับนั้น สามารถขยับช่วงสะโพกขึ้นหรือลงตามจังหวะได้ เลือกตั้งขาและเข่าหากอยากปะทะ หรือนอนราบลงไปหากต้องการพักเหนื่อย ฝ่ายสอดใส่เอง ก็สามารถจับสะโพกของฝ่ายรับให้กระชับยิ่งขึ้น เหมือนได้คุมเกมด้วยตัวเอง รวมทั้งเพิ่มความแนบชิดของทั้งสองฝ่าย โดยไม่มีขามากั้นกลางเหมือนท่า Missionary อีกด้วย
และที่ขาดไม่ได้คือ มันเป็นเซนส์ของการเปลี่ยนบรรยากาศ แม้เราจะชื่นชอบที่ได้มองหน้าอีกฝ่ายแค่ไหน แต่เซ็กซ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เริ่มและจบในท่าเดียว การได้เปลี่ยนท่าทางไปตามจังหวะที่เหมาะ ช่วยเติมรสชาติให้เราได้รับความใกล้ชิดจากองศาอื่นไปเรื่อยๆ ได้เห็นร่างกายของอีกฝ่ายในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้ย้ายสถานที่เป็นจุดอื่นที่ตื่นเต้นกว่าเดิม และแน่นอนว่า ท่านี้เป็นท่าที่ยืดหยุ่นมากพอที่จะกลมกลืนไปกับ โซฟา โต๊ะ เคาน์เตอร์ กำแพง หรือแม้แต่หน้ากระจก
แม้มันจะเสวกระสันซ่านกระเซ็นยังไง แต่สังเกตไหมว่าเราจะพูดถึงมันในแง่ของการเป็นท่าระหว่างเซ็กซ์ ไม่ใช่ท่าเริ่มต้น เพราะท่านี้เองก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง แนน ไวส์ คนดีคนเดิม แนะนำว่า หากต้องการจะเริ่มท่านี้ก็ต้องแน่ใจด้วยว่าพื้นที่ลับๆ นั้นชุ่มฉ่ำและพร้อมให้ความร่วมมือแล้วจริงๆ เพราะท่านี้มันจะเกิดการเสียดสีมากพอสมควร หากเข้าไปโดยยังไม่ชุ่มชื้นมากพออาจทำให้ผิวอ่อนนุ่มบาดเจ็บได้
แม้ท่าเดิมจะวาบหวาม แต่เราก็สามารถเพิ่มลูกเล่นให้กับท่านี้ให้สุดเหวี่ยงได้ยิ่งขึ้น
- เปลี่ยนสถานที่ได้อย่างยืดหยุ่น พอเป็นท่านี้แล้ว สามารถเป็นได้ทั้งท่ายืน ท่าคุกเข่า เลยทำให้ท่านี้ค่อนข้างยืดหยุ่นที่จะไปอยู่ในพื้นที่ใดก็ได้ หากเบื่อที่จะอยู่บนเตียงนุ่มสบายหลังแบบเดิมๆ ลองใช้ท่านี้กับพื้นที่อื่นๆ ในบ้าน เป็นการเริ่มต้นที่ง่ายและจัดระเบียบร่างกายได้สะดวกกันทั้งคู่
- มีของเล่นมาแจม แม้พื้นที่ชุ่มน้ำกำลังใช้งานอยู่ แต่พื้นที่อ่อนไหวอื่นๆ ก็ยังว่าง ของเล่นผู้ใหญ่สามารถเข้ามาเป็นตัวเลือก ช่วยกระตุ้นความเสวซ่านในพื้นที่อ่อนไหวอื่นๆ ให้ได้ทวีคูณความเสวไปพร้อมกัน อาจเริ่มจากการกระตุ้นคลิตอริสด้านหน้า หรือถ้ารักความตื่นเต้นยิ่งกว่า ก็สามารถเติมเต็มช่องด้านหลังให้แน่นขนัดไปพร้อมกันได้
- ผลัดกันเป็นฝ่ายคุมจังหวะ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ท่านี้ทั้งคู่จะสามารถจัดระเบียบร่างกายตัวเองได้ถนัด ฝ่ายสอดใส่ที่ท่านี้อนุญาตให้เข้าไปทักทายภายในได้ลึกกว่าท่าเบสิก ไม่จำเป็นต้องรัวเร็วเป็นกระต่าย ลองควบคุมจังหวะให้เหมาะสม อาจเพิ่มมิติให้กับจังหวะในเกมรักได้มากกว่า ฝ่ายรับเองก็สามารถเป็นฝ่ายคุมเกมได้เหมือนกัน ลองผลัดมาเป็นฝ่ายรับดูบ้างที่ควบคุมจังหวะ เกร็งต้นขาและสะโพก โยกย้ายขยับไปตามจังหวะที่ตัวเองต้องการดูบ้าง แอบกระซิบว่าเหนื่อยน้อยกว่าท่า On Top ด้วยซ้ำ
ด้วยเรื่องของสรีระที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายแนบชิดกันยิ่งขึ้น รวมถึงได้เปลี่ยนบรรยากาศจากความยืดหยุ่นของท่านี้ ที่จับไปใส่ตรงไหนก็อร่อย ทำให้ท่านี้กลายเป็นท่ายอดฮิตโดยไม่ต้องสงสัย แม้ตัวมันเองจะรื่นรมย์ขนาดไหน ก็สามารถเพิ่มลูกเล่นได้อีกมากมาย ลองเพิ่มสีสันให้ท่านี้เป็นความสนุกของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ความสนุกจากการคุมเกมของฝ่ายเดียว เพราะเซ็กซ์เป็นกิจกรรมที่มีความพอใจของทั้งสองฝ่ายเป็นจุดพอใจสูงสุด
หากใครที่ยังไม่ได้ลองใส่ใจรายละเอียดกับท่านี้ ลองเก็บไปข้อมูลไปทดสอบระบบดูสักทีก็ยังทันนะ 😛
อ้างอิงจาก